LINE จับกระแสโลก ต่อยอดธุรกิจไทยด้วยการตลาด NFT ตลาด NFTs มีมูลค่าถึงประมาณ 3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตแตะ 7 พันล้านดอลล่าสหรัฐในปี 2028
เมื่อ NFTs สินทรัพย์ดิจิทัลในกลุ่มนักลงทุนคนรุ่นใหม่กำลังเกิดเป็นกระแสความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ทั้ง NFT ประเภทศิลปะ ชิ้นงานสะสม รูปโปรไฟล์ และเกม ข้อมูลจาก marketresearch เผยว่าตลาด NFTs มีมูลค่าถึงประมาณ 3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 2022 และคาดว่าจะเติบโตแตะ 7 พันล้านดอลล่าสหรัฐในปี 2028 โดยปัจจัยสำคัญที่เป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโต คือ การพัฒนา NFTs เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเกม ความนิยมสะสมและถือครองดิจิทัลอาร์ตที่มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแม้ช่วงต้นปีนี้ ตลาดคริปโตฯ จะไม่สดใสนัก จนส่งผลให้ NFT ซึมลงตามไปด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่า “NFT” จะหมดมนต์ขลัง เพราะ NFTs กำลังถูกนำมาใช้ในวงการการตลาด กลายเป็นเครื่องมือ “การตลาดยุคใหม่” ให้กับแบรนด์ต่างๆ เป็นการกรุยทางสร้างโอกาสในยุค Web 3.0 โดยมีเมตาเวิร์สเป็นตัวเชื่อมประสบการณ์สุดล้ำระหว่างโลกเสมือน และโลกจริงได้อย่างไร้รอยต่อ
ในงานสัมมนา NFT FOR BUSINESS: The Future of Marketing with LINE CREATORS จัดโดย LINE ประเทศไทย ได้มีผู้เชี่ยวชาญมาร่วมให้ความรู้และมุมมองที่หลากหลายเกี่ยวกับการใน NFTs ไปใช้งานการตลาดไว้อย่างน่าสนใจ
ต่อยอด NFT สู่การตลาดยุคใหม่
กัญชลี สำลีรัตน์ ผู้ก่อตั้ง DigiNative ชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการนำ NFT มาใช้ในการทำตลาดเบื้องต้นภายในงานช่วง ‘Catching Up on NFT Marketing’ ไว้ว่า คุณสมบัติสำคัญของ NFT ที่จะนำมาใช้เพื่อการตลาดมี 3 ลักษณะสำคัญ นั่นก็คือ พิสูจน์ความเป็นเจ้าของได้ มีสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือครอง และมีคอมมูนิตี้รองรับ
“การนำ NFT ไปใช้ในการตลาด เปรียบเหมือนการสื่อสารของแบรนด์ ที่ใช้ NFT เป็นตัวกลางในการบอกกับผู้คนว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับเรื่องอะไร ดังนั้นจุดเริ่มต้นจึงไม่ใช่คิดว่าจะทำ NFT อะไร หน้าตาเป็นอย่างไร แต่ควรคำนึงถึงว่า เราจะใช้ NFT ตอบโจทย์แบรนด์ในด้านไหน ซึ่งปัจจุบัน นักการตลาดเริ่มใช้ NFT ตอบโจทย์แบรนด์ใน 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ การสร้างฐานแฟนคลับ และการตอบแทนสังคม”
กัญชลี ได้หยิบยกกรณีศึกษาที่น่าสนใจในการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ ของแบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Robert Mondavi, Adidas และ Dolce & Gabbana ที่ได้ทำงานร่วมกับครีเอเตอร์ NFT ที่มีชื่อเสียงสร้างสรรค์ NFT เพื่อให้ลูกค้าได้ถือครองในลักษณะ Limited Edition ที่ลูกค้าสามารถใช้ NFT ได้ในโลกเสมือนเมตาเวิร์ส และยังได้รับสินค้าพิเศษและสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมแบบเอ็กคลูซีฟกับแบรนด์ในโลกจริงอีกด้วย ถือเป็นการใช้ NFT สร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์และแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน แบรนด์ระดับโลกอย่าง หลุยส์ วิตตอง ได้สร้างสรรค์ NFT ขึ้นมาเพื่อเป็นรางวัล สำหรับแฟนคลับที่เข้ามาร่วมทำกิจกรรมฉลอง 200 ปี ซึ่งผู้ชนะที่จะได้ครอบครอง NFT คอลเลคชั่นที่สร้างขึ้นนี้ จะต้องฝ่าด่านกิจกรรมต่างๆ มากมาย ซึ่งถือเป็นการเชิญชวนสาวกของแบรนด์ เข้ามามี Engagement
และสร้างความรู้สึกภักดีกับแบรนด์มากขึ้น หรือแม้แต่ในไทยเอง ก็มีแบรนด์นักกีฬาไทย ‘บัวขาว บัญชาเมฆ’ ที่มีแฟนคลับอยู่ทั่วโลก ได้ออกคอลเลคชั่น NFT จำนวน 10,000 ชิ้น เปิดจำหน่ายให้แฟนคลับได้ซื้อสะสม และรับสิทธิพิเศษเป็นสินค้าเสื้อและกางเกง รวมถึงการร่วมกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็นการ Engage กับแฟนคลับทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
สุดท้าย หลายแบรนด์ได้ใช้ NFT เป็นการระดมทุนเข้าโครงการต่างๆ ตามแนวทางที่แบรนด์สนับสนุน และเปิดให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับการทำความดี อาทิ Coca-Cola ที่ออก NFT เพื่อระดมทุนในการสนับสนุนโอลิมปิคสำหรับผู้พิการทางสติปัญญา หรือ Taco bell ที่ระดมทุนเข้ามูลนิธิในการสนับสนุนการศึกษาของเยาวชน เพื่อให้สามารถทำอาชีพในฝันได้
จากหลายเคสของแบรนด์ชั้นนำในโลกที่เริ่มเข้าสู่การตลาด NFT จะเห็นว่าเคสที่ประสบความสำเร็จนั้นจะต้องมี 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) การบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ที่สะท้อนคุณค่าที่แบรนด์ให้ความสำคัญ 2) การเลือกครีเอเตอร์ที่มาเป็นพันธมิตรในการสร้างสรรค์ NFT ให้ตรงกับสไตล์ที่กลุ่มเป้าหมายชอบ หรือมีฐานผู้ติดตามอยู่ด้วย จะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้าร่วมกับแคมเปญได้มากขึ้น และ 3) แคมเปญจะสำเร็จไม่ได้เลย หากไม่มีการสื่อสารแคมเปญไปถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจุบัน การสื่อสารแคมเปญ NFT มักนิยมใช้ช่องทาง Discord และ Twitter เป็นหลักในการสื่อสาร
เพิ่มโอกาสธุรกิจ พิชิตการตลาด NFT ด้วย LINE Creator
เมื่อกลับมามองในประเทศไทย NFT ได้เป็นกระแสที่มาแรงเช่นเดียวกัน นักการตลาดและแบรนด์ ควรเริ่มมองหาโอกาสจากการทำการตลาด NFT โดยในวันนี้ การเข้าสู่การตลาด NFT ของแบรนด์และธุรกิจไทยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะ LINE แพลตฟอร์มดิจิทัลที่คนไทยคุ้นเคย ได้ประกาศความพร้อมในการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ในการช่วยทำแคมเปญการตลาด NFT แล้ว
ธรรมรดี ไพรพิรุณโรจน์ Head of Consumer Business LINE Thailand กล่าวถึงความพร้อมของ LINE ในการพาแบรนด์ก้าวเข้าสู่โลกของ NFT ผ่าน LINE CREATORS ด้วยฐานครีเอเตอร์ทั่วไทยที่มีจำนวนกว่า 1 ล้านรายในปัจจุบัน มีผลงานสติกเกอร์ที่วางจำหน่ายแล้วมากกว่า 5.3 ล้านชุด พร้อมยอดดาวน์โหลดครีเอเตอร์สติกเกอร์กว่า 107 ล้านชุด ทำให้เห็นได้ว่า LINE CREATORS ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดสติกเกอร์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
จากความแข็งแกร่งของ LINE CREATORS ทำให้ LINE ต่อยอดธุรกิจสู่ Licensing Business ปลุกปั้นให้มีบริการหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากฝีมือ LINE CREATORS ให้แก่ลูกค้าและแบรนด์ ทั้งในรูปแบบสินค้าที่ระลึก (Merchandising) และ แบรนด์คาแรกเตอร์ใหม่ๆ (Brand Character Design) รวมไปถึงสติกเกอร์ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบัน มี LINE CREATORS ที่เข้าร่วมในธุรกิจ Licensing กว่า 28 ราย มากกว่า 80 คาแรกเตอร์ และเคยมีผลงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 7 โครงการ อาทิ เอไอเอส นีเวีย เดอะวัน ยูนิโคล่ ไลออน และ LINE SHOPPING เป็นต้น
ในวันนี้ LINE พร้อมต่อยอดไปสู่การให้บริการด้านการตลาด NFT ประเดิมด้วยการสร้าง NFT Academy ในการปลุกปั้น และเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับ NFT ให้แก่เหล่าครีเอเตอร์ พร้อมตอบโจทย์แบรนด์และนักการตลาดยุคใหม่ด้วย NFT for Business ที่ให้บริการแบบครบวงจรในการพาแบรนด์เข้าสู่การทำตลาดด้วย NFT ไล่ตั้งแต่การทำเวิร์คช้อป ระดมสมองร่วมกับแบรนด์ เพื่อทำการออกแบบผลงาน NFT ไปจนถึงการมองหาแพลตฟอร์มที่สามารถมอบสิทธิประโยชน์และตอบโจทย์ความต้องการของแบรนด์มากที่สุด
ทั้งนี้ แบรนด์สามารถเลือกรูปแบบ NFT ที่เหมาะสมได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น NFT เพื่อการสะสม (Collectable NFT) เช่น เกม ศิลปะ กีฬา และการ์ดสะสม เพื่อให้แฟนได้เชื่อมต่อกับไอดอล หรือกลุ่มผู้ซื้อเป้าหมาย การทำ NFT แบบสิทธิประโยชน์ (Privilege NFT) ที่มอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ให้กับลูกค้าผู้ถือครอง NFT สร้าง Loyaty ให้ลูกค้า สร้างการมีส่วนร่วมกับคอมมูนิตี้ และสร้างคุณค่าทั้งในผลิตภัณฑ์แบบดิจิทัลและที่จับต้องได้ รวมถึงการทำ NFT สำหรับเมตาเวิร์ส (Metaverse Item) เช่น การทำสินทรัพย์ในเกม การทำรีวอร์ด NFT สำหรับเมตาเวิร์ส เป็นต้น
ที่ถือเป็นหัวใจของการสร้างสรรค์ NFTs ที่สำคัญที่สุด LINE มีกลุ่มครีเอเตอร์ที่คัดเลือกให้เข้าสู่บริการ NFT จำนวนกว่า 30 ราย โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มครีเตอร์ชื่อดัง (Tier 1) มีความสามารถในการออกแบบหลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญครีเอเตอร์กลุ่มนี้ เป็นกลุ่มผู้มีประสบการณ์ในตลาด NFT และมีฐานแฟนคลับจำนวนมากถึงหลักแสนขึ้นไปที่รอติดตามผลงานที่จะออกสู่ตลาด
และกลุ่มครีเอเตอร์ดาวรุ่งหน้าใหม่ (Tier 2) ที่มีความสามารถในการตลาดตอบสนองตลาดคนรุ่นใหม่ และกำลังเป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มวัยรุ่นเป็นอย่างมาก ในการทำการตลาด NFT หากแบรนด์ใช้ครีเอเตอร์ที่โดนใจกลุ่มลูกค้าในการช่วยออกแบบผลงาน NFT จะสามารถทำให้แคมเปญการตลาดของแบรนด์ประสบความสำเร็จได้มากยิ่งขึ้น
“LINE เป็นแพลตฟอร์มที่มีความพร้อมมากที่สุดในร่วมทำงานกับแบรนด์เพื่อเดินหน้าสู่การตลาด NFT จากความสัมพันธ์อันดีกับ NFT แพลตฟอร์มและมาร์เก็ตเพลสต่างๆ อาทิ Bitkub, Coral, EAST, Zipmex เป็นต้น อีกทั้ง LINE ยังเป็นช่องทางการสื่อสารที่เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก เมื่อผสานกับการใช้ครีเอเตอร์ที่โดนใจกลุ่มลูกค้า จะสามารถทำให้แคมเปญการตลาดของแบรนด์ประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี” ธรรมรดี กล่าวสรุป
สำหรับผู้ที่สนใจอยากศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทรนด์บนโลก NFT พร้อมเรียนรู้การทำการตลาดด้วย NFT บนโลกดิจิทัล สามารถรับชมงาน ‘NFT for Business: The Future of Marketing with LINE CREATORS’ ย้อนหลังได้ที่ https://lin.ee/R4FKdoY/wcvn