เอ็มจี เปิดตัว NEW MG ZS EV ด้วยแนวคิด Truly Easy รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นอย่างแท้จริง พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยและมีสมรรถนะสูง ด้วยมอเตอร์ขนาด 177 แรงม้า แบตเตอรี่ 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
ตอบโจทย์เอาท์ดอร์ไลฟ์สไตล์ด้วยฟีเจอร์ V2L (Vehicle to Load) จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้า ด้วยกำลังสูงสุดถึง 2,200 วัตต์ มั่นใจทุกการเดินทางด้วยเครือข่าย MG Super Charge หนึ่งในระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า (EV Ecosystem) ของเอ็มจี ที่รองรับการเดินทางทั่วประเทศ พิสูจน์แล้วจากการทดสอบการเดินทางทั่วประเทศรวมระยะทางกว่า 4,880 กิโลเมตร ในโปรเจค EV Marathon
เปิดตัว NEW MG ZS EV มาพร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ เงินจองจำนวน 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักจากราคาจำหน่ายเมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ และอุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท เฉพาะผู้ที่จองผ่าน www.mgcars.com ในระหว่างวันที่ 11-21 มีนาคม และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2565 เท่านั้น โดยจะประกาศราคาอย่างเป็นทางการในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ วันที่ 22 มีนาคมนี้
- เงินจอง 10,000 บาท จะมีมูลค่าเป็น 20,000 บาท เพื่อใช้หักออกจากราคาจำหน่าย NEW MG ZS EV เมื่อมีการส่งมอบรถอย่างเป็นทางการ
- รับประกับแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 180,000 กิโลเมตร
- รับประกันคุณภาพรถยนต์นาน 4 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร
- ฟรี! MG Home Charger พร้อมค่าติดตั้ง
- ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- ฟรี! อุปกรณ์เชื่อมต่อกระแสไฟ V2L มูลค่า 10,000 บาท
NEW MG ZS EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% “TRULY EASY” ยนตรกรรมที่จะทำให้ชีวิตของคุณ “ง่าย” ขึ้นอย่างแท้จริง
มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นตามแบบฉบับรถ SUV ของ MG เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความสปอร์ต ผสานเข้ากับเส้นสายที่ทันสมัย ลงตัวในทุกรายละเอียด พร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่สะท้อนภาพลักษณ์รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% มากยิ่งขึ้น
- มิติตัวถัง 4,323 x 1,809 x 1,649 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง)
- ระยะช่วงล้อ 2,585 มิลลิเมตร
- กระจังหน้า และกันชนหน้าแบบ GRILLE-LESS DESIGN
- ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ตอนกลางวัน (Daytime Running Lights)
- ไฟท้ายแบบ และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
- สปอยเลอร์หลังพร้อมราวหลังคา
- ล้ออัลลอยด์ ดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อแบบ Aero Wheel Cover
การออกแบบภายใน ให้พื้นที่ภายในกว้างขวาง มาพร้อมดีไซน์เรียบหรู แฝงความสปอร์ตพรีเมี่ยมด้วยคอนโซลหน้าลายคาร์บอนไฟเบอร์ และเบาะหนังดำเดินด้ายแดง พร้อมวัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน
- ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (Wireless Charger)
- พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
- หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว
- หน้าจอสีระบบสัมผัสดีไซน์ใหม่ ขนาด 10 นิ้ว
- หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)
- เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับ 4 ทิศทาง
- พื้นที่เก็บสัมภาระปรับได้ 2 ระดับ
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
- กระจกมองหลังตัดแสง
- ระบบกรองอากาศ PM 2.5
- ลำโพง 6 ตำแหน่ง
- ระบบเชื่อมต่อมัลติมิเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
สมรรถนะ ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 8.6 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่มีความจุ 50.3 kWh ทำให้สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดถึง 403 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พร้อมมีระบบ Liquid Cooling System ช่วยระบายความร้อนให้ทั้งมอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor
- แบตเตอรี่ Lithium-Ion ขนาด 50.3 kWh
- แบตเตอรี่มาตรฐานความปลอดภัย IP67 ในการป้องกันน้ำและฝุ่น
- ระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 3 ระดับ
- โหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Normal และโหมด Sport
- ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
- ดิสก์เบรก 4 ล้อ พร้อมระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
ส่วนด้านความปลอดภัย มาพร้อมระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัย FSF (Full Space Frame) ปรับแต่งระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION และมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยรอบคัน ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐาน Advanced Synchronized Protection System 20 ระบบ ได้แก่
- ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking)
- ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนพร้อมปรับองศาพวงมาลัยหากออกนอกเลน ELK (Emergency Lane Keeping System) ถือเป็นระบบใหม่ที่เพิ่มเติมเข้ามาเป็นครั้งแรก โดยผสานรวมระบบ LDP (Lane Departure Prevention) และ LKA (Lane Keep Assist) เข้าไว้ด้วยกัน
- ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
- ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
- ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
- ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
- ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-beam control)
นอกจากนี้ยังเสริมอุปกรณ์ความปลอดภัย อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็กแบบ ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) พร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง ระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง และระบบไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่อง
NEW MG ZS EV ทำให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย ด้วยระบบการชาร์จ 2 รูปแบบรองรับทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge พร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าของเอ็มจี MG Super Charge ที่ติดตั้งแล้วกว่า 120 แห่งทั่วประเทศ
- ชาร์จแบบเร็ว Quick Charge ชาร์จไฟฟ้าจาก 30% – 80% ใช้เวลาประมาณ 30 นาที*
- ชาร์จแบบธรรมดา Normal Charge ผ่าน MG HOME CHARGER 0% – 100% ใช้เวลาประมาณ
7 ชั่วโมง 15 นาที - ล่าสุด กับระบบจ่ายกระแสไฟ V2L (Vehicle to Load) จ่ายพลังงานจากรถสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น
*ระยะเวลาในการชาร์จ ขึ้นอยู่กับระดับแบตเตอรี่คงเหลือและกำลังของเครื่องอัดประจุไฟฟ้า
NEW MG ZS EV มาพร้อมระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่พร้อมทำให้ทุกการเชื่อมต่อในรถมีความง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ เชื่อมให้ผู้ใช้งานและรถเป็นหนึ่งเดียวกัน
Smart Check
- ระบบตรวจสอบสถานะรถยนต์ และระบบเตือนความผิดปกติของรถยนต์
- ระบบขอบเขตอิเล็กทรอนิกส์
- ระบบสั่งการ และระบบค้นหารถ Find My Car
- ระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่ การชาร์จ และสถานีชาร์จ
- ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
Smart Command
- กุญแจดิจิตอล
- ระบบสั่งการผ่านเสียงภาษาไทย
- ระบบควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- ระบบวางแผนการเดินทาง Travel Plan และตั้งค่าการเดินทางแบบ Team Travel
- ระบบโทรออก – รับสายกรณีฉุกเฉิน
- ระบบโทรอัตโนมัติกรณีฉุกเฉิน Emergency Call
- ระบบเลขาส่วนตัว MG Call Centre
- ระบบสั่งการชาร์จ สถานี MG Super Charge ผ่านทางสมาร์ทโฟน
Smart Connect
- ระบบนำทาง Navigation พร้อมรายงานการจราจรแบบ Real Time
- ระบบช่วยค้นหาร้านอาหาร และที่พักบนแผนที่นำทาง
- ระบบเล่นเพลงออนไลน์แบบสตรีมมิ่ง
- ระบบเรียกดูข้อมูลข่าวสาร เหตุการณ์ปัจจุบัน และอัพเดทข้อมูลพยากรณ์อากาศ
- อัพเกรดระบบต่าง ๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
NEW MG ZS EV มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 5 สี ได้แก่ ได้แก่ สีน้ำเงิน (Como Blue) สีเงิน (Cosmic Silver) สีแดง (Scarlet Red) สีดำ (Black Knight) และสีขาว (Arctic White)