Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X70 โมเด็ม 5G รุ่นใหม่ที่น่าจะเป็นโมเด็มของ Qualcomm ตัวสุดท้ายที่ Apple จะใช้สำหรับ iPhone ก่อนจะเปลี่ยนไปใช้ชิปที่บริษัทออกแบบเองภายในต่อไป
โดยทาง Qualcomm ให้รายละเอียดเกี่ยวกับโมเด็ม 5G ตัวล่าสุดสำหรับสมาร์ทโฟนว่าประกอบด้วยโปรเซสเซอร์ AI 5G ตัวแรกของโลกที่รวมอยู่ในระบบ 5G Modem-RF ที่ควรเพิ่มความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปลิงค์โดยเฉลี่ยบนแบนด์ mmWave และ sub-6Hz
Snapdragon X70 สืบทอดเรื่องความเหนือชั้นด้วยความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุด 10 กิกะบิต 5G ของรุ่นก่อน พร้อมกับคุณสมบัติขั้นสูงใหม่ เช่น Qualcomm 5G AI Suite , Qualcomm 5G Ultra-Low Latency Suite และการรวมตัวของผู้ให้บริการ 4X เพื่อให้ได้ความเร็ว 5G ที่ไม่มีใครเทียบ ความครอบคลุม คุณภาพสัญญาณ และเวลาแฝงที่ต่ำ
โดย Qualcomm 5G Ultra-Low Latency Suite ใน Snapdragon X70 ช่วยให้ฝั่ง OEM และผู้ให้บริการลดเวลาแฝงสำหรับประสบการณ์ผู้ใช้และแอป 5G ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว
ระบบโมเด็ม-RF รุ่นที่ 5 ของเราจะช่วยขยายความเป็นผู้นำ 5G ระดับโลก รวมถึงการประมวลผล AI 5G แบบเนทีฟจะช่วยแพลตฟอร์มและจุดเปลี่ยนสำหรับนวัตกรรมที่ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพ
ดังนั้น Snapdragon X70 จึงเป็นสิ่งที่เราตะหนักถึงศักยภาพที่เต็มประสิทธิภาพของ 5G และช่วยสร้างการเชื่อมต่อที่ชาญฉลาดให้เกิดขึ้นจริงบนโลก
Durga Malladi รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของฝ่าย 5G Mobile Broadband and Infrastructure
ข้อมูลตามที่บริษัทระบุไว้ Snapdragon X70 สามารถเข้าถึงความเร็วดาวน์ลิงก์สูงสุด 10Gbps และความเร็วในการอัพโหลดสูงสุด 3.5Gbps ช่วยให้ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น 60% ด้วยเทคโนโลยี 5G PowerSave Gen 3 ที่สำคัญ โมเด็มตัวนี้รองรับ 5G multi-SIM และ Dual-SIM Dual Active
คาดว่าจะมีการเปิดตัวโมเด็ม Snapdragon X70 ในอุปกรณ์ 5G ภายในสิ้นปีนี้ แม้จะไม่มีการระบุที่ชัดเจนว่าจะปรากฏให้เห็นใน iPhone 14 หรือใน iPhone รุ่นในอนาคตหรือไม่ก็ตาม
ในข้อตกลงยุติการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดำเนินมาอย่างยาวนานระหว่าง Apple และ Qualcomm ในปี 2020 นั้น มีการเปิดเผยข้อมูลเอาไว้ว่า Apple ตั้งใจจะใช้โมเด็มรุ่น X65 และ X70 ในผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวช่วง 1 มิถุนายน 2022 ถึง 31 พฤษภาคม 2024 ซึ่งดูเหมือนว่า X65 ใช้กับ iPhone 14 ในขณะที่โมเด็มที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง X70 จะใส่มากับ iPhone ซีรีส์ปี 2023
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลจากรายงานอื่น ๆ เช่นกันว่า Apple จะใช้โมเด็ม 5G ที่ออกแบบเองกับ iPhone รุ่นปี 2023 ดังนั้น จึงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะได้ใช้โมเด็ม X70 หรือไม่ อาจมีความเป็นไปได้ที่ Apple จะใช้งานชิปของตัวเองในภูมิภาคส่วนใหญ่ และใช้ X70 ของ Qualcomm ในบางพื้นที่/บางรุ่น ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าทำไม Qualcomm ถึงเคยกล่าวเอาไว้ว่าบริษัทคาดว่าจะจัดหาโมเด็มให้ iPhone ของ Apple ในปี 2023 เพียง 20% เท่านั้น
เมื่อข้อตกลงระหว่าง Apple กับ Qualcomm สิ้นสุดลง Apple จะเปลี่ยนไปใช้งานโมเด็มอุปกรณ์มือถือที่ทำการออกแบบเองสำหรับอุปกรณ์ในอนาคต
ที่มา : MacRumors