NASA ได้เผยแพร่ ภาพถ่าย ทางวิทยาศาสตร์ของกาแล็กซีและเนบิวลาที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ถ่ายได้โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ (James Webb Space Telescope) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา
กล้องโทรทรรศน์ขนาดมหึมานี้สามารถจับภาพวงโคจรที่อยู่ห่างออกไป 1 ล้านไมล์จากโลก และเป็นตำแหน่งที่สามารถมองดูกาแล็กซีและดาวฤกษ์เก่าแก่บางดวงได้ การจับภาพวัตถุต่างๆ เหล่านี้ได้หมายถึงความสามารถย้อนเวลากลับไปเวลาหลายพันล้านปี เพราะ แสงเหล่านี้ใช้เวลาที่นานหลายร้อยปีแสง กว่าจะเดินทางมาถึงเรา
กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb เป็นตัวตายตัวแทนของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลในตำนาน ที่เคยจับภาพมุมมองดวงดาวที่โดดเด่นที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นเวลานานกว่า 3 ทศวรรษ โดยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์นั้นมีกระจกสีทองที่ใหญ่กว่ากล้องฮับเบิล 2 เท่าครึ่ง มีความสามารถในการมองเห็นวัตถุที่สลัวกว่ามากและสามารถมองผ่านเมฆฝุ่นคอสมิกที่หนาทึบอย่างที่ไม่มีกล้องตัวไหนเคยทำได้ก่อนหน้านี้
และนี่คือภาพถ่ายอวกาศที่น่าทึ่ง ไปดูกันเลย !
SMACS 0723
นี่เป็นภาพที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์สามารถใช้จับภาพกาแล็กซีที่อยู่ห่างไกลออกไปมากๆ
Bill Nelson ผู้ดูแลระบบของ NASA อธิบายว่าแสงจากกาเล็กซีเหล่านั้นใช้เวลาเดินทางหลายพันล้านปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระจุกกาแล็กซี SMACS 0723 ตามที่ปรากฏเมื่อ 4.6 พันล้านปีก่อน
ภาพนี้เป็นภาพแรกจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ของ NASA ที่เป็นภาพอินฟราเรดที่มีความลึกและคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา ภาพ SMACS 0723 ที่รู้จักในชื่อ Webb’s Deep Deep Field นั้นเต็มไปด้วยรายละเอียด
Cosmic Cliffs
Cosmic Cliffs หรือหน้าผารังสีคอสมิก เป็นภาพถ่ายพื้นที่ NGC 3324 ที่อยู่ในเนบิวลา Carina Nebula ซึ่งไม่มีกล้องตัวไหนในอดีตสามารถถ่ายได้มาก่อน เพราะไม่สามารถถ่ายผ่านฝุ่นคอสมิกได้
แต่กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์สามารถถ่ายได้ด้วยการผสานพลังของกล้อง NIRCam หรือ Nera-Infrared Camera และ MIRI หรือ Mid-Infrared Instument
ภาพที่เห็นให้ความรู้สึกเหมือนวิวภูเขาที่อยู่ในอวกาศ
Southern Ring Nebula
Southern Ring Nebula เป็นวัตถุประเภทหนึ่งที่เรียกว่า เนบิวลาดาวเคราะห์ (planetary nebula)
มันคือกลุ่มของเปลือกก๊าซและฝุ่นที่ถูกขับออกสู่อวกาศโดยดาวฤกษ์ที่กำลังจะตาย/ดับลง
NASA ได้แยกภาพด้วยกล้องอินฟราเรด 2 ตัวเพื่อเปรียบเทียบให้เห็นความต่างโดยรูปซ้ายมือใช้กล้อง NIRCam และรูปขวามือใช้ MIRI
เนบิวลาดาวเคราะห์นี้อยู่ห่างจากโลกเราประมาณ 2,000 ปีแสง
Stephan’s Quintet
Stephan’s Quintet เป็นกลุ่มกาแล็กซีที่อยู่ห่างออกไป 290 ล้านปีแสง จากรูปจะเห็นเป็นกลุ่มก้อนแสง จำนวน 4 ก้อนที่อยู่ใกล้ชิดกัน
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์สามารถถ่ายภาพที่เก็บรายละเอียดได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เช่น รายละเอียดของหลุมดำแบบที่ยังไม่เคยมีกล้องตัวใดถ่ายได้
สิ่งที่ทำให้กล้องโทรทรรศน์อวกาศ James Webb ไม่มีใครเทียบได้ มีดังนี้
กระจกขนาดใหญ่
กระจกของกล้องเจมส์ เวบบ์สามารถจับแสงได้กว้างกว่า 21 ฟุต (ประมาณ 6.40 เมตร) ซึ่งใหญ่กว่ากระจกของกล้องฮับเบิลถึง 2 เท่าครึ่ง
การรับแสงได้มากขึ้นช่วยให้กล้องมองเห็นวัตถุที่อยู่ห่างไกลออกไป โดยกล้องโทรทรรศน์สามารถมองเห็นดวงดาวและกาแล็กซีที่ก่อตัวเมื่อกว่า 1.3 หมื่นล้านปีก่อน
Jean Creighton นักดาราศาสตร์และผู้อำนวยการ Manfred Olson Planetarium แห่งมหาวิทยาลัย Wisconsin–Milwaukee บอกกับทาง Mashable ว่าเรากำลังจะได้เห็นดาวฤกษ์และกาแล็กซีที่ก่อตัวขึ้นเป็นกลุ่มแรกๆ
มุมมองอินฟราเรด
กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์เป็นกล้องโทรทรรศน์อินฟราเรดที่สามารถมองเห็นแสงในสเปกตรัมอินฟราเรดได้ ทำให้เรามองเห็นจักรวาลได้มากขึั้น ซึ่งต่างจากกล้องฮับเบิล
อินฟราเรดมีความยาวคลื่นที่ยาวกว่าแสงที่มองเห็นได้ ดังนั้นคลื่นแสงจึงสามารถเคลื่อนที่ผ่านเมฆคอสมิกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าโดยที่แสงไม่ชนกัน
ความสามารถในการมองดูดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไป
กล้องโทรทรรศน์เว็บบ์มีอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่า สเปกโตรมิเตอร์ (spectrometers) ที่จะเข้ามาช่วยให้เราทำความเข้าใจดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลโพ้นออกไปได้มากขึ้น
เครื่องมือที่ว่าสามารถถอดรหัสโมเลกุล เช่น น้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลออกไปได้
หากสนใจจะดู ภาพถ่าย อวกาศ จากกล้อง James Webb สามารถดูเพิ่มเติม ได้ที่เว็บไซต์ webbtelescope.org/news/first-images/gallery
ที่มา : Mashable