ต้อนรับการกลับมาทำตลาดในไทยอีกครั้งของ HONOR พบกับ รีวิว HONOR X9 และ X8 สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น ดีไซน์บางเบา สเปกภายในใช้ชิป Snapdragon 680 6 นาโนเมตร กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 64 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมระบบชาร์จเร็ว ระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 มาพร้อมกับ Google Mobile Service (GMS) ราคา เริ่มต้น 7,999 บาท
ตั้งแต่ช่วงปีที่แล้ว เราได้ข่าวเกี่ยวกับแบรนด์ HONOR ที่ได้แยกตัวออกมาเป็นอิสระ และทำตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกอีกครั้ง เชื่อว่าหลายคนที่เป็นแฟนๆ ของ HONOR ก็เฝ้ารอว่าจะกลับมาไทยเมื่อไร และตอนนี้ HONOR ก็มาทำตลาดในไทยอีกครั้งอย่างเป็นทางการแล้วครับผม โดยจับมือกับทาง Synnex เข้ามาดูแลในเรื่องบริการทั้งก่อนและหลังการขาย
โดยสมาร์ทโฟน HONOR ที่จะเข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้ จะมาในทุกเซ็กเมนต์ ตั้งแต่รุ่นเรือธงในกลุ่ม Magic Series, กลุ่ม Number Series โดยในการเปิดตัวจะเริ่มด้วย X Series ที่มาทีเดียว 3 รุ่นด้วยกันคือ HONOR X7, X8 และ X9
ทางล้ำหน้าฯ เราได้เครื่องมาสำหรับทดสอบ รีวิว ด้วยกัน 2 รุ่นคือ HONOR X9 และ HONOR X8 มาดูกันว่าคู่นี้มีจุดเด่นอะไรบ้างที่น่าสนใจ
Unbox แกะกล่อง HONOR X9 และ HONOR X8
ตัวแพ็กเกจของทั้ง 2 รุ่นจะมาเป็นแบบกล่องสีขาว ที่มีภาพของตัวเครื่องอยู่ที่หน้ากล่อง ภายในจะมีตัวเครื่องพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ ได้แก่ เคสใสแบบ TPU สำหรับใส่ป้องกันตัวเครื่อง, เอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารการรับประกัน, เข็มจิ้มถาดซิม โดยที่ในกล่องของ X9 จะมีหูฟังกับ USB Dongle แถมมาให้ด้วย
ตัวอุปกรณ์ชาร์จมีแถมมาให้ในกล่องด้วยเช่นกัน โดยที่ในกล่องของ HONOR X9 อะแดปเตอร์ชาร์จจะเป็นรุ่นรองรับเทคโนโลยี 66W HONOR SuperCharge ส่วน HONOR X8 จะเป็น 22.5W HONOR SuperCharge
Hand-on ลองสัมผัส + ดีไซน์
คราวนี้มาดูกันที่ตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มด้วย HONOR X9 ที่รูปทรงมาดีไซน์ให้ความรู้สึกที่สวยพรีเมียม ฝาหลังที่เป็นขอบด้านข้างโค้งแบบ 3D สำหรับรุ่นที่ทีมงานได้มาทดสอบ รีวิว เป็นสี Midnight Black ที่เป็นสีดำเงา สัมผัสคือมีรอยนิ้วมือค่อนข้างง่าย
ชุดโมดูลเลนส์กล้องหลัง 4 ตัว ดีไซน์เป็นวงกลมขนาดใหญ่ นูนออกมาจากฝาหลังเล็กน้อย มีเล่นลูกเล่นตัดขอบสีทองที่ตรงกลางของโมดูลกล้อง ที่ให้ความรู้สึกหรูหรามากขึ้น
ด้านข้างตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง กับปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ทางขวา ส่วนทางซ้ายของเครื่องจะเรียบๆ ไม่มีปุ่มหรือพอร์ตอะไร
ขอบด้านบนตัวเครื่องจะมีช่องของไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องลำโพงเสียงสนทนา
ด้านล่างของเครื่องจะเป็นช่องลำโพง, พอร์ต USB-C, ช่องไมโครโฟนเสียงสนทนา และถาดซิม ที่รองรับแบบ 2 ซิม ขนาด Nano SIM และเพิ่ม microSD ไม่ได้
ตัวหน้าจอเป็นแบบแบนเรียบ HONOR FullView Display ขนาดใหญ่ถึง 6.81 นิ้ว FHD+ ความละเอียด 2388 x 1080px เว้นช่องสำหรับกล้องหน้าตรงกลางด้านบน โดยที่พาเนลจะเป็นแบบ IPS และแสดงผลอัตราค่ารีเฟรชได้สูงถึง 90Hz
มาดูทางฝั่งของ HONOR X8 กันบ้าง บอกเลยว่าดีไซน์ต่างกันแบบคนละแนว ที่เน้นในเรื่องของความบางและเบา และดูสวยหรู โดยตัวขอบเครื่องดีไซน์เป็นแบบเรียบตัดขอบมุมอย่างสวยงาม ความหนาเพียงแค่ 7.45 มิลลิเมตร และหนักแค่ 177 กรัม ขนาดตัวเครื่องก็กำลังดีถือได้เหมาะมือ
ตัวเครื่องมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีด้วยกัน คือ Ocean Blue, Midnight Black และรุ่นที่รีวิวตัวนี้จะเป็นสีเงิน Titanium Silver ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านที่จับแล้วไม่เกิดรอยนิ้วมือ มีเอฟเฟ็กสะท้อนแสงที่เกิดเงาสีสันที่สวยงาม
โมดูลกล้องหลังเป็นแบบสีเหลี่ยมโค้งมนนูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง โดยจะเป็นสีเงาสะท้อนตัดกับสีของฝาหลัง วางเรียงกล้อง 4 ตัวแบบสมมาตร
ด้านข้างฝั่งซ้ายมือจะเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว
ส่วนฝั่งขวาจะมีช่องของถาดซิม ใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้
ด้านบนเป็นช่องของไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และลำโพงเสียงสนทนาซ่อนอยู่บริเวณสันขอบเครื่อง
ด้านล่างตัวเครื่องจะเป็นช่องลำโพงเสียง, พอร์ต USB-C, ไมโครโฟนสนทนา และมีเพิ่มสำหรับช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย
หน้าจอเป็นแบบ HONOR FullView Display 6.7 นิ้ว FHD+ ความละเอียด 2388 x 1080px รีเฟรชเรต 90Hz ตัวดีไซน์ขอบด้านข้างเหลือน้อยมากๆ ส่วนตรงกลางด้านบนจะเว้นเป็นช่องของกล้องหน้า
สเปก HONOR 9
- ขนาดตัวเครื่อง 166.07 x 75.78 x 8.05 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 189 กรัม
- หน้าจอ HONOR FullView Display 6.81 นิ้ว FHD+ ความละเอียด 2388 x 1080px รีเฟรชเรต 90Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 (6nm)
- RAM 8GB
- ROM 128GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.45
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้องมุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 4800mAh
- ระบบชาร์จไว 66W HONOR SuperCharge
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- ระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บน Android 11
- รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G LTE
- มีให้เลือก 2 สี Midnight Black และ Titanium Silver
- ราคา 9,299 บาท
สเปก HONOR 8
- ขนาดตัวเครื่อง 163.4 x 74.7 x 7.45 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 177 กรัม
- หน้าจอ HONOR FullView Display 6.7 นิ้ว FHD+ ความละเอียด 2388 x 1080px รีเฟรชเรต 90Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 680 (6nm)
- RAM 6GB
- ROM 128GB
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.45
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล f/1.8
- กล้องมุมกว้าง 5 ล้านพิกเซล f/2.2
- กล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องวัดระยะ 2 ล้านพิกเซล f/2.4
- แบตเตอรี่ 4000mAh
- ระบบชาร์จไว 22.5W HONOR SuperCharge
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Power
- ระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บน Android 11
- รองรับเครือข่าย 2G/3G/4G LTE
- มีให้เลือก 3 สี Ocean Blue, Midnight Black และ Titanium Silver
- ราคา 7,999 บาท
ประสิทธิภาพการใช้งาน
HONOR X9 และ HONOR X8 ทั้ง 2 รุ่นนี้ตัวสเปคภายใน ใช้ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 680 ขนาด 6nm และพื้นที่เก็บข้อมูล ROM 128GB เหมือนกันทั้งคู่ จะต่างกันที่ตัว RAM ที่ HONOR X9 ให้มา 8GB และ HONOR 8 ใส่มา 6GB
ด้วยประสิทธิภาพของตัวชิปเซ็ตที่เป็นซีรีย์ 6 นั้น ถือว่าเป็นระดับเริ่มต้น แต่ด้วยเทคโนโลยีระดับ 6 นาโนเมตร ทำให้ช่วยเรื่องการประหยัดพลังงาน ในการทำงานทั่วไปถือว่าไหลลื่นดี รวมกับตัวจอที่เป็น 90Hz ก็ยิ่งช่วยให้ความรู้สึกในการใช้งานบนหน้าจอที่รวดเร็วมากขึ้น ส่วนการใช้งานเล่นเกม เลือกปรับกราฟฟิคระดับเริ่มต้นยังพอได้ในระดับ 28-30fps
อีกเรื่องที่หลายคนอยากรู้ ยืนยันให้นะครับว่า HONOR X9 และ HONOR X8 ตัวเครื่องมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บนพื้นฐานของ Android 11 และมี GMS (Google Mobile Service) พร้อมใช้งานได้ทันทีแบบไม่มีปัญหาใดๆ ทุกประการ
แบตเตอรี่
HONOR X9 แบตเตอรี่ความจุ 4800mAh ถือว่าขนาดใหญ่มาก พร้อมด้วยระบบ HONOR Smart Power Saving Technology ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น ตามสเปคคือ ใช้งานโซเชียลมีเดียได้ถึง 13.75 ชั่วโมง หรือเล่นสตรีมเพลง 16.8 ชั่วโมง จากที่ทดสอบใช้งานทั่วไป รวมถึงเล่นเกมด้วย อยู่ได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง
เมื่อได้แบตเตอรี่ใหญ่ก็มีระบบชาร์จเร็วมาให้ได้วย เป็น 66W HONOR SuperCharge ที่สามารถชาร์จเติมไฟแบตเตอรี่ได้ถึง 50% ภายในเวลาเพียง 15 นาที และชาร์จได้ 81% ได้ภายในเวลา 30 นาที
HONOR X8 ด้วยขนาดตัวเครื่องที่บางและเบากว่า ให้แบตเตอรี่ความจุ 4000mAh ถือว่าไม่น้อยเลย และยังให้ระบบชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge ช่วยให้ชาร์จเติมไฟได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
กล้อง
สำหรับกล้องหน้าเซลฟี่ของ HONOR X9 และ HONOR X8 ทั้ง 2 รุ่นมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.45 มีฟีเจอร์หลักๆ มาให้ครบทั้งการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ เลือกฉากหลังเป็นโบเก้ และมี Beauty mode แบบปรับระดับให้เลือกใช้
ส่วนของกล้องหลัง เป็นกล้อง 4 ตัวเหมือนกัน โดยกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล f/1.8 มาพร้อมกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล f/2.4, กล้องวัดระยะ 2 ล้านพิเซล f/2.4 และกล้องมุมกว้างที่จะมีต่างกันนิดหน่อยคือ HONOR X9 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วน HONOR X8 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
สำหรับเซ็ตอัพกล้องชุดนี้ ให้คุณถ่ายภาพได้ในหลากหลายมุมมอง ทั้งมุมปกติ, มุมกว้าง และมาโคร พร้อมโหมดการถ่ายภาพจัดมาให้ครบครัน ทั้งโหมด Photo ที่มี AI ในการช่วยเลือกปรับซีนให้อัตโนมัติ, โหมด Portrait สำหรับถ่ายภาพบุคคลปรับโบเก้และใส่ฟิลเตอร์ได้, โหมด Aputure ถ่ายภาพแบบปรับรูรับแสงได้เอง, โหมดกลางคืน Night ถ่ายภาพสภาพแสงน้อยให้สว่าง สีสดใสรายละเอียดคมชัด
และยังมีโหมดอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างเช่นโหมด Dual-View ถ่ายวิดีโอกล้องหน้า-หลังพร้อมกัน, Hi-Res ถ่ายภาพความละเอียดสูง,Pro เลือกปรับค่าการถ่ายได้เอง ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น เลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080p 60fps
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ HONOR X9 และ X8
สรุป รีวิว HONOR X9 และ HONOR X8 รุ่นไหนเหมาะกับใคร
ถือว่าน่าสนใจมากๆ เป็นการกลับมาในประเทศไทยอีกครั้งของแบรนด์ ็HONOR ที่เลือกเอาสมาร์ทโฟนในกลุ่มตลาดราคาสุดค้ม ต่ำกว่า 10,000 บาท มาเป็นตัวเปิดตลาด เพราะว่าเป็นกลุ่มที่มีลูกค้าจำนวนมาก แล้วทั้ง 3 รุ่นที่เข้ามานั้นก็ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ค่อนข้างชัดเจน
HONOR X9 ถือว่าเป็นรุ่นสเปคสูงสุดในซีรีย์ X ครบถ้วนตั้งแต่หน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา แบตเตอรี่ใหญ่สะใจ 4800mAh พร้อมชาร์จเร็ว 66W HONOR SuperCharge และได้สเปคภายในเป็น RAM 8GB ROM 128GB
HONOR X8 นั้นสเปคมาไล่เลี่ยกัน ได้ RAM 6GB ROM 128GB แบตเตอรี่ 4000mAh พร้อมชาร์จเร็ว 22.5W HONOR SuperCharge แต่ที่น่าสนใจของรุ่นนี้คือความบางเบาของตัวเครื่อง ที่น่าจะถูกใจสำหรับสาวๆ หรือคนที่ชอบเครื่องที่ไม่หนักมาก แล้วก็ยังมีพอร์ตหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรให้มาด้วย
ส่วนสเปคอื่นๆ อย่างด้านประสิทธิภาพ 2 รุ่นนี้ถือว่าไม่ห่างกันมาก เพราะใช้เป็น Qualcomm Snapdragon 680 ทั้งคู่ และกล้องก็เหมือนกัน ต่างกันแค่กล้องมุมกว้างเพียงเล็กน้อย ประสบการณ์การใช้งานถือว่าค่อนข้างใกล้เคียงกันเลย ส่วนหน้าจอก็เป็น 90Hz เหมือนกัน ก็ทำให้เวลาใช้งานรวมถึงเล่นเกมให้ความรู้สึกลื่นไหลมากขึ้น และที่สำคัญ สมาร์ทโฟนของ HONOR ที่เข้ามาจำหน่ายในไทย จะเป็นระบบปฏิบัติการ Magic UI 4.2 บนพื้นฐานของ Android 11 และมี GMS (Google Mobile Service) ให้ครบถ้วนเรียบร้อย
โดยจะมีข้อสังเกตสำหรับ 2 รุ่นนี้อยู่คือ หน่วยความจำในเครื่องให้มาที่ 128GB โดยที่ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจุแบบ microSD ได้ ใครที่ใช้งานหนักๆ แล้วจะเก็บภาพเก็บวิดีโออาจจะต้องพึ่งพาการเก็บผ่าน Cloud แทน
ราคา โปรโมชัน HONOR X9 X8 และ X7 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย
- HONOR X9 (8+128GB) เปิดจำหน่าย 2 สี คือ สี Midnight Black และ Titanium Silver ในราคา 9,299
- HONOR X8 (6+128GB) เปิดจำหน่าย 3 สี คือ สี Ocean Blue, Midnight Black และ Titanium Silver ในราคา 7,999
- HONOR X7 (4+128GB) เปิดจำหน่าย 3 สี คือ สี Ocean Blue, Midnight Black และ Titanium Silver ในราคา 6,299
เริ่มจำหน่าย HONOR X Series วันแรก ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 โปรโมชั่นสุดพิเศษ เมื่อจอง HONOR X9, HONOR X8 และ HONOR X7 ล่วงหน้า ผ่านตัวแทนจำหน่ายทางออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม ถึง 26 กรกฎาคม 2565 พร้อมรับสิทธิประโยชน์ มูลค่ารวมสูงสุด 5,499 บาท
- เมื่อจอง HONOR X9 รับฟรี สายเชื่อมต่อ S-GEAR HDMI+PD+VGA+USB Converter มูลค่า 899 บาท
- เมื่อจอง HONOR X8 หรือ HONOR X7 รับฟรี สายชาร์จ S-GEAR Cable 3-in-1 มูลค่า 359 บาท
โดยไม่ว่าจะจอง HONOR X Series รุ่นใด ก็มั่นใจได้กับคุณภาพเต็มเปี่ยมกับ HONOR X Privilege Card ด้วยสิทธิประโยชน์มูลค่า 4,600 บาท ซึ่งประกอบด้วยประกันหน้าจอแตกคุ้มครอง 90 วัน และ สิทธิรับการซ่อมบำรุง โดยไม่เสียค่าบริการเป็นเวลา 2 ปี และสามารถรับเครื่อง HONOR X Series ได้ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป
ข้อมูลเพิ่มเติม Facebook: HONORThailand, IG: HONORThailand, Line OA: @SynnexThailand หรือ SYNNEX CARE โทร 1251 กด 1