รายงานล่าสุดเผยว่า หุ้นของ Tesla นั้นร่วงลงกว่า 12% ในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ทาง Elon Musk ได้ตกลงเข้าซื้อกิจการของ Twitter ด้วยมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์
ตามรายงานเผยว่า เทสลาสูญเสียหุ้นไปเป็นมูลค่าประมาณ 126 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในวันถัดไปหลังจากที่อีลอน มัสก์ปิดดีลการเข้าซื้อทวิตเตอร์ได้สำเร็จ ส่งผลให้มูลค่าตลาดของเทสลานั้นลดลงมาเหลือเพียง 906 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
ดูเหมือนว่าแรงกดดันต่อหุ้นของเทสลาส่วนใหญ่จะเกิดจากความกังวลที่ว่า มัสก์จะหาแหล่งเงินทุนจากไหนมาเทคโอเวอร์ Twitter ซึ่งมัสก์นั้นได้รับเงินกู้มูลค่า 12.5 พันล้านดอลลาร์จากหุ้นเทสลาของเขาเอง และเขาเป็นเจ้าของหุ้นถึง 17% ในบริษัท และอีก 13 พันล้านดอลลาร์นั้นได้มาจากการกู้ยืมเงินจากวอลล์สตรีทนั่นเอง
โดยมัสก์กล่าวว่าเขาจะจ่ายส่วนที่เหลืออีก 21 พันล้านดอลลาร์ทีหลัง แต่ก็ไม่มีการยืนยันว่าเขาจะหาเงินจำนวนดังกล่าวมาจากที่ไหน ทำให้เหล่านักลงทุนเกิดความกังวลว่ามัสก์อาจขายหุ้นในส่วนของเขา เพื่อนำมาจ่ายส่วนที่เหลือให้กับทวิตเตอร์
ความจริงแล้วหุ้นของมัสก์นั้นลดลงเหลือมูลค่าเพียง 4 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน หลังจากที่เขาเผยว่าได้เข้าซื้อหุ้นถึง 9.2% ในทวิตเตอร์ และร่วงลงอย่างต่อเนื่องจนส่งผลให้มูลค่าหุ้นของบริษัทเทสลานั้นลดลงถึง 23% หรือคิดเป็น 275 พันล้านดอลลาร์ในเดือนนี้
เหล่าผู้ถือหุ้นของเทสลาต่างกังวลว่าการขายหุ้นสามัญของมัสก์นั้น จะส่งผลกระทบให้ราคาหุ้นของบริษัทลดลง โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น มัสก์ก็ได้ขายหุ้นของเทสลามูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ออกไป เนื่องจากตัวเลือกหุ้นนั้นหมดอายุ และเขาก็ไม่อยากจ่ายภาษีมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Tesla ได้เผยรายงานรายรับทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 81% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก นอกจากนี้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา บริษัทก็ได้ออกมาประกาศว่า พวกเขาได้ส่งมอบรถยนต์จำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้จะประสบปัญหาด้านซัพพลายเชนก็ตาม
ที่มา businessinsider