Apple มีแผนลดการผลิต iPhone และ AirPods เพราะอัตราเงินเฟ้อจากสงครามยูเครน-รัสเซีย

มีรายงานว่า Apple วางแผนที่จะลดอัตราการผลิต iPhone SE ลงถึง 20% ในไตรมาสหน้า เนื่องจากสงครามในยูเครนอาจส่งผลให้เกิดอัตราเงินเฟ้อ ที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุปสงค์ของผู้บริโภคสำหรับการหาซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

อย่างที่เราทราบกันว่า Apple เพิ่งเปิดตัว iPhone SE รุ่นราคาประหยัดที่รองรับ 5G เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่าแอปเปิ้ลเราแจ้งต่อซัพพลายเออร์หลายรายว่า จะลดใบสั่งการผลิตลงประมาณ 2-3 ล้านเครื่องในไตรมาสนี้

โดยแอปเปิลอ้างถึงความต้องการสินค้าที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แถมยังมีข่าวว่าแอปเปิลได้ลดคำสั่งซื้อหูฟัง AirPods ลงมากกว่า 10 ล้านชุดในปี 2022 เนื่องจากเกรงว่าความต้องการด้านอุปสงค์ของผู้บริโภคจะลดลงอย่างต่อเนื่อง

จากข้อมูลการวิจัยของ Counterpoint Research เผยว่า แอปเปิลมียอดจัดส่ง AirPods อยู่ที่ประมาณ 76.8 ล้านชุด ในปี 2022 และเริ่มมีการคาดการณ์กันว่ายอดจัดส่งโดยรวมอาจมีแนวโน้มลดลงในปี 2023

iPhone SE

นอกจากนี้ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า แอปเปิลได้แจ้งกับผู้ผลิตชิ้นส่วนว่า ให้ทำการผลิต iPhone 13 ทุกรุ่นน้อยลงกว่าแผนที่วางไว้ก่อนหน้านี้ถึง 2-3 ล้านเครื่องเช่นกัน แต่ทางแอปเปิลให้เหตุผลว่า จะมีการปรับลดหรือเพิ่มอัตราการผลิตตามความต้องการของผู้บริโภคในฤดูกาลต่าง ๆ

ทั้งหมดนี้ตอกย้ำถึงแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หลังจากที่เกิดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนชิปที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานหลายปี ทำให้ปัญหาทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่สมาร์ทโฟน, พีซี ไปจนถึงรถยนต์ด้วย

ขณะนี้ทั้งฝั่งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ไปจนถึงญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ และไต้หวัน ก็เริ่มกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียเนื่องจากการรุกรานยูเครนกันบ้างแล้ว ซึ่งตอนนี้ห่วงโซ่อุปทานเริ่มได้รับผลกระทบจากความวุ่นวายเหล่านี้ ทั้งในตลาดน้ำมัน, พลังงาน และวัตถุดิบ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอัตราเงินเฟ้อมากขึ้นทุกที

AirPods

ก่อนหน้านี้แอปเปิลได้สั่งยุติการขายและการผลิตในรัสเซีย หลังจากที่เกิดสงครามได้ไม่นาน ซึ่งแอปเปิลนั้นถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 3 ในรัสเซีย ที่มียอดขายไอโฟนสูงประมาณ 5 ล้านเครื่อง ทำให้มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 16% ในปี 2021 และยังเป็นผู้ผลิตพีซีอันดับ 5 ในตลาดรัสเซียอีกด้วย

การที่แอปเปิลเริ่มสั่งลดอัตราการผลิตของอุปกรณ์ต่าง ๆ ลงนั้น อาจจุดประกายผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายอื่น ๆ ในการปรับลดอัตราผลิต และแยกสินค้าคงเหลือในตลาด ท่ามสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้

เนื่องจากความวุ่นวายในยูเครนและความเสี่ยงที่ลดลงในหลาย ๆ ประเทศ ทาง IMF คาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกจะอยู่ที่ 4.4% ในปีนี้

ในขณะที่ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้ที่ 5.5% ใน ซึ่งถือว่าน้อยที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม แอปเปิลยังคงปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวลือเหล่านี้

ที่มา nikkei