อุปกรณ์อย่างสมาร์ทวอชนั้นเปิดตัวออกสู่สายตาชาวโลกมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ด้วยขนาดจอแสดงผลของมันที่เล็ก ทำให้อาจใช้งานได้ไม่ดี/ใช้งานไม่ได้ในบางฟังก์ชันที่ต้องการพื้นที่หน้าจอมากกว่านี้ อย่างเช่น การคุยผ่านวิดีโอคอล
ถึงแม้จะสามารถคุยวิดีโอคอลผ่านสมาร์ทวอชได้ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดหน้าจอที่เล็กประกอบกับความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ทำให้สมาร์ทวอชไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่กล่าวมาข้างต้นก็ไม่อาจหยุดความพยายามของผู้ผลิตบางรายที่ต้องการพัฒนาการวิดีโอคอลได้จากบนข้อมือกับอุปกรณ์เสริม Apple Watch ใหม่
โดย Wristcam แบรนด์ที่ทำสายนาฬิกาของ Apple Watch มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่ Apple ไม่ได้ใส่เพิ่มมาบนสมาร์ทวอชของบริษัท นั่นคือ “กล้อง”
สายนาฬิกาที่มาพร้อมกล้องหน้า Front-Facing ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล วางตำแหน่งไว้อยู่เหรือหน้าจอแสดงผลของ Apple Watch และกล้อง World-Facing ที่ใช้ถ่ายภาพคนอื่นๆ สถานที่ สิ่งของ ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ทางด้าน Apple นั้นปฏิเสธที่จะเพิ่มกล้องมาตลอด ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของดีไซน์และเรื่องความเป็นส่วนตัว ทำให้ Apple Watch นั้นเหมือนกับสมาร์ทวอชอื่นๆ ในตลอดที่ไม่มีฟังก์ชันวิดีโอคอล แม้อุปกรณ์จะรองรับการใช้ FaceTime แต่ใช้งานได้แค่การโทรด้วยเสียงเท่านั้น มันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะทำฟังก์ชันวิดีโอคอลเมื่อสมาร์ทวอชไม่สามารถบันทึกวิดีโอได้ และนี่คือสิ่งใหม่ที่ทาง Wristcam พยายามนำเสนอ
เพื่ออธิบายให้เห็นภาพชัด Wristcam สามารถโทรออก-รับสายวิดีโอคอลจากบนข้อมือของผู้ใช้ได้ เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้โดยไม่จำเป็นต้องนำสมาร์ทโฟนออกมาเพื่อทำการวิดีโอคอล
มีหนึ่งเรื่องที่ต้องบอกให้ชัดเจน นั่นคือ Wristcam นั้นใช้งานกับ FaceTime ไม่ได้ ดังนั้นการใช้งานวิดีโอคอลจะจำกัดอยู่ที่ผู้ใช้งาน Apple Watch ที่ใช้ Wristcam ด้วยกันเท่านั้น
อีกจุดที่น่าสนใจ คือ แอป Wristcam สำหรับ iPhone ยังเปิดให้ผู้ใช้โทรวิดีโอคอลแบบ Watch-to-iPhone ได้ด้วย
Wristcam ให้คำมั่นสัญญาเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว โดยจะทำให้กล้องอยู่ในโหมดสแตนด์บายเมื่อไม่มีการใช้งานในระยะเวลาที่กำหนด
สายนาฬิกา Apple Watch ของ Wristcam ราคา 299 ดอลลาร์ หรือประมาณ 10,300 บาท สำหรับใครที่สนใจอยากคุยวิดีโอคอลผ่าน Apple Watch ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ของ Wristcam ก่อนได้เลย
ที่มา : SLASHGEAR