รีวิว Xiaomi Watch S1 สมาร์ทวอทช์ทรงคลาสสิก ดีไซน์หรูหรา ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ดูแลสุขภาพที่ครบครัน! เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ลูกผสมที่แสนจะลงตัว ระหว่างความคลาสสิกดูดีมีสไตล์ และ ฟีเจอร์การออกกำลังกาย ตามคอนเซปต์ของเค้าคือ “Stay Classy, Stay Fit” ใน รีวิว นี้เรามาทำความรู้จักกับ Xiaomi Watch S1 ไปพร้อมๆ กันครับ! มาดูกันว่าเค้าสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วจะตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของเพื่อนๆ มากน้อยแค่ไหน ไปเริ่มกันเลย!
ก่อนอื่น ผมสรุปจุดเด่นและจุดสังเกตสำหรับ Xiaomi Watch S1 ให้เพื่อนๆ ได้ทราบคร่าวๆ กันก่อนเลย
จุดเด่น
- ดีไซน์สวย งานประกอบดี มาในดีไซน์แบบคลาสสิก
- จอแสดงผล AMOLED สีสันดีมาก สู้แสงแดดได้
- กระจกแซฟไฟร์ (Sapphire) เพิ่มความทนทานต่อการใช้งาน
- User Interface ทำความเข้าใจง่ายมาก!!
- ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพค่อนข้างครบครัน
- โหมดออกกำลังกายเยอะมว๊ากกก! 117 โหมด
จุดสังเกต
- แบตเตอรี่อาจไม่อึดตามที่เคลมไว้ (แต่ก็ได้หลัก 7-8 วัน)
- สายหนังอาจไม่เหมาะกับการออกกำลังกายหนักๆ (แต่เค้ามีสายยางสำหรับเปลี่ยนในกล่อง)
ดีไซน์
สำหรับการออกแบบของ Xiaomi Watch S1 ตัวนี้จะเป็นการออกแบบที่เน้นความสวยหรู คลาสสิก สังเกตได้ว่ากรอบตัวเรือนจะเป็นสีเงิน และสายหนังสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกเหมือนการใส่นาฬิกาแบบคลาสิกยังไงอย่างงั้นเลยล่ะครับ! แต่เค้าเป็นสมาร์ทวอทช์นะ!? อย่าโดนหน้าตาหลอกเอาล่ะ
ตัวเรือนทำจากวัสดุสแตนเลส ซึ่งมีการขัดเงาโดยช่างทำนาฬิกาแบบดั้งเดิม เพื่อให้เกิดความแวววาว มีพื้นผิวที่พิถีพิถัน สวยงามลงตัวสมกับความเป็นนาฬิการูปทรงคลาสสิก
ด้านขวาของตัวเรือนจะมีปุ่มกดแบบ Physical 2 ปุ่ม ทำหน้าที่เป็นปุ่มเข้าเมนู และ ปุ่มลัดสำหรับเรียกโหมดการออกกำลังกาย ใช้งานได้สะดวกมากๆ
ส่วนด้านหลังของตัวเรือนจะเป็นเซ็นเซอร์ในการวัดค่าต่างๆ ของร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ รวมไปถึงเซ็นเซอร์วัดระดับออกซิเจนในเลือดก็อยู่ตรงนี้นี่แหละครับ!
ส่วนสายนั้นเป็นหนังสีน้ำตาล ซึ่งเป็นวัสดุแบบพรีเมี่ยม และทนทาน ตัวสายมีความนุ่ม ไม่แข็งกระด้างจนเกินไป มีน้ำหนักเบาสวมใส่สบายครับ
ส่วนถ้าเป็นคนที่ออกกำลังกายหนักๆ สายหนังจะไม่เหมาะกับคุณแน่ๆ เพราะเวลาเหงื่อออกเยอะๆ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ แต่ทาง Xiaomi เค้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจนะ! ภายในกล่องของ Xiaomi Watch S1 เค้ามีสายยางฟลูออรีนสีเทามาให้ในกล่องด้วย! เรียกได้ว่า ทำมาสำหรับสายออกกำลังกายเลยล่ะ เค้าใส่ใจในรายละเอียดจริงๆ ครับ
หน้าจอ
Xiaomi Watch S1 มาพร้อมกับหน้าปัดกลมขนาด 1.43 นิ้ว ซึ่งเป็นจอ AMOLED มาพร้อมความละเอียด 466×466 พิกเซล 326 PPI ซึ่งต้องบอกว่าการแสดงผลของเค้าทำได้ดีมากเลยนะ สามารถสู้แสงแดดได้ดีในระดับนึงเลยล่ะ!
แถมรองรับ Always On Display ที่สามารถแสดงเวลาได้ตลอดเวลา
และที่สำคัญ เรียกว่าเป็นจุดก้าวกระโดดของวงการสมาร์ทวอทช์เลยก็ว่าได้ นั่นคือการที่ Xiaomi Watch S1 ใช้วัสดุกระจกหน้าจอ แซฟไฟร์ (Sapphire) เพิ่มความคงทนต่อการใช้งาน ป้องกันรอยขีดข่วนได้อย่างมั่นใจกว่าเดิม
ขอเล่าประสบการณ์ในการใช้งานสมาร์ทวอทช์มาหลายต่อหลายรุ่นสักหน่อยแล้วกันครับ ปกติแล้วถ้าเป็นวัสดุกระจกทั่วไป เวลาผมยื่นมือไปไขกุญแจเข้าบ้าน ในรั้วเหล็ก เวลาหน้าปัดขูดกับประตู หน้าจอจะเป็นรอยกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ซึ่งไอ้เราก็ซุ่มซ่ามซะด้วยสิ!?) เรียกได้ว่าเจ็บตัว เจ็บใจ มาหลายรุ่นหลายยี่ห้อมากๆ โดนประตูฝากรอยยาวไว้ให้เจ็บใจ!?
แต่ล่าสุดจากการใช้งาน Xiaomi Watch S1 ก็ไขประตูบ้านเหมือนเดิมนี่แหละ แล้วก็ไม่พลาดจริงๆ ทำการเจิมเรียบร้อย!! ขูดกับรั้วเต็มๆ ไอ้เราก็ทำใจแล้วล่ะ ว่าเป็นรอยยาวแน่ๆ แต่พอยกตัวเรือนขึ้นมาดู ก็ต้องประหลาดใจว่า “เฮ้ยย!? มันรอด มันไม่เป็นรอยย” ซึ่งปกติถ้าเป็นกระจกทั่วๆ ไป บอกเลยครับว่า “ไม่รอด” กราบในความดีงามของกระจกแซฟไฟร์ ยกความดีความชอบให้เลย! (แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าเอาไปขูดอะไรเลย เซฟๆ ดีกว่าเนาะ)
การใช้งาน
การใช้งาน Xiaomi Watch S1 นั้นเรียกได้ว่า “ใช้งานง่ายมากกก!” ซึ่งไม่ได้เกินจริงหรืออวยแต่อย่างใด ต้องบอกว่า MIUI Watch 1.0 เค้าทำมาดีจริงๆ User Interface และ User Experience นั้นทำออกมาได้เข้าใจง่ายสุดๆ เรียกได้ว่าแทบจะไม่ต้องมานั่งเรียนรู้กันเลยทีเดียว สรุปคร่าวๆ ให้แบบนี้ครับ
- ปัดลง – เรียกการแจ้งเตือน Notifications
- ปัดขึ้น – เรียกแผงการควบคุม Control Center
- ปัดซ้ายและขวา – เรียกการใช้งานวิดเจ็ต Widgets วนไป
- กดปุ่มบน – เข้าเมนู เรียกใช้งานแอปต่างๆ
- กดปุ่มล่าง – โหมดออกกำลังกาย (สามารถ Custom ได้)
โดยที่ Xiaomi Watch S1 นั้นสามารถใช้รับสาย พูดคุยโทรศัพท์ได้อีกด้วย ถือว่าสะดวกสบายมากๆ คุณภาพเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ ถ้าเสียงบรรยากาศรอบข้างไม่ดังจนเกินไป ก็สามารถคุยสนทนาได้รู้เรื่อง ไม่มีปัญหาครับ!
Xiaomi Watch S1 ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชัน Mi Fitness (มีทั้ง iOS และ Android) ซึ่งในแอปนี้ก็จะเป็นศูนย์รวมของการบันทึกค่าต่างๆ ของฟีเจอร์ดูแลสุขภาพ เวลาเราใส่สมาร์ทวอทช์ตัวนี้ ตัวเซ็นเซอร์ด้านหลังเค้าก็จะทำการเก็บค่าสถิติทุกๆ อย่างรวมในนี้เลย สะดวกมากๆ ครับ!
การใช้งานอย่างที่เรารู้กันว่า สามารถสัมผัสผ่านหน้าจอได้เลย การเลื่อนใช้งาน เลือกเมนูนั้น เมนูนี้ ทำได้อย่างลื่นไหลไม่รู้สึกถึงความหน่วงเลยครับ! การตอบสนองต่างๆ ทำมาได้ดีเกินคาดมากๆ แถมยังสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าปัด (Watch Faces) ได้มากกว่า 200 รูปแบบ สำหรับคนที่ไม่ชอบความจำเจ ก็มีให้เลือกไม่ซ้ำเลยล่ะครับ!
เราสามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ตามที่เราต้องการได้ทั้งหมดในแอปพลิเคชัน Mi Fitness นี้ได้เลย! ตัวที่ผมทดสอบจะเป็นการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการณ์ iOS ซึ่งสามารถทำงานได้ปกติ ไม่มีปัญหาเลยครับ เพียงแต่ว่าจะมีบางการตั้งค่าที่อาจจะไม่สามารถปรับได้เต็มระบบเหมือนในเวอร์ชั่น Android เช่น การตั้งค่าแจ้งเตือนรายแอปพลิเคชัน เป็นต้น
ฟีเจอร์ดูแลสุขภาพแบบจัดเต็ม
Heart Rate Monitor
ฟีเจอร์พื้นฐานที่สมาร์ทวอทช์ทุกรุ่นต้องมี! วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเป็นการวัดแบบอัตโนมัตินะครับ เราสามารถเลือกความถี่ในการวัดค่านี้ได้ทุกๆ 1-30 นาที (ยิ่งวัดถี่ ยิ่งเปลืองแบต) ซึ่งสามารถตั้งค่าแจ้งเตือนการเต้นของหัวใจที่สูงเกินไปได้! ซึ่งจะช่วยในการออกกำลังกายของเราได้ เวลาเราเลี้ยงให้อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ในโซนที่เราต้องการ ก็สามารถตั้งค่าเหล่านี้เพื่อช่วยในการออกกำลังได้! หรือใช้ในทางที่เป็นการแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่อาจจะสูงต่อเนื่องเกินไป อาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพ ซึ่งถ้าเรารู้ตัวเอง ก็จะช่วยให้เราหาทางออกได้อย่างทันท่วงทีนั่นเองครับ
Blood Oxygen (หรือที่คุ้นกันในชื่อ SpO2)
เรียกได้ว่าเป็นมาตรฐานของสมาร์ทวอทช์ยุคนี้ไปแล้วครับ สำหรับฟีเจอร์การวัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือด ซึ่งสำคัญมากๆ ในยุคที่โควิดระบาดแบบนี้ เราสามารถมอนิเตอร์ตัวเองได้จากการวัดระดับออกซิเจนในกระแสเลือดนี่แหละ! และเค้ายังมีการวัดแบบอัตโนมัติตลอดวันด้วยนะ สะดวกสบายมากๆ เลยล่ะ (แต่ถ้าวัดแล้วค่า SpO2 นี้ต่ำกว่า 95% ยังไงก็รีบปรึกษาแพทย์นะครับ!)
Activity Tracker
Xiaomi Watch S1 จะจับการเคลื่อนไหวของเราทั้งวัน มีการแจ้งเตือนตลอดเวลาเราไม่ค่อยมีกิจกรรม หรือไม่แอคทีฟ จะมีการเตือนให้ลุกขึ้นยืน หรือขยับในทุกๆ ชั่วโมง และยังเก็บค่าต่างๆ เช่น การเดิน, จำนวนแคลอรี่ที่ใช้ไป และ ชั่วโมงการยืน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ช่วยที่ทำให้เรา Stay Fit ได้จริงๆ ครับ! เล่นสั่นเตือนให้ยืนทุกชั่วโมงแบบนี้ เออ …ยืนก็ได้!!
Stress Tracker
เราสามารถเปิดการตั้งค่า Stress Tracker ได้ด้วย เค้าจะจับและวัดระดับความเครียดของเราตลอดช่วงเวลาที่เราสวมใส่ ช่วยให้เรามอนิเตอร์ตัวเองได้ว่าความเครียดเราพุ่งสูงประมาณไหน ในช่วงเวลาไหน ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ดีมากๆ เลยล่ะครับ!
Sleep Tracker
เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ดีมากๆ เลยสำหรับคนที่อยากรู้ว่า คืนที่ผ่านมา เรานอนได้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน นอนหลับดีหรือเปล่า หลับลึกไหม!? มีกราฟโชว์กันให้เห็นไปเลยครับ มีแสดงให้เห็นเป็นเปอร์เซ็นต์เลย เข้าใจง่ายมากๆ บันทึกค่าสถิติต่างๆ เริ่มเข้านอนตอนกี่โมง ตื่นตอนกี่โมง มีการแสดงผลอัตราการเต้นของหัวใจเฉลี่ย มีออกซิเจนในกระแสเลือดแสดงให้เห็นในคืนนั้นๆ ดีมากๆ ส่วนตัวแล้วชอบมากๆ เลยล่ะสำหรับ Sleep Tracker บน Xiaomi Watch S1 ซึ่งเค้าจับได้ค่อนข้างแม่นยำเลยนะ!
Exercise Mode
สำหรับโหมดออกกำลังกายบน Xiaomi Watch S1 นั้นให้มาสูงถึง 117 โหมดด้วยกัน! ถือว่าให้มาครบครันและยืดหยุ่นสำหรับรูปแบบการออกกำลังกายมากๆ เลยล่ะครับ อยากออกกำลังกายแบบไหนก็กดแล้วจัดไปเลย ซึ่ง Xiaomi Watch S1 นี้มี Build-in GPS มาให้ในตัว นั่นหมายความเค้า เค้าสามารถบันทึกเส้นทางต่างๆ ที่เราเดินวิ่งออกกำลังกายได้หมดเลย แล้วจะสรุปมาเป็นภาพรวมของการออกกำลังกายให้ แจ๋วไปเลยล่ะ!
โดยที่เค้าจะมีโหมดการบันทึกค่าการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติด้วย (Auto-Detect) โดยจะมี 2 โหมดหลักๆ ก็คือโหมดเดิน และโหมดวิ่ง การทำงานของเค้าคือ หากเราเดิน หรือวิ่ง ไปสักพักนึง (ประมาณ 10 นาที) เค้าก็จะจับเป็นการออกกำลังกายโดยอัตโนมัติได้เลย สะดวกมากๆ ครับ!
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ของ Xiaomi Watch S1 นั้นมาพร้อมกับความจุ 470mAh เคลมว่าสามารถใช้งานได้สูงสุดถึง 12 วันเลยทีเดียว แต่จากการใช้งานจริงนั้น ก็ต้องบอกเพื่อนๆ ผู้อ่านตรงๆ ครับว่าตัวเลขอาจจะไม่ได้ไปถึงระดับนั้น
โดยที่เงื่อนไขในการทดสอบของผมคือ
- สวมใส่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ตั้งแต่แบต 100% จนหมดเกลี้ยง (อาบน้ำก็ใส่ นอนก็ใส่)
- เปิด Always On Display
- เปิดทุกการเชื่อมต่อ (Bluetooth, WiFi, GPS)
ซึ่งจากการใช้งานทดสอบต่อเนื่องยาวนานแบบจัดหนักนี้ สามารถใช้งานได้จริงประมาณ 7 วัน (เกือบไปถึง 8 วัน) ซึ่งถือว่าไม่ขี้เหร่เลยนะ! สำหรับ Xiaomi Watch S1 ตัวนี้
ส่วนที่ค่อนข้างประทับใจคือการชาร์จแบต ทำได้ค่อนข้างเร็วเลยทีเดียว เพียงแค่นำตัวเรือนมาประกบกับแท่นชาร์จเท่านั้น อาจจะไม่ได้ทดสอบมาแบบเป๊ะๆ แต่ความรู้สึกคือแบตเตอรี่เหลือไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ชาร์จสักพักใหญ่ๆ ชาร์จทิ้งไว้ ไปอาบน้ำ กินข้าวก็กลับมาเต็มแล้วครับ!
สรุปการใช้งาน
สำหรับการ รีวิว Xiaomi Watch S1 ในครั้งนี้ สรุปสั้นๆ ให้ผู้อ่านทุกคนตรงนี้ไว้เลยว่า “ประทับใจ” มากๆ ครับ! เรียกได้ว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ครบเครื่องมากๆ ตัวนึงเลยล่ะ ดีไซน์สวยงามแบบคลาสสิก เรียกได้ว่าคนที่ชอบนาฬิกาทรงคลาสสิกจะต้องชอบ Xiaomi Watch S1 อย่างแน่นอน (และผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น) ตัวเรือนแบบสแตนเลสและสายหนังนี่มันโดนใจจริงๆ
ที่ประทับใจในส่วนต่อมาก็คือเรื่องของหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ที่ต้องบอกว่าการแสดงผลเค้าดีมากๆ คมชัดและสีสันสดใส สู้แดดได้ดีในระดับที่ประทับใจเลยล่ะ และไฮไลต์ที่ยกระดับวงการสมาร์ทวอทช์นั่นก็คือการใช้วัสดุกระจกแซฟไฟร์มาใช้ ซึ่งจากการไปเจิมประตูรั้วนั้น “รอด” ไม่เป็นรอยขีดข่วน ถือว่าประทับใจเลยล่ะครับ!
ส่วนการใช้งานต่างๆ เรียกได้ว่าใช้งานสะดวกมากๆ หน้าตา UI เข้าใจง่ายสุดๆ แถมฟีเจอร์สุขภาพให้มาแบบจัดเต็มมากๆ แถมโหมดออกกำลังกายยังให้มาเยอะถึง 117 โหมด เรียกได้ว่ายืดหยุ่นสุดๆ ไปเลย จะออกกำลังกายแนวไหน Xiaomi Watch S1 ก็รองรับนะจ๊ะ! (แถมใครออกกำลังกายแบบจัดหนักจริงๆ เค้ามีสายสำหรับออกกำลังกายมาให้เปลี่ยนในกล่องเลย)
เรียกได้ว่าไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ สำหรับ Xiaomi Watch S1 ใครที่กำลังหาสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันที่มีฟีเจอร์ครบๆ แบบนี้ แนะนำเลยครับ! ไม่พูดเยอะเจ็บคอ 😀
ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย
Xiaomi Watch S1 เปิดราคาในประเทศไทยที่ 6,490 บาท มีให้เลือกสองสี คือ สีน้ำตาล และ สีดำ
วางจำหน่ายแล้วที่ Xiaomi Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่
- Shopee
- Lazada
- JD Central
สำหรับการ รีวิว Xiaomi Watch S1 ก็ขอจบไว้เพียงเท่านี้ครับ อย่าลืมกดติดตาม ล้ำหน้าโชว์ ไว้ในทุกช่องทางนะครับ จะได้ไม่พลาดข่าวสารในทุกช่องทางของพวกเราทีมงานล้ำหน้าโชว์ครับ ไว้พบกันได้ใหม่ในรีวิวอุปกรณ์ไอทีครั้งต่อไป สวัสดีครับ!
สเปค Xiaomi Watch S1
- ขนาดตัวเรือน 46.5 x 46.5 x 10.9 มิลลิเมตร
- สายปรับได้ 157-241 มิลลิเมตร
- สายหนัง, สายยางฟลูออรีน (แถมให้ในกล่อง)
- น้ำหนัก 52 กรัม (ไม่รวมสาย)
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว (ความละเอียด 466 x 466 พิกเซล)
- รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.2, Wi-Fi IEEE 802.11b/g/n 2.4GHz
- เซ็นเซอร์
- Optical heart rate sensor
- Accelerometer
- Gyroscope
- Electronic compass
- Barometer Sensor
- Ambient light Sensor
- Cap sensor
- โหมดออกกำลังกาย 117 โหมด
- กันน้ำกันฝุ่นระดับ 5ATM
- แบตเตอรี่ 470mAh (ใช้งานได้ 12 วัน)
- ระบบปฏิบัติการณ์
- Android 6.0 ขึ้นไป
- iOS 10.0 ขึ้นไป
- ราคาเปิดตัว 6,490 บาท