ชายหนุ่มถูกจับกุม เพราะใช้ Apple Watch ซ่อนในรถของแฟนสาว เพื่อแอบติดตาม

อุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกและให้ประโยชน์แก่ผู้ใช้ ในทางกลับกัน หากนำมาใช้งานแบบผิดประเภท อาจก่อให้เกิดอันตรายและผลเสียตามมาได้

ปัจจุบัน มีการใช้อุปกรณ์ติดตามอิเล็กทรอนิกส์เพื่อกระทำความผิดทางอาญาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทางด้าน Apple เองต้องทำการอัปเดตอุปกรณ์ AirTag เพื่อเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยหลังจากอุปกรณ์ดังกล่าวถูกใช้งานเพื่อสอดแนมหรือการกระทำต่างๆ ที่ผิดกฎหมาย

ล่าสุด ชายชาวแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ถูกจับในข้อหาติดตามแฟนสาวโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยอุปกรณ์ที่ใช้กระทำการครั้งนี้คือ Apple Watch

Man arrest for tracking GF with Apple Watch

Lawrence Welch วัย 29 ปี ได้ใช้ Apple Watch ติดเข้ากับพวงมาลัยรถของแฟนสาวและใช้แอป Find My เพื่อติดตาม ต่อมา Welch ถูกตั้งข้อหาติดอุปกรณ์ติดตามอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต

ตอนนี้ Welch ปรากฏตัวที่ศูนย์ Family Safety Center แล้วและกำลังขอคำสั่งคุ้มครองแฟนสาวที่ไม่ขอระบุชื่อของ Welch โดยเหยื่อ (แฟนสาว) อ้างว่า Lawrence Welch ขู่ฆ่าเธอหลายครั้งก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมาถึงที่เกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุแล้วพบว่า Welch หมอบอยู่ข้างล้อรถของเหยื่อซึ่งทำให้เกิดความสงสัย ต่อมาเจ้าหน้าที่ค้นพบ Apple Watch ที่พวงมาลัยซึ่ง Welch ยืนยันว่าเป็นของเขา และถูกจับกุมในที่สุด

เหยื่อยังให้การเพิ่มเติมอีกว่า ตัวเธอและแฟนหนุ่ม ก่อนหน้านี้เคยใช้ Lift360 เพื่อติดตามการเคลื่อนไหวของกันและกันในอดีต แต่เธอปิดการทำงานของมันทุกครั้งที่ไปศูนย์ Family Safety Center

ความเห็นจากทีมงาน ล้ำหน้าฯ

การนำอุปกรณ์สื่อสารมาใช้งานเพื่อละเมิดผู้อื่นนั้น เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายประเทศ สำหรับทางแอปเปิล ก็จริงจังกับปัญหานี้และไม่สนับสนุนให้นำอุปกรณ์ต่างๆ ของแอปเปิลไปใช้งานที่ผิดวัตถุประสงค์

ก่อนหน้านี้ Airtag ที่ดูจะมีปัญหาในการถูกนำไปใช้เพื่อระบุตำแหน่งของผู้อื่น แทนที่จะเอาไว้ใช้สำหรับการติดตามสิ่งของที่สูญหาย ทาง Apple ล่าสุดได้มีการประกาศมาตรการที่พร้อมร่วมมือกับทางหน่วยงานรัฐ ในการให้ข้อมูลเจ้าของที่นำเอา AirTag ไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย

ที่มา : Gizmochina

นักเขียนหน้าใหม่ ผู้หลงไหลในเรื่อง แมว หมี เทคโนโลยี และ โลกของไอที :)