รีวิว OPPO Find X5 Pro 5G สมาร์ตโฟนแฟลกชิป ดีไซน์สวยงาม ทรงพลัง โดดเด่นด้วยกล้องที่ขับเคลื่อนด้วย MariSilicon X ช่วยให้ถ่าย 4K Ultra Night Video และรูปภาพได้สวยงามแม้ในที่แสงน้อย และยังร่วมมือกับ Hasselblad แบรนด์กล้องชื่อดังระดับโลก ยกระดับการถ่ายภาพและวิดีโอบนสมาร์ตโฟนให้ดีขึ้นได้อย่างน่าประทับใจ ราคา เปิดตัวในไทย 39,990 บาท
สมาร์ตโฟนในตระกูล Find X Series ของ OPPO นั้น ถือว่ามีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ในเรื่องของเทคโนโลยี นวัตกรรมที่ล้ำหน้า ดีไซน์ที่สวยงาม และประสิทธิภาพในการทำงานที่เปี่ยมพลังในทุกด้าน และในปีนี้ OPPO Find X5 Pro 5G ยังคงสืบสานและต่อยอดตำนานสู่ก้าวใหม่ ที่มอบประสบการณ์บนสมาร์ตโฟนได้สมบูรณ์ในทุกๆ ด้านอย่างอย่างเหมาะเจาะลงตัวที่สุด
สเปก OPPO Find X5 Pro 5G
- ขนาด 163.7 x 73.9 x 8.5 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 218 กรัม
- ตัวเครื่อง ฝาหลังเซรามิค มีให้เลือก 2 สี Ceramic White และ Glaze Black
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68
- หน้าจอ AMOLED LPTO ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด WQHD+ (3216 x 1440) รีเฟรชเรต 120Hz
- ระบบปฎิบัติการ ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
- ชิปประมวลผลภาพ MariSilicon X Imaging NPU
- RAM 12GB
- หน่วยความจำภายใน 256GB
- กล้องหน้า 32MP Sony IMX709 RGBW f/2.4 มุมกว้าง 90 องศา
- กล้องหลัง 3 ตัว
- กล้องหลักมุมกว้าง 50MP Sony IMX766 ระบบกันสั่น 5-axis OIS f/1.7 มุมกว้าง 80 องศา
- กล้องมุมกว้าง Ultra-wide 50MP Sony IMX766 f/2.2 มุมกว้าง 110 องศา
- กล้องเทเลโฟโต 13MP f/2.4
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- ระบบชาร์จแบบสาย 80W SUPERVOOC ชาร์จเต็ม 50% ภายใน 12 นาที
- ระบบชาร์จไร้สาย 50W AIRVOOC ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 47 นาที
- ระบบระบายความร้อน Cutting-edge Graphene film และ Vapor Chamber ขนาดใหญ่พิเศษ
- พอร์ต USB-C
- ลำโพงเสียงสเตอริโอ รองรับ Dolby Atmos
- รองรับ 2 ซิม 5G SA/NSA (มี eSim)
- ราคา เปิดตัว 39,990 บาท
ก่อนที่จะเริ่มการ รีวิว OPPO Find X5 Pro 5G ก็จะขอเริ่มต้นด้วยการแกะกล่องตัวแพ็กเกจกันก่อน ตัวกล่องยังคงมาในขนาดมาตรฐานแบบที่ OPPO ใช้ประจำ ซึ่งวัสดุที่ใช้ทั้งหมดเป็นกระดาษที่สามารถนำไปรีไซเคิลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในกล่องจะมีเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เข็มจิ้มถาดซิม, บัตรรับประกัน Premium Service VIP Card และเคสกันรอยมาให้ด้วย
ด้านล่างสุดในกล่อง จะเป็นอุปกรณ์สำหรับชาร์จมาให้เรียบร้อย ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้วุ่นวาย มีให้ทั้งสาย USB และ ตัวอะแดปเตอร์ที่รองรับ 80W SUPERVOOC ครบเซ็ตพร้อมใช้งานได้ทันที
OPPO Find X5 Pro 5G ดีไซน์สวยล้ำ คลาสสิกเหนือกาลเวลา
OPPO Find X5 Pro 5G เปิดตัวในไทยพร้อมกันทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว Ceramic White และ สีดำ Glaze Black การออกแบบที่มีความปราณีตอย่างพิถีพิถัน ด้วยตัวเครื่องเป็นแบบ Unibody ที่มีความโค้งมนรอบทั้งเครื่อง การขึ้นรูปที่ใช้ Control point มากกว่า 2,000 จุด เพื่อให้ได้เส้นสายความโค้งได้อย่างสวยลงตัว
ครั้งนี้ OPPO เพิ่มความพรีเมียมให้กับ OPPO Find X5 Pro 5G ด้วยการเลือกใช้วัสดุฝาหลังเป็น Nanometer Microcrystaline Ceramic ที่ผ่านขั้นตอนการผลิตยาวนานกว่า 168 ชั่วโมง จนได้พื้นผิวที่มีความแข็งเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับวัสดุที่เป็นกระจก
กระบวนการผลิตนั้น จะมีมากถึง 45 ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการเสริมความแกร่งของเกรนละเอียดระดับไมโคร, กระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูง 1,000 องศาเซลเซียส และกระบวนการขัดซ้ำด้วย diamond knives และ daimond liquid และยังมีเทคโนโลยี CNC แกะสลักด้วยความเย็น ทำให้สร้างแสงเงาคู่ขนานบนพื้นผิวขอบโค้งอย่างสวยงาม
ด้านหลังเครื่องจะเห็นการออกแบบที่สวยเป็นเอกลักษณ์ ตัวชุดโมดูลกล้องที่นูนขึ้นเป็นรูปทรงแบบไม่สมมาตรที่ไม่เหมือนใคร และไม่ได้นูนขึ้นมาแข็งๆ ทื่อๆ แต่มีการทำเป็นการนูนโค้งแล้วตัดเรียบ ทำให้รู้สึกว่ากล้องนั้นนูนขึ้นจากฝาหลังไม่มาก และถ้ามองในบางมุมก็ให้ความรู้สึกว่ากล้องนั้นราบเรียบกับฝาหลัง ถือว่าเป็นการออกแบบที่น่าชื่นชมมาก
ขอบของตัวเครื่องก็จะมีความโค้งมนด้วยเช่นกัน เพื่อให้ความละมุนและถือจับได้อย่างถนัดมือ ทางด้านขวาจะมีปุ่ม Power ส่วนทางซ้ายจะเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดเสียง
ด้านล่างของตัวเครื่อง ช่องลำโพงเสียง พอร์ตแบบ USB-C สำหรับเสียบชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และช่องของไมค์เสียงสนทนา
ช่องของถาดซิมจะอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่องด้วยเช่นกัน ใส่เป็นแบบ Nano SIM ได้ 2 ซิม ไม่รองรับเพิ่มหน่วยความจำด้วย microSD
ตัวเครื่องการออกแบบที่แม้ว่าจะเน้นที่ความบางโค้งมน แต่ก็มีความทนทาน เพราะฝาหลังเซรามิกนั้นมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ด้วยหน้าจอก็ใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass Victus ที่ทนต่อแรงกระแทกและรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ใช้มายิ่งขึ้น กับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นในระดับสูงสุดที่ IP68 หมดกังวลในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นฝนตก น้ำกระเซ็น หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน
หน้าจอ 1 พันล้านสี Bionic Display
OPPO ถือเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายแรกๆ ของโลก ที่นำเสนอหน้าจอแบบ 10 บิต ที่สามารถแสดงเฉดสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี ทำให้ภาพที่แสดงสามารถสร้างโทนสีและไล่ระดับได้อย่างเรียบเนียนตา เห็นถึงความลึกและช่วงของการเปลี่ยนสีที่ละเอียดอ่อนที่สุด
อีกทั้งยังให้ความเที่ยงตรงของขอบเขตสี sRGB และ DCI-P3 ที่มีระยะช่วงของสีที่กว้างและลึกสูง ทำให้หน้าจอของ OPPO Find X5 Pro 5G แสดงภาพได้สวยงามและมีความเที่ยงตรงสมจริง
ตัวหน้าจอมีขนาด 6.7 นิ้ว แบบ AMOLED LPTO ความละเอียด WQHD+ (3216 x 1440) สัดส่วนเต็มพื้นที่ถึง 92.7% ปรับค่าความสว่างได้ถึง 8192 ระดับ สว่างสูงสุดได้ถึง 1300nit
รับชมคอนเทนต์และเล่นเกมบนหน้าจอได้อย่างลื่นไหล ด้วยค่ารีเฟรชเรต 120Hz สำหรับการเล่นเกมกดสัมผัสได้แม่นยำ ด้วยค่า Touch Sampling rate สูงถึง 1000Hz โดยอัตราการรีเฟรชจะเป็นแบบ Dynamic ที่ OPPO พัฒนาขึ้นมา โดยระบบจะเลือกปรับโดยอัตโนมัติ ระหว่าง 1-120Hz ตามแต่การใช้งานอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการรับชมวิดีโอ, อ่านหนังสือ, เปิดเว็บไซต์, เล่นเกม, ถ่ายภาพ ฯลฯ เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่
นอกจากนี้ OPPO ยังใส่เทคโนโลยี 01 Ultra Vision Engine ในการปรับความคมชัดของวิดีโอให้สูงขึ้น จากระดับ 720p และ 1080p ให้รับชมบนจอความละเอียดสูงสุดที่ 2160p ของ OPPO Find X5 Pro 5G ได้อย่างเต็มอารมณ์ และยังรองรับ HDR10 และ HDR10+ ถือว่าหน้าจอที่มีคุณภาพสูงสุดสำหรับสมาร์ตโฟนในยุคปัจจุบันนี้
ระบบกล้องพันล้านสี ขับเคลื่อนโดย MariSilicon X
OPPO Find X5 Pro 5G ถูกออกแบบมาให้รองรับกับ Full-Path 10-bit Color Management System ตั้งแต่การแสดงผลหน้าจอ ไปจนถึงกล้องทุกตัว ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลังทั้ง 3 ตัว และกล้องหน้าเซลฟี่ สามารถบันทึกภาพได้พันล้านสี จึงทำให้กระบวนการทั้งแสดงผลและบันทึกเป็น 10 บิตทั้งระบบ
เรื่องกล้องในสมาร์ตโฟนนั้น OPPO ตั้งใจและพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนสามารถเก็บภาพและวิดีโอได้ดีที่สุด และหัวใจสำคัญกับความล้ำหน้าในเทคโนโลยีกล้องใน OPPO Find X5 Pro 5G ก็คือ MariSilicon X Imaging NPU ชิปประมวลผลภาพที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นมาเอง
MariSilicon X ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการระดับ 6 นาโนเมตร ทำหน้าที่ด้านการประมวลผล AI ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 18,000 ล้านคำสั่งต่อวินาที และประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันที่ 11.6 TOPS/W จึงทำให้สามารถถ่าย 4K Ultra Night Video เก็บภาพวิดีโอระดับ 4K ในสภาพแสงน้อย ให้แต่ละเฟรมมีความคมชัดได้ราวกับภาพนิ่งเป็นครั้งแรก
พลังของ MariSilicon X นั้น ยังช่วยให้บันทึกวิดีโอ HDR ได้ถึงช่วงไดนามิกเรนจ์ 20 บิต, 120 db ทำได้มากกว่ารุ่นก่อนอย่าง OPPO Find X3 Pro 5G ถึง 4 เท่า ด้วยค่าคอนทราสต์ 1,000,000 : 1 จึงทำให้สามารถเก็บรายละเอียดทั้งในที่มืดสุดและสว่างสุดได้ดียิ่งกว่าเดิม
อีกทั้งการทำงานภาพระดับสูง สามารถประมวลผล RAW ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ได้ไฟล์ที่ไม่มีการบีบอัดสำหรับไปใช้งานโปรดักชันระดับโปรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
คราวนี้จะมาดูกล้องแต่ละตัวของ OPPO Find X5 Pro 5G กันบ้างว่า มีสเปคอย่างไรบ้าง
- กล้อง Wide 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX766 ขนาดพิกเซล 2um (หลังประมวลผล) รูรับแสง f/1.7 ระบบกันสั่น 5-axis ระดับ SLR ชิ้นเลนส์แบบกระจก
- กล้อง Ultra-wide 50 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ IMX766 ขนาดพิกเซล 2um (หลังประมวลผล) รูรับแสง f/2.2 มุมมองภาพ 110 องศา เลนส์แบบ Freeform
- กล้อง Tele 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
ความพิเศษอย่างแรกของเซ็ตอัพกล้องหลังของ OPPO Find X5 Pro 5G เป็นกล้องหลักแบบคู่ คือ กล้อง Wide และ Ultra-wide จะใช้เซ็นเซอร์เป็น Sony IMX766 ความละเอียด 50 ล้านพิเซล เหมือนกันทั้ง 2 กล้อง ทำให้การเก็บภาพและวิดีโอในมุมกว้างและมุมปกติ มีความสม่ำเสมอและแม่นยำของสีที่เท่ากัน
อีกทั้งตัวชุดเลนส์ที่ใช้ใน OPPO Find X5 Pro 5G จะใช้เป็นเลนส์แก้วมาผสมผสานเพื่อให้การทำงานดีขึ้น สามารถลดความคลาดเคลื่อนของสีลงได้ถึง 77% เมื่อเทียบกับการใช้ชุดเลนส์พลาสติกทั้งระบบ
OPPO ยังเพิ่ม SLR-level 5-Axis Image Stabilization ระบบกันสั่นไหวของภาพแบบออปติคอล 5 แกน บนสมาร์ตโฟนเป็นครั้งแรก ประกอบด้วยกันสั่นที่เซ็นเซอร์ 3 แกน และ OIS ที่เลนส์ อีก 2 แกน สามารถลดการสั่นไหวของภาพได้ระยะถึง 3 องศา เมื่อระบบ OIS 5 แกนทำงานร่วมกับ AI ใน MariSilicon X จึงทำให้ไม่ต้องกังวลปัญหาภาพเบลอไม่ชัดในการถือสมาร์ตโฟนถ่ายภาพอีกต่อไป
อีกจุดที่มีการอัปเกรดให้ดีขึ้นใน OPPO Find X5 Pro 5G คือการเปลี่ยนเซ็นเซอร์วัดค่าสีจาก 5-Channel RGBCW มาเป็น 13-Channel Spectral Sensor ที่มีความแม่นยำมากขึ้น มาทำงานร่วมกับอัลกอริธึมประมวลผลค่าอุณหภูมิสี White Balance แบบอัปเกรดแล้ว จึงสามารถทำให้โทนสีภาพ และโทนสีผิวในการถ่ายพอร์ตเทรตสวยแม่นยำขึ้น ในทุกช่วงเวลาที่ถ่าย
ร่วมกับ Hasselblad มอบประสบการณ์ถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนที่สวยเป็นธรรมชาติ
เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น เมื่อ OPPO จับมือเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกันเป็นครั้งแรก กับ Hasselblad แบรนด์กล้องระดับตำนานของโลก ด้วยการทำงานร่วมกันของทีมกล้องของ OPPO และวิศวกรของ Hasselblad ทำให้หน้าตาของ User Interface และเสียงชัตเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ ถูกผสานเข้ามาใน OPPO Find X5 Pro 5G
ที่สำคัญ ยังได้พัฒนา Natural Color Calibration อันเป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad ให้เข้ามาสู่ระบบกล้องของ OPPO Find X5 Pro 5G ทำให้ได้โทนสีในการถ่ายภาพที่สวยงาม เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมี Master Filters ที่ให้เลือกปรับโปรไฟล์สีของภาพให้ได้สไตล์ที่เป็นมืออาชีพ สวยงามอย่างโดดเด่น
สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ของ OPPO Find X5 Pro 5G ที่ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX709 แบบ RGBW ช่วยในเรื่องการเก็บแสงสว่างได้มากขึ้นถึง 60% เมื่อทำงานร่วมกับ MariSilicon X แล้ว ทำให้การถ่ายเซลฟี่ดูดีขึ้นกว่าเดิม ได้สกินโทนของผิวที่สวยงาม แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแสงที่แรงจ้าก็ตาม
นอกจากนี้ในการถ่ายเซลฟี่ยังปรับองศาของกล้อง จากปกติที่ 80 องศา ให้เป็น 90 องศา เพื่อเก็บภาพเซลฟี่แบบกลุ่ม และยังสามารถจับโฟกัสใบหน้าได้พร้อมกันหลายคน ไม่ต้องกังวลว่าเซลฟี่มาแล้วใครจะหน้าไม่เป๊ะอีกต่อไป
ทดสอบลองใช้งานกล้องในโหมดต่างๆ
จุดเด่นเรื่องกล้องที่ OPPO ชูสำหรับรุ่นนี้คือ 4K Ultra Night Video ที่ทดสอบดูแล้วทำได้ดีมาก ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า ความสามารถนี้ไม่ใช่ “ถ่ายกลางคืนให้สว่างเป็นกลางวัน” แต่เป็นการ “ถ่ายกลางคืนให้สวยงามแบบกลางคืน”
การถ่ายวิดีโอในเวลากลางคืนของ OPPO Find X5 Pro 5G สามารถถ่ายเก็บรายละเอียดของภาพได้อย่างคมชัด ในทั้งส่วนของเงามืดและสว่างจ้า คือภาพจะไม่มืดสนิทหรือสว่างโพลน ส่วนความสว่างโดยรวมของภาพนั้น จะสว่างกว่าตาเห็นปกติ ด้วยเซ็นเซอร์เป็นแบบ RGBW ที่เก็บแสงได้มากกว่าปกติ
ต่อมาคือสีสันของแสงไฟในตอนกลางคืนจะมีความความคมชัดไม่พร่าหรือฟุ้ง โดยอุณหภูมิของสีจะค่อนข้างเที่ยงตรง และด้วยระบบกันสั่น OIS 5 แกน ทำให้การถ่ายวิดีโอจับโฟกัสได้อย่างแม่นยำ
การถ่ายวิดีโอกลางคืนบน OPPO Find X5 Pro 5G จึงได้ภาพที่สวยงามไปทางสมจริงเป็นธรรมชาติ โดยได้คมชัดสูงสุดถึง 4K 60fps สามารถนำไปใช้ปรับแต่งหรือครอปย่อภาพแล้วยังได้ความคมชัดอยู่
มาเรื่องของการถ่ายภาพนิ่ง เสน่ห์ของ Hasselblad ไม่ได้ใส่มาให้แค่ชื่อ แต่มีกลิ่นอายและคาแรคเตอร์ของสีที่ดูเป็นโปรมากๆ โทนสีจะมีความนุ่มนวล กลิ่นอายคล้ายๆ กับกล้องฟิล์ม โดยการทำงานของ AI นั้นจัดการภาพให้ได้ออกมาสวยงามในทุกช็อตที่ถ่าย
และที่ทึ่งมากๆ คือ การถ่ายภาพโดยเปิดใช้งาน AI นั้นสามารถประมวลผลได้ที่ระดับ 50 ล้านพิกเซลทั้งกล้อง wide และ Ultra-wide ที่ปกติแล้วเวลาเราเปิดใช้ AI จะใช้ประมวลผลแล้วบีบอัดพิกเซลลงมาเหลือที่ 12 ล้านพิกเซล ทำให้เวลาที่ถ่ายภาพผมจะเลือกไว้ที่ 50MP ตลอด
และไม่ใช่แค่รูปภาพเท่านั้น ในการถ่ายวิดีโอ ก็สามารถเลือกเปิดใช้ AI ในระดับความละเอียดสูงสุดที่ 4K ต้องชื่นชมประสิทธิภาพของ MariSilicon X ที่ทำงานประมวลผลในภาพและวิดีโอความละเอียดสูงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สำหรับโหมดกล้องอื่นๆ ก็มีให้เลือกใช้อีกหลายแบบ ที่มีความน่าสนใจ
XPan : เป็นการนำเอาเอกลักษณ์ของกล้องฟิล์มของ Hasselblad มาให้ใช้ในสมาร์ตโฟน จุดเด่นคือสัดส่วนของภาพที่เป็น 65:24 แบบยาวพิเศษ ให้ภาพที่มีความเป็น Cinemetic และกล้องจะไม่สามารถปรับระยะซูมได้ มีเลือกปรับได้แค่ EV เพิ่มลดแสง และเปลี่ยนโทนสีกับขาวดำเท่านั้น
โหมดนี้ให้บรรยากาศเหมือนใช้กล้องฟิล์มคือ เมื่อกดชัตเตอร์ถ่าย จะมีการจับภาพเป็นแบบ Negative แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสี positive ให้จังหวะมีการรอภาพที่ถ่าย และยังมีเสียงชัตเตอร์แบบ Leaf Shutter ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad ก็ยิ่งได้อารมณ์ในการถ่ายภาพที่สุนทรีย์ยิ่งขึ้น
ตัวอย่างภาพจากโหมด XPan
Pro : โหมดถ่ายภาพแบบโปร ที่ปรับแต่งค่ากล้องต่างๆ ได้แบบ Manual เหมือนใช้กล้อง DSLR และสามารถเลือกบันทึกไฟล์ได้ 3 แบบคือ JPG, RAW และ RAW Plus ที่สามารถนำเอาไปปรับแต่งภาพในโปรแกรมอื่น อย่าง Adobe Lightroom หรือ Snapseed เพิ่มเติมได้
Movie : โหมดถ่ายวิดีโอแบบโปร ปรับตั้งค่าแบบ manual ได้ เลือกเปิดใช้ฟังก์ชั่นกันสั่น, HDR และเลือกบันทึกไฟล์แบบ LOG เพื่อเอาไปใช้ grading ภาพในโปรแกรม Post Production เพิ่มเติมได้
Dual-View Video : ถ่ายวิดีโอด้วยกล้องหน้าและกล้องหลังในเฟรมเดียวกัน ด้วยกล้องที่คุณภาพสูงทั้งหน้าหลัง ทำให้ได้คุณภาพภาพที่ละเอียดและคมชัด
Long Exposure : โหมดถ่ายภาพแบบเปิดรูรับแสงค้างแบบอัตโนมัติ ที่มีให้เลือก 3 แบบด้วยกันคือ Moving Vehicles ถ่ายไฟรถบนท้องถนน Water & Clouds ถ่ายน้ำพุ, น้ำตก ก้อนเมฆ ให้มีความนุ่มนวล และ Light Painting ถ่ายการวาดไฟเป็นเส้น โหมดนี้แค่เลือกและปรับระยะเวลาที่ต้องการเปิดรูรับแสง แล้วก็กดถ่ายได้เลย
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง OPPO Find X5 Pro 5G
ประสิทธิภาพ เร็วแรง สมศักดิ์ศรีสมาร์ตโฟนแฟล็กชิป
OPPO Find X5 Pro 5G ใช้ชิปเซ็ตตัวท็อปของวงการในปีนี้อย่าง Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 แบบมัลติคอร์ ผลิตด้วยกระบวนการระดับ 4 นาโนเมตร เรื่องการทำงานนั้นมั่นใจหายห่วงกับประสิทธิภาพ และด้านการประมวลผลกราฟิก GPU ประสิทธิภาพสูงขึ้น 30% และประหยัดพลังงานกว่ารุ่นก่อนถึง 25% พร้อมเพิ่มความสามารถประมวลผลด้าน AI ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น
การจัดการเรื่องอุณหภูมิภายใน OPPO ออกแบบระบบระบายความร้อนแบบหลายชั้น มี Vapor Chamber ขนาดใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 75% เพื่อครอบคลุมทั้งตัวชิปเซ็ต และแบตเตอรี่ พร้อมทั้งยังรวม Graphene Film Liquid Cooling System แบบ 3 มิติ เพื่อจัดการควบคุมอุณหภูมิแผงวงจรหลักและคอยล์ชาร์จ รวมถึงยังมีฟิล์มกราไฟท์แบบบางพิเศษ ครอบคลุมในส่วนหน้าจอและแผงวงจรรวม
ทำให้ภายในตัวเครื่อง OPPO Find X5 Pro 5G ในเวลาที่ใช้งานหนักๆ อย่างการเล่นเกม สามารถกระจายถ่ายเทความร้อนได้อย่างรวดเร็ว และมีอุณหภูมิสะสมภายในตัวเครื่องน้อยลง ถือใช้งานได้อย่างสบายไม่รู้สึกอุ่นมือ
ตัวเครื่องมีเสาสัญญาณ ระบบ 360° Smart Antenna 3.0 ให้คุณใช้งานบนเครือข่าย 5G ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไหลลื่น ด้วยการออกแบบให้มีการจัดสรรเสาอากาศอัตโนมัติ และตัวขยายสัญญาณแบบเปิดตลอดเวลา 2 ตัว ในแต่ละเสาจะเลือก 1 ใน 2 เสาที่เชื่อมต่อตามประสิทธิภาพของสัญญาณได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้การทำงานเชื่อมต่อบนสัญญาณจากเสาอากาศที่ดีที่สุดเพื่อให้ได้สัญญาณที่แรงที่สุด
OPPO Find X5 Pro 5G ได้รับการรองรับคลื่นความถี่ 5G ที่มากขึ้น ครอบคลุมหลากหลายประเทศทั่วโลก และยังรองรับการใช้งาน 5G ทั้ง 2 ซิม และใช้งาน eSim ได้อีกด้วย
ชาร์จเร็วด่วนทันใจ แบตเตอรี่อยู่ได้เต็มวัน
เทคโนโลยีการชาร์จและบริหารจัดการพลังงานของแบตเตอรี่ OPPO ถือว่าก้าวล้ำกว่าคู่แข่งในตลาดสมาร์ตโฟนมาโดยตลอด ด้วยความเร็วในการชาร์จที่รวดเร็ว ภายใต้ความปลอดภัยมากถึง 5 ขั้นตอน และชาร์จได้โดยมีอุณหภูมิสะสมน้อย
OPPO Find X5 Pro 5G มีแบตเตอรี่ภายในแบบ Dual-Cell ความจุถึง 5000mAh มาพร้อมเทคโนโลยี 80W SUPERVOOC พร้อมใช้งานโดยมีอะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่อง ที่สามารถชาร์จไฟได้ถึง 50% ภายในเวลา 12 นาที
และยังให้ระบบการชาร์จแบบ Wireless ไร้สาย 50W AIRVOOC สามารถชาร์จไร้สาย แบตเตอรี่ 0-100% เต็มได้ภายในเวลาเพียงแค่ 47 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเร็วกว่าสมาร์ตโฟนคู่แข่งหลายๆ รุ่นในตลาดที่ชาร์จด้วยสายเลยทีเดียว
นอกจากการชาร์จเร็วแล้ว OPPO ยังมุ่งมั่นในการพัฒนาโซลูชันสำหรับถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานขึ้น ด้วย Battery Health Engine ที่จะปรับสถานะของปริมาณกระแสไฟที่ชาร์จให้กับสมาร์ตโฟน อยู่ในระดับที่เหมาะสมที่สุด ผลที่ได้คือ รอบการชาร์จแบตเตอรี่ของ OPPO Find X5 Pro 5G จะใช้ได้ถึง 1,600 รอบ มากกว่าสมาร์ตโฟนทั่วๆ ไปถึง 2 เท่า
สรุป รีวิว OPPO Find X5 Pro 5G หลังทดสอบลองใช้งาน
ทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้มีโอกาสสัมผัสทดสอบ OPPO Find X5 Pro 5G เครื่องนี้เพื่อการ รีวิว เป็นเวลาประมาณเกือบ 1 สัปดาห์ ถ้าจะให้นิยามสำหรับสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นนี้สั้นๆ ก็คือ “ทุกอย่าง เหมาะเจาะ ลงตัว และน่าประทับใจมากๆ”
OPPO Find X5 Pro 5G เป็นรุ่นที่ 4 ของตระกูล Find X Series ที่มีการนำเสนอนวัตกรรมยุคใหม่ที่มีความล้ำสมัย ที่นำมาผสมผสานจนเป็นสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปที่ให้ประสบการณ์ใช้งานได้ดี ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการทำงานที่ทรงพลัง หน้าจอคุณภาพดีที่สุดในอุตสาหกรรม, กล้องที่ข้ามขีดจำกัดพร้อมโหมดใช้งานใหม่ๆ ที่สมาร์ตโฟนไม่เคยทำได้ ภายใต้ดีไซน์ตัวเครื่องที่สวยหรูงดงามน่าสัมผัส
สำหรับ OPPO Find X5 Pro 5G การออกแบบยังคงสไตล์คล้ายกับรุ่นก่อนอย่าง OPPO Find X3 Pro 5G ที่มีความโค้งมนรอบเครื่อง แทบหาจุดเหลี่ยมตัดไม่เจอเลย และที่น่าชื่นชมมากๆ ก็คือตัวฝาหลัง ที่เป็นเอกลักษณ์ ชุดเลนส์กล้องที่นูนออกมาจากฝาหลัง แต่ทำเส้นสายแบบโค้ง ทำให้เราไม่รู้สึกว่ามันนูนขึ้นมา
การเลือกวัสดุฝาหลังที่เป็นเซรามิค ยอมรับว่าทาง OPPO ใจถึงมากๆ เพราะเป็นวัสดุที่มีต้นทุนสูงแถมขั้นตอนการผลิตก็ซับซ้อนหลายขั้นตอน จากที่ก่อนหน้านี้หลายแบรนด์เคยใช้ ก็เลือกเปลี่ยนมาใช้เป็นกระจกแทน หรือบางรายเซฟต้นทุนถึงกับเอาพลาสติกมาใช้กับสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปเลยก็ยังมี
ในเรื่องของดีไซน์ถือว่าดีมากครับ ตัวเครื่องจับถนัดมือ ผิวสัมผัสดี สวยจนไม่อยากใส่เคส รวมถึงตัวฝาหลังถึงแม้ว่าจะเป็นแบบมันวาว แต่จับแล้วก็เกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างน้อย และเช็ดออกได้ง่ายมาก
หน้าจอทำได้ดีแบบไม่มีผิดหวัง ความสวยคมชัดระดับ 2K แสดงสีสวยสดระดับพันล้านสี รีเฟรชเรต 120Hz แบบ Dynamic ปรับได้อัตโนมัติ สมบูรณ์แบบสำหรับการเล่นเกม, ดูคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ และที่สำคัญ ค่าความสว่างสูงสุดถึง 1300nits ถือใช้งานกลางแจ้งก็ยังเห็นได้ชัดสบายๆ
สเปคภายใน ตัวชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอันดับ 1 ของสมาร์ตโฟนฝั่งแอนดรอยด์ ณ เวลานี้ RAM ให้มาที่ 12GB ที่ยังเพิ่ม RAM Expansion ได้อีก 3 ระดับ (3GB, 5GB และ 7GB) เรียกได้ว่าสเปคนี้เล่นเกมได้แบบไหลลื่นเฟรมเรตนิ่งๆ วิ่งเต็มได้ไม่มีสะดุด
แบตเตอรี่ OPPO บริหารจัดการเรื่องพลังงานได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว การใช้งานทั่วๆ ไปคุณสามารถอยู่ได้แบบเช้ายันเย็นได้แบบไม่ต้องกังวล แนะนำสำหรับใครที่ใช้งานหนักให้ปรับความละเอียดหน้าจอมาใช้เป็น FHD+ จะช่วยยืดอายุแบตได้อีกพอสมควร
เล่นเกมกราฟิกหนักๆ ควบคุมอุณหภูมิได้ค่อนข้างดี ไม่รู้สึกร้อนจี๋ แต่สำหรับการถ่ายภาพหรือวิดีโอ กล้องค่อนข้างร้อนพอสมควร ซึ่งก็ต้องเห็นใจเพราะมีใช้งานส่วนของประมวลผลทั้ง Snapdragon 8 Gen 1 และ MariSilicon X พร้อมกัน
และไม่ทำให้ผิดหวัง กับ 80W SUPERVOOC ที่ชาร์จได้เร็วแบบถึงใจ และระหว่างที่ชาร์จเครื่องก็ไม่ร้อน และยังมี 50W AIRVOOC สำหรับการชาร์จไร้สายที่รวดเร็วสูสีกับชาร์จแบบสาย ทำให้การใช้งานเวลาที่แบตเหลือน้อยหรือหมดเกลี้ยง ชาร์จเพียงแค่ไม่กี่สิบนาที คุณสามารได้พลังงานสำหรับใช้งานต่อไปได้อีกหลายชั่วโมงได้อย่างสบายๆ
ระบบถนอมแบตเตอรี่ ก็ทำได้ดี สำหรับใครที่ชอบชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอน ระบบจะคำนวนให้เครื่องชาร์จไฟด้วยความเร็วต่ำเวลาที่นอน และไม่ชาร์จให้แบตเต็ม โดยจะคำนวนให้ชาร์จเต็มพอดีกับตอนที่เราตื่นนอนตอนเช้า เป็นวิธีที่ถนอมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้เสื่อมสภาพช้าลงกว่าปกติได้
สุดท้าย เรื่องกล้องของ OPPO Find X5 Pro 5G คือสิ่งที่ทำให้เราหลงไหลและสนุกกับการใช้สมาร์ตโฟนเพื่อถ่ายภาพและวิดีโอ ชนิดที่ว่า เล่นสนุกในทุกโหมดและเมนู และทำหลายๆ อย่างได้เกินความคาดหมายของเราไปมาก ประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอ 4K Ultra Night Video และการถ่ายภาพโหมดต่างๆ ได้ความเป็นธรรมชาติสมจริง การ Process ภาพไม่ได้ทำมากจนภาพที่ได้ออกมาดูปลอม คือให้อารมณ์เหมือนถ่ายด้วยกล้องจริงๆ มาก รวมถึงยังถ่ายไฟล์ที่เป็นคุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นเพื่อนำไปใช้งาน Production ต่อได้ด้วย
จากการทดสอบลองใช้งาน มีข้อจำกัดบางอย่างอยู่ด้วยเช่นกัน กับการใช้งาน OPPO Find X5 Pro 5G อย่างแรกคือกล้อง Tele นั้นมีระยะการซูมได้ไกลสุดที่ 20x (แบบดิจิตอล) ซึ่งอาจจะน้อยไปนิด และอีกสิ่งคือหน่วยความจำในเครื่อง ที่มีให้เลือกแค่รุ่นเดียวคือ 256GB ที่อาจจะน้อยไปถ้าหากคุณใช้งานถ่ายภาพหรือวิดีโอความละเอียดสูงมากๆ และไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ด้วย
สรุปแล้ว OPPO Find X5 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนแฟล็กชิปที่ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง การพัฒนาในรอบนี้อาจจะไม่ได้ดูหวือหวามากนัก แต่เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีนวัตกรรม เข้ากับดีไซน์ที่เรียบหรูคลาสิค ประสิทธิภาพการใช้งานเร็วแรงจัดเต็ม และกล้องที่ได้ Hasselblad มา ทำให้การถ่ายภาพด้วยมือถือมีความละมุนนุ่มลึก เก็บช่วงเวลาที่น่าประทับใจได้สวยงามเป็นธรรมชาติ
OPPO Enco X2 หูฟังไร้สายพรีเมียมคุณภาพระดับสตูดิโอ
นอกจากสมาร์ตโฟนแฟล็กชิป ทาง OPPO ยังได้เปิดตัว OPPO Enco X2 หูฟังไร้สายพรีเมียม ที่ได้จับมือพัฒนาร่วมกับ Dynaudio หลังจากที่รุ่นแรกเปิดตัวไปเมื่อมีนาคมปีที่แล้ว ได้รับเสียงตอบรับที่ดี กับคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอที่น่าประทับใจ
ครั้งนี้ถือเป็นการพัฒนาต่อยอดไปอีกขั้น นำเสนอระบบเสียงคุณภาพ Super DBEE และ Coaxial dual-driver five-magnet sound system ที่ให้คุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ รองรับ Hi-Res Audio Wireless เก็บรายละเอียดของเสียงและเครื่องดนตรีได้อย่างครบถ้วนมีมิติ พร้อมสัมผัสประสบการณ์เสียงอันบริสุทธิ์ด้วย Golden Sound Boost
ให้คุณได้สัมผัสกับความสุนทรีย์ของเสียงเพลงยิ่งขึ้น ด้วยการตัดเสียงรบกวนแบบ Ultra-wide band และ ultra-deep active noise control (ANC) ได้ทุกเวลาที่ต้องการ รวมถึง wind noise control แบบมืออาชีพและอัลกอริธึมที่ได้รับการอัปเกรดเพื่อช่วยลดเสียงลมอย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ให้ยาวนานได้ถึง 40 ชั่วโมง (ใช้ร่วมกับเคสชาร์จ) มีระบบชาร์จไว ที่เก็บหูฟังเข้าเคสชาร์จเพียงแค่ 5 นาที ก็สามารถใช้ฟังเพลงต่อได้ถึง 2 ชั่วโมง และยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย สะดวกต่อการใช้งาน
แถมยังใส่ใจเรื่องสุขอนามัย กับตัวจุกหูฟังที่มีการป้องกันการสะสมของแบคทีเรีย สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อลดความเสี่ยงในการสะสมสิ่งสกปรกและการติดเชื้อในหูจากการสวมใส่เป็นเวลานาน
การดีไซน์ของ OPPO Enco X2 ยังเน้นรูปลักษณ์ที่โค้งมนสวยงาม ให้ความรู้สึกคล่องตัวและสวมใส่สบาย ไม่อึดอัดหรือรำคาญ มาในสีขาว Frosty White ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอากาศยามเช้าที่สดชื่อนของฤดูหนาว
นอกจากนี้ ยังถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานร่วมกับ OPPO Find X5 Pro 5G ได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ Binaural Recording ที่คุณสามารถใช้ OPPO Enco X2 เป็นไมโครโฟนสำหรับบันทึกเสียงการถ่ายวิดีโอ ให้ได้เสียงที่คมชัด ไม่มีเสียงรบกวนรอบข้าง
โปรโมชัน OPPO Find X5 Pro 5G ราคา และช่องทางการจำหน่าย
OPPO Find X5 Pro 5G วางจำหน่ายใน ราคา 39,990 บาท สามารถพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ – 29 เมษายน 2565 พร้อมรับของสมนาคุณ Premium Box Set มูลค่า 13,498 บาท ประกอบด้วย
- Premium Service VIP Card ประกันหน้าจอแตก มูลค่า 10,000 บาท
- AIRVOOC 45W Wireless Charger 2,499 บาท
- OPPO Kevlar Protective Case มูลค่า 999 บาท
กำหนดวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เป็นต้นไป ณ OPPO Brand Shop ทุกสาขา และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
พิเศษ! ให้คุณเป็นเจ้าของ OPPO Find X5 Pro 5G ได้ง่ายยิ่งขึ้นเมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย รับส่วนลดสูงสุดถึง 20,000 บาท
OPPO Enco X2 OPPO หูฟังไร้สายคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอที่พัฒนาร่วมกับ Dynaudio มาในสีขาว Frosty White วางจำหน่ายใน ราคา 5,999 บาท เปิดให้จองแล้วตั้งแต่วันนี้ – 10 พฤษภาคม 2565
ติดตามรายละเอียด และสั่งจองสินค้าได้แล้วที่ https://bit.ly/3u1fMib