Intel อาจเปิดตัว GPU รุ่นใหม่อย่าง Intel Arc Alchemist ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2022 ที่หลายๆ คนหวังว่าจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลน GPU ในท้องตลาดตอนนี้ได้
ตอนนี้การ์ดจอของทางฝั่ง Nvidia และ AMD กำลังค่อย ๆ ขาดตลาด ในขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคนั้นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงคาดหวังว่าการเปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ของ Intel จะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนนี้ลงได้บ้าง
ตอนนี้ Intel ได้เริ่มใช้การ์ดจอ Arc Alchemist สำหรับอุปกรณ์พกพาบางรุ่นแล้ว เช่น Lenovo IdeaPad Gaming 3i และ Galaxy Book2 Pro ของ Samsung ที่มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Alder Lake-P รุ่นที่ 12 และ Alder Lake-U กับการ์ดจอ Arc A380
การ์ดจอรุ่นใหม่นี้จะมีทั้งหมด 3 ซีรีส์ด้วยกันคือ A300, A500 และ A700 โดยรุ่น A300 นั้นน่าจะเหมาะสำหรับการทำงานทั่วไป และไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมสักเท่าไหร่ แต่จะมีข้อดีในด้านของการประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าคู่แข่งอย่าง Nvidia และ AMD
คาดว่าเหล่าเกมเมอร์น่าจะจับจ้องไปที่รุ่น A700 และ A500 ที่คาดว่าจะมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับ Radeon RX 6000 ของ AMD และ GeForce RTX 3000 ของ Nvidia ได้เลย โดยการ์ดจอเหล่านี้จะมาพร้อมหน่วยประมวลผลและ GDDR6 ถึง 16GB พร้อมกับใช้พลังงานที่ 175-225 วัตต์ และมีข่าวลือว่ามันจะมีราคา MSRP (ราคาที่ผู้ผลิตแนะนำให้ขาย) อยู่ที่ราว ๆ 400-500 ดอลลาร์
แน่นอนว่าการ์ดจอเหล่านี้คงไม่ได้วางขายจริงตามราคาที่บริษัทแนะนำ และถ้าหากตัวการ์ดจอไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคก็อาจจะทำให้ราคายิ่งสูงขึ้นกว่าเดิมด้วย ในขณะที่ทาง Intel ให้สัญญาว่าจะจัดส่งการ์ดจอรุ่นใหม่นี้ให้ได้หลายล้านชิ้นภายในปีนี้
มีรายงานว่าตอนนี้ Intel ยังไม่ได้ส่งตัวอย่าง Engineering qualification samples ของ GPU ซีรีส์ A700 และ A500 ไปให้ทางฝั่งพันธมิตร และอาจเริ่มมีการส่งตัวอย่างภายในสิ้นเดือนนี้ และมีการคาดเดากันว่าบริษัทจะเพิ่มเทคโนโลยีการเพิ่มสเกลของ XeSS แบบ open-access เข้ามาด้วย
ทางฝั่งสตูดิโออย่าง Ubisoft, 505 Games, IO Interactive, Kojima Productions, PUBG Studios และ Codemasters เองก็ได้สัญญาว่าจะรวมเทคโนโลยี XeSS เข้ากับเกมของพวกเขาด้วย แต่ก็คงต้องมาลุ้นกันว่าเทคโนโลยีนี้จะพร้อมใช้งานในเกมต่าง ๆ เมื่อไหร่
อย่างไรก็ตามการ์ดจอของ Intel ก็น่าจะวางจำหน่ายในช่วงที่การ์ดจอ Ampere และ AMD พร้อมที่จะรีเฟรชไลน์อัพ RDNA 2 ดังนั้นมันจึงอาจจะเป็นเรื่องยากสำหรับ Team Blue ที่จะแชร์ตลาดร่วมกัน
ที่มา techspot