รีวิว HUAWEI MateBook D 16 (2022) แล็ปท็อปหน้าจอใหญ่ 16 นิ้ว ซีพียู 12th Gen Intel Core-H Series ตัวล่าสุด มาพร้อมกับ MateView SE จอมอนิเตอร์สำหรับการทำงาน ขนาด 23.8 นิ้ว ที่จะมาเสริมประสานยกระดับการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
HUAWEI MateBook D 16 (2022) และ จอมอนิเตอร์ MateView SE ถือเป็นสินค้าใหม่ไฮไลท์ ที่จะเปิดตัวในงาน HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 ที่จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่จะอัปเกรดการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเชื่อมต่อได้อย่างลื่นไหล
เริ่มต้นด้วยตัวแล็ปท็อป HUAWEI MateBook D 16 (2022) ออกแบบมาสำหรับพร้อมทำงานได้ทุกที่แบบ Work from Anywhere ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ แต่มีความบางและเบา พกพาได้ง่าย ประสิทธิภาพก็เร็วแรงด้วยโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core-H
สเปค HUAWEI MateBook D 16
- หน้าจอ IPS HUAWEI FullView Display 16 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล รีเฟรชเรต 60Hz
- ขนาดตัวเครื่อง 356.7 x 248.7 x 18.4 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 1.7 กิโลกรัม
- ตัวเครื่อง สีเงิน Mystic Silver
- ระบบปฏิบัติการ Windows 11 Home 64-bit
- โปรเซสเซอร์ Intel Core i7- 12700H
- การ์ดจอ Intel Iris Xe
- RAM 16GB LPDDR4X
- SSD 512GB PCIe
- แบตเตอรี่ 60Wh รองรับชาร์จ 65W
- กล้องมุมกว้าง 1080p FHD
- ระบบเสียง ไมโครโฟน 4 ตัว , ลำโพงคู่ สเตอริโอ
- คีย์บอร์ด ขนาด Full Size มีแป้น Numpad, ระยะแป้นสูง 1.5 มม. มีไฟ Back-lit
- เชื่อมต่อไร้สาย
- Wi-Fi: IEEE 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2.4 GHz/5 GHz, 2×2 MIMO
- WPA/WPA2/WPA3
- Bluetooth 5.1
- Metaline Antenna
- พอร์ตเชื่อมต่อ
- USB-C x 1 (รองรับข้อมูล การชาร์จและ DisplayPort)
- USB-C x 1 (รองรับข้อมูลและการชาร์จ)
- USB3.2 Generation 1 x 1
- USB2.0 x 1
- HDMI x 1
- พอร์ตสำหรับหูฟังและไมโครโฟน ขนาด 3.5 mm x 1
ดีไซน์สวยบางพรีเมียม พกพาคล่องตัว
สิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับรุ่นนี้ ก็คือขนาดของตัวเครื่อง ที่เป็นหน้าจอใหญ่ถึง 16 นิ้ว แต่มีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่เทอะทะแต่อย่างใด ตัวเครื่องออกแบบมาสไตล์เรียบหรู ด้วยวัสดุของบอดี้เครื่องจะเป็นอะลูมิเนียม สีที่เข้ามาจำหน่ายในไทยจะเป็นสีเงิน Mystic Silver ซึ่งก็เป็นสีของอะลูมิเนียมนั่นเอง สัมผัสของตัวเครื่องจึงให้ความรู้สึกที่ดี และไม่เกิดรอยนิ้วมือเวลาที่สัมผัส
ทางด้านของน้ำหนักของตัวเครื่องนั้น ต้องบอกว่ากับจอใหญ่ขนาดนี้ แต่น้ำหนักอยู่ที่ 1.7 กิโลกรัมเท่านั้น เรียกว่าหนักพอ ๆ กับแล็ปท็อปจอ 15 นิ้วเลยด้วยซ้ำ จึงไม่เป็นปัญหาในการใช้งานที่จะต้องพกพาหรือเปลี่ยนย้ายสถานที่ น้ำหนักและขนาดของเครื่องยังสามารถพกพาใส่เป้สะพายหลังได้สบาย ๆ
HUAWEI FullView Display ขนาด 16 นิ้ว คมชัดใหญ่เต็มตา
จุดเด่นอีกอย่างที่สำคัญของ HUAWEI MateBook D 16 ก็คือหน้าจอ 16 นิ้ว ที่มีการออกแบบมาได้อย่างเหมาะเจาลงตัว เพราะเป็นหน้าจอที่เหลือขอบด้านข้างเพียงแค่ 4.6 มิลลิเมตร ถือว่าบางมาก ๆ คิดเป็นอัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องมากถึง 90% ให้ความรู้สึกที่ใหญ่เต็มตา และตัวจอยังเป็นกระจกเคลือบด้านแบบ Anti-Glare ทำให้เกิดเงาสะท้อนระหว่างการทำงานน้อย
ตัวจอพาเนลเป็นแบบ IPS ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ความสว่างสูงสุด 300nits ขอบเขตการแสงดงสี sRGB 100% ให้ความแม่นยำของการแสดงสี อัตรารีเฟรชเรตหน้าจอ 60Hz พร้อมผ่านมาตรฐานจาก TÜV Rheinland ที่ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวง และลดการกระพริบบนหน้าจอ
ประสิทธิภาพการทำงาน ขุมพลัง 12th Gen Intel Core-H
HUAWEI MateBook D 16 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core-H Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่เน้นด้านประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง โดยจะมี 2 รุ่นให้เลือกด้วยกัน คือ รุ่น Intel Core i5- 12450H การ์ดจอ Intel UHD Graphics และรุ่นที่ทางทีมงาน รีวิว ตัวนี้จะเป็น Intel Core i7- 12700H การ์ดจอ Intel Iris Xe Graphics
ในส่วนของ RAM ใส่ให้มา 16GB เป็น LPDDR4X แบบ Dual-channel และหน่วยความจำภายในเครื่องเป็น SSD แบบ PCIe ขนาด 512GB ที่มีความเร็วในการเขียนอ่านที่รวดเร็ว
สำหรับสเปคนี้ถือว่าเร็วและแรงสำหรับการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานพื้นฐานทั่วไป งานเอกสาร ท่องโลกอินเทอร์เน็ต ความบันเทิงดูหนังฟังเพลงสตรีมมิ่ง หรือจะงานที่ต้องใช้กำลังหนักๆ อย่างงานด้านกราฟฟิค งานตัดต่อวิดีโอ หรือเล่นเกมกราฟฟิคคุณภาพสูง ก็รองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี
และด้วยชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง Intel ยังมีประสิทธิภาพในการทำงานแบบ Single-core ดีขึ้น 17.7% และแบบ Multi-core ดีขึ้นถึง 51.4% เรียกว่าเหมาะสำหรับการทำงานได้ทุกรูปแบบ
ภายในตัวเครื่องนั้น ตัว RAM จะเป็นแบบ On-Board ไม่สามารถถอดเปลี่ยนหรือเพิ่มได้ ส่วน SSD เป็นแบบ M.2 PCIe/NVMe สามารถถอดเปลี่ยนและอัปเกรดเพิ่มได้
รวมถึงยังมี HUAWEI Shark Fin ระบบพัดลมระบายความร้อน ที่ช่วยจัดการอุณหภูมิภายในเครื่องให้สามารถทำงานได้อย่างเสถียรมากขึ้น
แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 60Wh ถือว่าเป็นขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ สามารถใช้งานในโหมดปกติทั่วไปได้ประมาณ 3 ชั่วโมง และข้อดีของ HUAWEI MateBook D 16 ก็คือ รองรับการชาร์จแบบ 65W โดยตัวอะแดปเตอร์ชาร์จนั้นมีขนาดที่เล็ก พกพาสะดวก และยังใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยได้ด้วย ทำให้สะดวกไม่ต้องพกที่ชาร์จหลายอันให้หนักกระเป๋า
ตัวแป้นคีย์บอร์ดให้มาเป็นแบบ Full Size ขนาดใหญ่ พร้อมกับมีแป้นพิมพ์ตัวเลขและคีย์ลัด 4 ปุ่มมาให้ด้วย (เครื่องคิดเลข, AI Search, Return to Home Screen และ Camera Switch) ทำให้สะดวกในการใช้งานอย่างเต็มที่ โดยที่ปุ่มคีย์บอร์ดจะสูงที่ 1.5 มิลลิเมตร ดีไซน์แบบ Soft-Landing ให้สัมผัสในการพิมพ์ที่ละมุนนุ่มมือ เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานพิมพ์ป้อนข้อมูล เอกสาร หรือเขียนโค้ด ก็ใช้งานได้อย่างคล่องมือ
ตัว Trackpad เป็นแบบสัมผัส แบบ Multi-touch สำหรับสั่งงาน ส่วนตัวจากที่ลองทดสอบใช้ถือว่าแม่นยำแต่ขนาดอาจจะเล็กไปหน่อยเมื่อเทียบกับตัวเครื่องซึ่งน่าจะมีขนาดที่ใหญ่กว่านี้ก็น่าจะดี
ปุ่ม Power จะอยู่บริเวณขวาบนของแป้นคีย์บอร์ด ออกแบบตามสไตล์ของหัวเว่ย เป็นวงกลมขนาดใหญ่ที่รวมกับ Fingerprint Sensor สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องได้ทันทีที่กดปุ่มอย่างรวดเร็ว
ประสบการณ์ทำงานที่เหนือระดับ เชื่อมต่ออัจฉริยะผ่าน Super Device
HUAWEI MateBook D 16 ออกแบบมาสำหรับการทำงานที่สะดวกในทุกด้าน เริ่มด้วยการทำงานประชุมหรือเรียนออนไลน์ ตัวกล้องที่ให้มานั้น เป็นแบบ AI 1080p ที่คมชัดมากกว่ากล้องโน้ตบุ๊คทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะให้มาแค่ 720p
กล้องตัวนี้มีมุมมองที่กว้างถึง 88 องศา และมีฟังค์ชั่นพิเศษเพิ่มเติมอย่าง Virtual Backgroud เลือกเปลี่ยนฉากหลัง, FollowCam ที่จะจับติดตามภาพของตัวเราให้อยู่ในเฟรมตลอดเวลาแม้ว่าจะขยับเดินไปมา และฟังค์ชั่น Eye Contact ที่ช่วยปรับการมองกล้องให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
เมื่อภาพดีแล้ว เรื่องของเสียงก็ดีด้วยเช่นกัน ตัวไมโครโฟนนั้นจะมีมาถึง 4 ตัว โดยจะอยู่ที่บริเวณขอบด้านล่างเครื่อง สามารถรับเสียงได้ในระยะถึง 5 เมตร ทำงานร่วมกับ AI และฟีเจอร์ Personal Voice Enhancement จัดการในเรื่องตัดเสียงรบกวนรอบข้าง และปรับให้เสียงพูดของเรามีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ในการสนทนาออนไลน์คู่สนทนาจะได้ยินเสียงของเราอย่างชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการใช้งานนอกสถานที่จะเลือกใช้งานหูฟังแบบสายเสียบผ่านช่อง 3.5 มิลลิเมตรก็ได้
การทำงานด้านเชื่อมต่สัญญาณไร้สาย มาพร้อมกับเทคโนโลยี Metaline Antenna หรือเสาอากาศโลหะตัวแรกของ HUAWEI ช่วยในการรับส่งสัญญาณได้ความเร็วและเสถียรมากขึ้น โดยได้อินเทอร์เนตที่มีค่าความหน่วงหรือ latency ที่ต่ำ ทำให้ทั้งการประชุมออนไลน์ หรือเล่นเกม การเชื่อมต่อจะราบรื่นไม่มีสะดุด
และที่สำคัญใน HUAWEI MateBook D 16 พร้อมสำหรับการใช้งานในฟีเจอร์ Super Device ที่เชื่อมต่อและทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ใน ecosystem ของหัวเว่ยได้อย่างรวดเร็วง่ายได้ ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต จอมอนิเตอร์ สมาร์ทวิชั่น รวมไปถึงหูฟังอัจฉริยะอย่าง HUAWEI FreeBuds Pro 2 คุณสามารถเข้าไปใน Control Panel แล้วจะแสดงผลหน้าอินเทอร์เฟส “ลากแล้วเชื่อมต่อ” เพื่อทำงานได้ทันที ทั้งการส่งไฟล์, รูปภาพ หรือเชื่อมต่อหน้าจอแสดงผลได้ทันที
รวมถึงยังรองรับการใช้งาน HUAWEI Mobile App Engine ให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันยอดนิยมบนสมาร์ทโฟนที่ชื่นชอบผ่าน AppGallery ที่ติดตั้งไว้โดยตรงบนบนแล็ปท็อปได้เลย
และอุ่นใจได้กับการใช้งาน ด้วยการรับประกันซ่อมตัวเครื่องนาน 2 ปี และมี Microsoft Windows 11 Home พร้อม Microsoft Office Home & Student 2021 ให้พร้อมใช้งานได้
สรุป รีวิว HUAWEI MateBook D 16 เหมาะสำหรับใคร?
HUAWEI MateBook D 16 (2022) เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแล็ปท็อปที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ แล้วยังเน้นในเรื่องของความคล่องตัวเพื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ เพราะออกแบบตัวเครื่องให้มีขนาดและความบางรวมถึงความเบาที่ยังใส่กระเป๋าไปใช้งานได้แบบไม่หนักจนเกินไป แถมตัวอะแดปเตอร์ที่ใช้ก็เล็กกะทัดรัด
ประสิทธิภาพของเครื่อง ใช้ทำงานได้ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงระดับหนักก็ยังเอาอยู่ งานเอกสารก็พิมพ์สะดวกด้วยแป้นพิมพ์ขนาดใหญ่ งานกราฟฟิคทั้งแต่งภาพหรือตัดต่อวิดีโอตัวโปรเซสเซอร์ 12th Gen Intel Core-H กับ RAM 16GB ทำงานได้สบายๆ และการใช้งานประชุมหรือเรียนออนไลน์ ตัวกล้องและไมโครโฟนคือดี ที่ให้ได้ภาพและเสียงที่ดีมากสำหรับการวิดีโอคอลออนไลน์อย่างไม่มีสะดุด หรือจะเล่นเกมก็ยังได้อยู่ แต่ไม่ได้ถึงกับระดับสูงมาก เพราะตัวจอเองรีเฟรชเรตอยู่ที่ 60Hz เท่านั้น
พอร์ตเชื่อมต่อหลักมีให้มาครอบทั้ง USA-C ที่ใช้ทั้งชาร์จแบตฯ และเป็น DisplayPort ในการต่อออกจอนอก มี HDMI ให้อีกช่อง และ USB-A ก็มีให้ด้วยเช่นกัน
ข้อจำกัดสำหรับ HUAWEI MateBook D 16 จะเป็นเรื่องหน้าจอที่ไม่รองรับการสัมผัส ถ้าใครไม่ได้เน้นใช้ก็ถือว่ามองข้ามไปได้ นอกนั้นถือว่าตอบโจทย์คนอยากได้แล็ปท็อปจอใหญ่ แต่ไม่เทอะทะ
HUAWEI MateView SE
นอกจากตัวแล็ปท้อป HUAWEI MateBook D 16 แล้ว ยังมีเปิดตัวจอมอนิเตอร์รุ่นใหม่พร้อมกันด้วย สำหรับ HUAWEI MateView SE ออกแบบมาสำหรับการทำงานที่ให้ประสบการณ์ภาพน่าประทับใจ ด้วยขนาดกำลังดีและดีไซน์ที่เรียบหรูลงตัว
สเปค HUAWEI MateView SE
- ขนาดตัวเครื่อง 538.5 x 413 x 174 มม.
- น้ำหนัก 3.3 กิโลกรัม
- ขนาดหน้าจอ 23.8 นิ้ว แบบ IPS
- ความละเอียด FHD (1920×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 16:9
- ค่าความเที่ยงตรงสี sRGB 100%, DCI-P3 90%
- มุมมองกว้าง 178 องศา
- ความสว่างสูงสุด 250nits
- อัตรารีเฟรชเรต 7Hz
- พอร์ตเชื่อมต่อ x1 HDMI, x1 DisPlay Port, พอร์ตอะแดปเตอร์ไฟฟ้า
ตัวเครื่องของ HUAWEI MateView SE ออกแบบมาให้มีความเรียบๆ สีดำ ที่เหมาะสำหรับการวางใช้งานได้ทุกที่ทั้งในออฟฟิศที่ทำงานหรือในบ้าน ตัวจอขนาด 23.8 นิ้วที่มีเคลือบด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อน พร้อมทั้งขอบด้านข้างที่บางมากๆ ทำให้เห็นจอได้อย่างเต็มตา และเมื่อวางต่อชิดแบบ 2 จอ ก็จะเหลือขอบคั่นสายตาที่เล็กมากด้วย
ตัวปุ่มควบคุมนั้น ออกแบบมาโดยใช้งานเป็นแบบ Joystick สำหรับเลื่อนและกดคำสั่งได้ด้วยปุ่มเดียว ทำให้ควบคุมได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการเลือกปิดหน้าจอ, ปรับความสว่าง, เปลี่ยนโหมดภาพ หรือเข้าหน้าเมนู
ด้านหลังตัวเครื่องจะเป็นสีดำเรียบๆ มีโลโก้ HUAWEI อยู่ที่ด้านหลัง โดยจะมีพอร์ตเชื่อมต่อ เริ่มด้วยช่อง Power สำหรับเสียบอะแดปเตอร์, ช่อง DisPlay Port และ HDMI
อะแดปเตอร์สำหรับตัวมอนิเตอร์ ขนาดค่อนข้างเล็กมาก ทำให้ประหยัดที่ปลั้กเวลาเสียบได้ไม่เกะกะ
HUAWEI MateView SE รุ่นที่เข้ามาจำหน่ายในไทย ตัวที่เราได้ รีวิว จะเป็นขาตั้งแบบมาตรฐาน เลือกปรับมุมมองก้มเงยได้ แต่จะไม่สามารถเลือกปรับเลื่อนขึ้นลง และหมุนองศาแนวตั้งแนวนอนจอก็ไม่ได้ด้วยเช่นกัน
การแสดงผล หน้าจอความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล อัตราส่วนมาตรฐาน 16:9 ขอบเขตการแสดงสี sRGB 100% , DCI-P3 90% และพาเนลที่เป็นแบบ IPS ช่วยให้ได้สีสันที่มีความเที่ยงตรงในระดับที่ใช้ทำงานด้านกราฟฟิคได้ ให้สีสันของวิดีโอที่ค่อนข้างแม่นยำ
ค่า Refresh rate ของหน้าจอจะเลือกได้ที่ 60Hz และ 75Hz ที่ช่วยเพิ่มความไหลลื่นในการดูเอกสารหรือเลื่อนหน้าจอให้มีการกระตุกน้อยลง
ตัวจอได้รับมาตรฐานรับรองจาก TÜV Rheinland ช่วยลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวง และลดการกระพริบบนหน้าจอ ช่วยให้การใช้งานมองหน้าจอนานๆ เกิดอาการสายตาล้าน้อยลง และช่วยถนอมสุขภาพดวงตาอีกด้วย
หน้าจอสามารถเลือดโหมดของภาพได้หลายแบบ เพื่อให้เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่เราใช้งาน โดยจะมีให้เลือกได้ในโหมดของ P3 Color, sRGB, HDR Color, Game, eBook และ ปรับแต่งเอง
สำหรับการเล่นเกม มี Game Assist ที่ให้เลือกในการปรับแต่งในการแสดงค่ารีเฟรชเรตบนหน้าจอ, เพิ่มเป้า Crosshair สำหรับเกมแนวยิง, เปิดรองรับ AMD FreeSync และปรับค่า Response Time
หน้าจอมอนิเตอร์ HUAWEI MateView SE ถือว่าเป็นส่วนเพิ่มขยายในการทำงานให้กับ HUAWEI MateBook D 16 ให้ได้พื้นที่หน้าจอในการทำงานที่ใหญ่มากขึ้น และทำงานพร้อมกันได้ 2 หน้าจอ ทำให้สามารถทำงานพร้อมกันหลายโปรแกรม ทำให้เราสามารถทำงานต่างๆ ได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
จากการทดสอบใช้งานถือว่า HUAWEI MateView SE ที่ออกมาให้ใช้งานได้ง่าย มีโหมดภาพให้เลือกได้หลากหลาย แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น ไม่มีลำโพงในตัว และไม่สามารถเชื่อมต่อสัญญาณภาพผ่าน USB-C ได้ แต่ถือว่าโดยรวมแล้วคุ้มค่ากับราคาที่อยู่ในระดับไม่เกิน 5,000 บาท
ราคา และการวางจำหน่าย HUAWEI MateBook D 16 และ HUAWEI MateView SE
สำหรับ HUAWEI MateBook D 16 และ HUAWEI MateView SE จะมีการเปิดตัวและ ราคา อย่างเป็นทางการในงาน HUAWEI APAC Smart Office Launch 2022 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 เวลา 18:00 น.