Huawei

หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชันศูนย์ข้อมูล แบบฟูลสแตกครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก

หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชันศูนย์ข้อมูล แบบฟูลสแตกครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ (Fast, Reliable, and Green Data Center” Forum) ภายในงาน ‘Huawei APAC Digital Innovation Conference 2022’

หัวเว่ย จัดประชุม ‘ศูนย์ข้อมูลที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ (Fast, Reliable, and Green Data Center” Forum) ภายในงาน ‘Huawei APAC Digital Innovation Conference 2022’ โดยอภิปรายถึงกลยุทธ์ขององค์กรในการสร้างศูนย์ข้อมูลเจเนอเรชันใหม่ในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อรับมือกับความท้าทายหลากหลายรูปแบบ อาทิ ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยมีลูกค้าและพันธมิตรกว่า 500 รายจากหลายภาคอุตสาหกรรมในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เข้าร่วม

ประธานอาวุโสกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ประจำเอเชียแปซิฟิกของหัวเว่ย กล่าวสุนทรพจน์เปิดงานว่า ข้อมูลถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่ทำให้องค์กรต่างๆ ได้เปรียบการแข่งขันในเศรษฐกิจดิจิทัล ศูนย์ข้อมูลจึงมีบทบาทสำคัญในการผลักดันการใช้ระบบดิจิทัลในองค์กร ภายในปี พ.ศ. 2573 ปริมาณข้อมูลจะเพิ่มขึ้น 30 เท่าและเข้าสู่ยุคย็อตตะไบต์ (YB era) องค์กรจะเผชิญกับความท้าทายในการกำกับดูแลข้อมูลและการเชื่อมต่อโครงข่าย และผลักดันนโยบายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในเวลาเดียวกัน

หัวเว่ย เปิดตัวโซลูชันศูนย์ข้อมูล

นายแอรอน หวัง รองประธานอาวุโสกลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ประจำเอเชียแปซิฟิกของหัวเว่ย ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์เปิดประชุม

กรรมการบริหาร สถาบันพลังงานศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มความเป็นไปได้และความท้าทายในการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยตั้งข้อสังเกตว่า การพัฒนาศูนย์ข้อมูลที่ยั่งยืนเป็นสิ่งสำคัญ และควรมีระบบรายงานความยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ตลอดจนสร้างมาตรฐานที่เชื่อถือได้ในอุตสาหกรรม เขาอธิบายว่าโดยเฉลี่ย ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล (Power usage effectiveness หรือ PUE) ในเอเชียแปซิฟิก มีอัตราที่ ค่อนข้างสูงอยู่ที่ 1.69 เทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 1.59 และสามารถตั้งเป้าหมายได้สูงกว่านี้ โดยกลยุทธ์มุ่งสู่เป้าหมายที่เป็นไปได้คือการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนด้วยของเหลว เขาสรุปปัจจัยหลักสี่ประการในการพัฒนาศูนย์ข้อมูลยุคใหม่ ได้แก่ ความเร็วในการบริการ, การพัฒนาที่ยั่งยืน, ความปลอดภัยของข้อมูล, และการใช้นวัตกรรม

ในส่วนของนวัตกรรมไอที นายบิล ราฟเทอรี ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสด้านการจัดเก็บข้อมูล ฟิวเจอร์เว่ย ได้จัดแสดงนวัตกรรมโซลูชัน ‘OceanStor’ ระบบจัดเก็บข้อมูลแบบออลแฟลชความเร็วสูง (all-flash acceleration solution) ที่ใช้เทคโนโลยี Flash-to-Flash-to-Anything (F2F2X) ช่วยลูกค้าจัดการข้อมูลธุรกรรมในกระบวนการผลิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลสำรองด้วยความเร็วสูง และกู้คืนข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และกล่าวถึงจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของหัวเว่ย อาทิ โซลูชัน NOF+ สำหรับการจัดเก็บข้อมูล พัฒนาเครือข่าย IPแทนที่เครือข่าย FC (Fibre Channel) แบบเดิม โซลูชัน Storage-Optical Connection Coordination หรือ SOCC สำหรับการจัดเก็บข้อมูล และเครือข่ายออปติคัลความเร็วสูงที่มีระบบ failover ระหว่างศูนย์ข้อมูลภายในไม่กี่วินาที ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้เป็นผลจากลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องในด้านไอซีทีของหัวเว่ย

ในส่วนของนวัตกรรมเครือข่าย การวิจัยร่วมกับ Forrester Consulting เผยว่าการทดลองใช้เครือข่ายศูนย์ข้อมูล อัตโนมัติ (Data Center Network หรือ DCN) ในองค์กร ไม่ว่าจะดำเนินการเต็มที่หรือบางส่วน ยังพบความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับกระบวนการนี้ การพัฒนายังไม่สมบูรณ์เกิดจากระบบคลาวด์และผู้ให้บริการที่แตกต่างกัน ผู้บริหารระบบต้องนำเทคโนโลยี เครื่องมือ กระบวนการใหม่ๆ ตลอดจนแอปพลิเคชันและโซลูชันการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) แบบครบวงจรมาใช้ เพื่อให้ระบบทำงานแบบอัตโนมัติได้มากขึ้น

นายฟิลิป ไล หัวหน้าหน่วยสถาปัตยกรรมศูนย์ข้อมูลของหัวเว่ย นำเสนอโซลูชันหลากหลาย อาทิ L3.5 autonomous driving network (ADN) และโซลูชันอ็อปติกซ์สำหรับศูนย์ข้อมูล(DC OptiX) ประกอบด้วยอุปกรณ์ส่งผ่านข้อมูลด้วยการมัลติเพล็กซ์แบบแบ่งความยาวคลื่น (WDM) ที่ออกแบบมาสำหรับ Data Center Interconnect ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI เพื่อสร้างการเชื่อมต่ออัจฉริยะ ปรับเครือข่ายอัตโนมัติรวมทั้งซ่อมแซมและเพิ่มประสิทธิภาพระบบ กระบวนการเหล่านี้นำไปสู่สถาปัตยกรรมเครือข่ายที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดต้นทุนและสร้างการดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) อัจฉริยะ

ในด้านศูนย์ข้อมูลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นายซัน เสี่ยวเฟิง รองประธานหัวเว่ยดิจิทัล พาวเวอร์ ได้แนะนำโซลูชันสำหรับโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลหัวเว่ยที่ใช้งานง่าย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ชาญฉลาด และปลอดภัย โซลูชันใหม่นี้ผสานนวัตกรรมหลายอย่าง รวมถึงสถาปัตยกรรมแบบใหม่ ระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) และอุปกรณ์จ่ายไฟ โซลูชัน FusionDC ของหัวเว่ยใช้โมดูลแบบกำหนดค่าล่วงหน้าเพื่อเปิดดำเนินการศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาเพียง 6 ถึง 9 เดือน และลดการปล่อยคาร์บอนได้ 90% สำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กและขนาดกลาง Huawei FusionModule ใช้โมเดลอัจฉริยะแบบโมดูลาร์เพื่อระบบดำเนินงานและการบำรุงรักษา (O&M) ครบวงจรแบบ Plug-and-Play ที่ควบคุมได้จากระยะไกล

ในอนาคต หัวเว่ยมุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยมุ่งเน้นการบรรจบกันของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ตลอดจนความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์และโดเมน เราตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมด้านโซลูชันศูนย์ข้อมูลฟูลสแตก ที่รวดเร็ว เชื่อถือได้ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราพร้อมร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและส่งเสริมโอกาสความก้าวหน้าในยุคดิจิทัลต่อไป