หลังจากปล่อยทีเซอร์มาเป็นน้ำจิ้มช่วงหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ในที่สุด Nothing ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกอย่าง Nothing Phone (1) โดยจะเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วย ในราคา 18,900 บาท
การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นนี้นั้นแตกต่างแบบคนละขั้วกับ Apple ที่พยายามปกปิดรายละเอียดและสเปคต่างๆ ของผลิตภัณฑ์จนกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ส่วน NothingPhone (1) นั้นเต็มใจที่จะเปิดเผยข้อมูลในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนเปิดตัว ถือเป็นกลยุทธที่ Carl Pei อดีตผู้ร่วมก่อตั้ง OnePlus ใช้ในการนำเสนอสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของเขา เพราะมันสามารถชิงพื้นที่พาดหัวข่าวจากสื่อทั่วโลกได้จำนวนมาก และที่น่าสนใจและเป็นที่น่าจดจำคือ Nothing ได้อวดโฉมหน้าของมือถือรุ่นใหม่ก่อนเปิดตัวเป็นเดือน
Nothing Phone (1) มาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.55 นิ้ว 1080p ความสว่าง 1,200 nits refresh rate 120Hz สามารถปรับลดได้ขึ้นอยู่กับคอนเทนต์ที่แสดง
หน้าจอแบบเจาะรูที่มุมด้านบนซ้ายสำหรับกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล และเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือบนหน้าจอ
ภายในมาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 778G Plus (อาจทำให้หลายคนผิดหวัง เพราะ ข้อมูลนั้นต่างจากข่าวหลุดก่อนหน้านี้ว่า NothingPhone (1) จะใช้งานชิปตัวเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen 1) แต่บริษัทกล่าวถึงเรื่องชิปว่า ถึงแม้ Snapdragon 778G Plus จะมีประสิทธิภาพน้อยกว่า แต่ให้ความสมดุลเรื่องประสิทธิภาพ การใช้พลังงาน ความร้อน และราคาที่ดีกว่า
โปรเซสเซอร์จับคู่มาพร้อมกับ RAM 8GB หรือ 12GB และที่เก็บข้อมูล 128GB หรือ 256GB โทรศัพท์รุ่นนี้ใช้ Nothing OS ที่รันบน Android โดยทาง Nothing ให้สัญญาว่าจะมีการอัปเดต Android เป็นเวลา 3 ปีและอัปเดตความปลอดภัย 4 ปี (ความถี่ทุกๆ 2 เดือน)
เรื่องกล้องของโทรศัพท์ กล้องหลังมีเซ็นเซอร์ 50 ล้านพิกเซล 2 ตัว ได้แก่กล้องหลักที่รองรับระบบกันสั่นทั้งแบบ OIS และ EIS รวมถึงฟีเจอร์ซอฟต์แวร์อีกเพียบ เช่น โหมดกลางคืน โหมดถ่ายภาพพอทเทรต และการสแกนเอกสาร กับเลนส์ ultra-wide เก็บภาพได้มุมกว้างได้ 114 องศาและถ่ายภาพมาโครได้ใกล้ 4 เซนติเมตร
แบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้ 4,500mAh รองรับการชาร์จไวแบบมีสาย 33W และไร้สายที่ 15W
มือถือได้รับมาตรฐานกันน้ำและกันฝุ่น IP53 ซึ่งป้องกันได้ในฝนตกระดับปรอยๆ หรือละอองน้ำ แต่ไม่ควรปล่อยให้มือถือตกน้ำ หรือจมอยู่ใต้น้ำ
อีกจุดที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ นั่นคือแถบไฟที่ด้านหลังเครื่องที่แสดงสถานะต่างๆ ดังนี้
- ไฟที่อยู่ถัดจากพอร์ต USB-C ติด หมายถึงแบตเตอรี่ชาร์จเต็มแล้ว
- ไฟตรงกลางติด หมายถึง โทรศัพท์กำลังชาร์จอยู่
- แถบไฟกระพริบ หมายถึง มีการแจ้งเตือน หรือ มีสายเรียกเข้า
- ไฟ LED ที่กล้องขึ้นสีแดงเมื่อกำลังบันทึกวิดีโอ
โทรศัพท์ Nothing Phone (1) มีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวและสีดำ ราคาเริ่มต้น (8GB/128GB) ที่ 399 ปอนด์ หรือประมาณ 17,300 บาท เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ ถ้าเพิ่มเป็น 449 ปอนด์ หรือประมาณ 19,400 บาท จะได้เป็นรุ่น 8GB/256GB
ถ้าอัปเกรดขึ้นเป็น 12GB/256GB ราคาอยู่ที่ 499 ปอนด์ หรือประมาณ 21,600 บาท
ราคาหน้าเว็บไซต์ Nothing ของ Nothing Phone (1) รุ่น 8GB/256GB ระบุไว้ว่า 18,900 บาท
มือถือรุ่นนี้จะวางจำหน่ายในตลาดกว่า 40 แห่งรวมถึงสหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อินเดีย และประเทศในยุโรป ส่วนในประเทศไทยจะขายแบบจำกัดจำนวนผ่านทางหน้าว็บและหน้าร้าน Carnival ในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
