รีวิว OPPO Reno8 Z 5G สมาร์ทโฟนที่จะมาตอกย้ำความเป็น “The Portrait Expert” จัดเต็มฟีเจอร์ในการถ่ายพอร์ตเทตคุณภาพสูง ให้ได้ภาพสวยเป็นธรรมชาติ มาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO แบบขอบเหลี่ยมสุดคลาสสิก ผสานกับฝาหลังกระจก และ OPPO Glow Design และประสิทธิภาพใช้งานลื่นไหล ด้วยขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform ให้ RAM 8GB ที่ขยาย RAM Expansion ได้อีก 5GB มีชาร์จไว 33W SUPERVOOC ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1 รุ่นล่าสุด จัดเต็มให้แบบนี้ เปิดตัวด้วย ราคา 12,990 บาท
เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ OPPO Reno8 Series 5G ที่มาพร้อมกันทีเดียว 3 รุ่น คือ OPPO Reno8 Z 5G, OPPO Reno8 5G และ OPPO Reno8 Pro 5G ที่ยังคงเอกลักษณ์ตามสไตล์ของออปโป้ ที่เด่นชัดกับดีไซน์เครื่องที่สวย ประสิทธิภาพดี และที่สำคัญกับการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่พัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
ทีมงานล้ำหน้าฯ ขอหยิบน้องเล็กของซีรีย์อย่าง OPPO Reno8 Z 5G มาทำการ รีวิว กันก่อน มาดูสรุปข้อมูลสเปคทั้งหมดกันก่อนเลย (สำหรับแกะกล่องลองสัมผัส สามารถดูได้ที่ พรีวิว)
ข้อมูลเบื้องต้น สเปค OPPO Reno8 Z 5G
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G (6nm)
- ROM 128GB
- เพิ่ม microSD ได้ รองรับสูงสุด 1TB
- RAM 8GB + 5GB RAM Expansion
- หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4 นิ้ว Refresh rate 60Hz
- ความหนาเครื่อง 7.66 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 181 กรัม
- กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้องหลัก 64MP AI Portrait Camera (f/1.7)
- กล้อง Depth 2MP (f/2.4)
- กล้องมาโคร 2MP (f/2.4)
- แบตเตอรี่ 4500mAh รองรับ 33W SUPERVOOC
- เชื่อมต่อเครือข่าย 2G / 3G / 4G LTE / 5G
- รองรับ 2 ซิม Nano SIM
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12
- มีให้เลือก 2 สี Dawnlight Gold และ Starlight Black
- ราคา 12,990 บาท
“The Portrait Expert” ถ่ายภาพคนสวย เป็นธรรมชาติ
มาดูกันในเรื่องของกล้องกันก่อนเลย ทาง OPPO ยังคงใช้สโลแกน “The Portrait Expert” สำหรับ Reno Series อีกครั้ง เหมือนเป็นการตอกย้ำว่า ฉันนี่ล่ะตัวจริงเรื่องถ่ายพอร์ตเทรต ต้องยอมรับเลยสำหรับเรื่องนี้ เพราะ OPPO นั้นเอาจริงเอาจัง ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาด้านวัตกรรมการถ่ายภาพทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราก็เห็นแล้วว่า OPPO Reno Series นั้น มีประสิทธิภาพในการถ่ายภาพดีขึ้นในทุกรุ่นมาโดยตลอด
และใน OPPO Reno8 Z 5G ก็เน้นเด่นชัดกับการถ่ายพอร์ตเทรต ที่ให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติมายิ่งกว่าเดิม ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะเก็บบันทึกเก็บภาพในทุกช่วงเวลาสำคัญ ทุกสถานการณ์ ได้อย่างสวยที่สุด
AI 3 กล้องหลัง 64 ล้านพิกเซล ทรงพลัง!
ชุดกล้องของ OPPO Reno8 Z 5G ตัวกล้องหลังจะเป็นแบบ AI 3 กล้อง ประกอบด้วยกล้องหลัก 64MP AI Portrait Camera ความละเอียดสูงถึง 64 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง Depth 2 ล้านพิกเซล สำหรับช่วยวัดระยะในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต และกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพในระยะใกล้
ส่วนกล้องหน้า จะเป็นแบบ Punch-Hole อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของหน้าจอ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
AI Portrait Retouching
มั่นใจได้ในเรื่องความฉลาดของ AI ในทุกช็อตที่ถ่ายภาพพอร์ตเทรต ที่จะทำการประมวลผลให้ภาพถ่ายคนสวยอย่างเป็นธรรมชาติ ตั้งแต่การปรับแต่งโทนสีผิวและแต่งหน้า (เติมปาก+ปัดแก้ม) ให้กับคนในภาพอย่างชาญฉลาด ไม่ให้เกินเว่อร์ดูปลอม
พร้อมกันนี้ การทำงานของ AI ยังมีอัลกอริธึมในการช่วยลบฝ้า เบลอสิว รอยแผลสิว และจุดด่างดำต่างๆ ให้อย่างเหมาะสม โดยยังรักษาเอกลักษณ์ของใบหน้าตามธรรมชาติของคุณเอาไว้ คือแต่งออกมาแล้วยังดูเป็นคุณที่ดูดีขึ้น ไม่ใช่ออกมาแล้วต้องอุทานว่า “ใครว๊าาาาา”
การทำงานของ AI Portrait Retouching จะสามารถใช้งานได้ในสภาพแสงได้ถึง 4 สถานการณ์คือ แสงปกติ อุณหภูมิสีสูง อุณหภูมิสีต่ำ และย้อนแสง เรียกว่าครบแทบจะทุกสภาพแสงเลย
ด้วยการพัฒนาด้านการถ่ายพอร์ตเทรตมาอย่างต่อเนื่องของ OPPO ทำให้ AI Portrait Retouching มีการเรียนรู้และแบ่งแยกลักษณะความงามที่แตกต่างกันไปตามสีผิวและสไตล์ความงามที่หลากหลาย เวลาที่ถ่ายเซลฟี่จึงทำให้ได้ภาพออกมาสดใสเป็นธรรมชาติ มีความละเอียดและความอิ่มตัวของสีสูง
และที่ดีมากๆ คือ ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรตเป็นหมู่ AI Portrait Retouching ยังสามารถวิเคราะห์และปรับแต่งภาพใบหน้าบุคคลในเฟรมได้มากสูงสุดถึง 3 คน โดยแยกตามลักษณะที่เหมาะสมของแต่ละคนให้อัตโนมัติ
Bokeh Flare Portrait
ฟีเจอร์ขึ้นชื่อที่แฟนๆ Reno Series ประทับใจ และไม่มีใครเลียนแบบได้ กับความสามารถในการเบลอฉากหลังพร้อมกับระเบิดดวงไฟโบเก้ดวงใหญ่ขึ้นมาอย่างสวยงาม เสมือนว่าใช้กล้อง DSLR ที่ใช้เลนส์รูรับแสงกว้างๆ เลยทีเดียว โดยภาพที่ได้จะให้ความรู้สึกละมุนชวนฝัน ระยิบระยับขับให้ตัวบุคคลที่อยู่ในภาพดูโดดเด่นขึ้นมา
โดยอัลกอริธึมของ OPPO Reno8 Z 5G จะมีการคำนวนและจดจำภาพบุคคลเพื่อช่วยให้การตัดภาพของตัวคนกับฉากหลัง ให้มีการเบลอของระยะชัดลึกและชัดตื้นได้สวยงาม อย่างในช่วงของเส้นผมและเสื้อผ้าก็จะมีการปรับเบลอไม่ให้ขอบคมกริบจนดูแข็ง พร้อมกับรีทัชให้ขอบดวงไฟโบเก้ดูสมจริงเป็นธรรมชาติอีกด้วย
Selfie HDR
หายห่วงกับการถ่ายเซลฟี่ในทุกสภาพแสง ด้วย Selfie HDR ที่จะช่วยเพิ่มช่วงไดนามิกภาพในภาพเวลาที่ถ่ายย้อนแสง ให้ใบหน้าของเราและพื้นหลังยังคงรายละเอียดอย่างครบถ้วน คือไม่ออกมาฉากหลังสว่างหน้ามืด หรือหน้าสว่างชัดแต่ฉากหลังขาวโพลน
OPPO Reno8 Z 5G ระบบกล้องจะตรวจจับแสงจากฉากหลังโดยอัตโนมัติ และใช้อัลกอริธึมช่วยปรับแสงที่สว่างมากเกินไปให้ลดน้อยลงจนเห็นรายละเอียดชัดเจน ภาพที่ได้ก็คือ หน้าก็จะสวยสว่างใส ส่วนฉากหลักก็ได้สีสันสดใสไม่สว่างพร่า
Flash Snapshot
ความสามารถของ OPPO Image Clear Engine จะเป็นตัวช่วยให้การถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวในภาพรวดเร็ว สามารถจับภาพในช่วงเวลาที่ดีที่สุดเอาไว้ได้ เพื่อให้ได้ภาพตัวแบบไม่เบลอและไม่หลุดโฟกัส อย่างเวลาที่กำลังเดิน วิ่ง หมุนตัว
ในการถ่ายภาพบุคคล แม้ว่าจะเป็นระหว่างที่มีการเคลื่อนไหว ภาพที่ถ่ายได้จะมีความคมชัด รวมถึงส่วนของใบหน้าก็ยังจับโฟกัสได้อย่างชัดเจน
AI Color Portrait
อีกฟีเจอร์เด็ดสำหรับ OPPO Reno8 Z 5G ที่จะให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้อย่างสวยสะดุดตา ด้วยการปรับสีของฉากหลังให้กลายเป็นสีขาวดำ โดยที่ตัวแบบจะยังคงสีสันสดใสเอาไว้ เป็นการทำให้เกิดความเปรียบต่างระหว่างตัวบุคคลกับฉากหลังได้อย่างชัดเจน เกิดเป็นภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่สะดุดตาน่าสนใจ
AI Palettes
ของดีสำหรับสายถ่ายพอร์ตเทรตแบบคุมโทน โดยที่คุณสามารถเลือกโทนสีจากสไตล์ที่ระบบมีให้ไว้แล้ว หรือจะเอารูปภาพที่คุณชื่นชอบ จะเป็นภาพของคุณเอง หรือเอาจากภาพสวยๆ ที่คุณชอบ มาใช้เป็นฟิลเตอร์เพื่อย้อมภาพที่คุณถ่ายให้ได้อารมณ์เดียวกัน
Dual-View Video
ฟีเจอร์ดีๆ สำหรับคนชอบทำคลิป VLOG โดยการถ่ายวิดีโอจากกล้องหน้าและกล้องหลังพร้อมกันได้ สามารถเลือกแบ่งเป็นครึ่งจอ หรือจะทำเป็นหน้าต่างลอยอยู่ก็ได้ เอาไว้สำหรับใช้เล่าเรื่องราวที่สมจริงยิ่งขึ้น
OPPO Reno8 Z 5G ดีไซน์โดดเด่น สะกดทุกสายตา
ยังคงเสน่ห์ของสมาร์ทโฟนที่มีความสวยงาม ที่มาพร้อมกับความบางและเบาเป็นอย่างดี OPPO Reno8 Z 5G ตัวเครื่องน้ำหนักเพียงแค่ 181 กรัม และมีความหนาเพียง 7.66 มิลลิเมตรทั้งนั้น โดยออกแบบในสไตล์ของ Ultra Slim Retro Design ที่ขอบเป็นสันเรียบดูหรูหรา จับถนัดมือ ขอบจอเป็นแบบ 2.5D ท้งด้านหน้าและหลัง
มีการปรับดีไซน์ใหม่สำหรับ OPPO Reno8 Z 5G ด้วยการเลือกใช้ฝาหลังแบบกระจก anti-glare 0.5 มม. เป็นครั้งแรก และยังเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่เปลี่ยนมาใช้ฝาครอบแบตเตอรี่เคลือบมันแบบประกบ มาใช้ฐานกล้องแบบเดิมที่มีน้ำหนักมาก โครงสร้างนี้เชื่อมต่อกันขยายไปจนถึงขอบเครื่อง จนได้ตัวเครื่องรูปทรงแบบ Uni-body ที่เป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดอย่างลงตัว
มาพร้อมกับการออกแบบในสไตล์ของ OPPO Glow Design ที่ให้เอฟเฟกต์สีเป็นเกล็ดระยิบระยับ และมีการเปลี่ยนเฉดสีของฝาหลังที่หลากหลายจากแสงที่มากระทบในทิศทางที่ต่างกัน โดยผ่านกระบวนการผลิตที่พิถีพิถัน แกะสลักกระจกด้วยพื้นผิว 2 เลเยอร์และกระบวนการเคลือบชั้นเดียว
จุดเด่นของฝาหลัง OPPO Reno8 Z 5G คือ พื้นผิวจะมีความด้านที่สัมผัสแล้วเรียบลื่น มันวาว และเกิดรอยนิ้วมือจากการสัมผัสยากมากๆ
สำหรับรุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะมาด้วยกัน 2 สี คือ สีทอง Dawnlight Gold มีเอฟเฟกต์สีรุ้งมาจากการเคลือบแบบไล่ระดับ ผสมผสานกับหมึกสีเหลืองที่อบอุ่นบริเวณด้านล่างของฝาหลังอย่างลงตัว เมื่อมีแสงกระทบ จะแสดงเฉดสีม่วง สีฟ้า สีทอง และสีชมพู ที่จะเปลี่ยนไปตามทิศทางของแสงในมุมต่างๆ
และอีกสีคือ สีดำ Starlight Black พัฒนาด้วยเลเยอร์ที่มีการไฮไลท์ ทำให้ได้ฝาหลังสีดำที่ดูเนียนเรียบ สะอาดตา แต่ยังมีเอฟเฟกต์โปร่งแสงของเม็ดทรายสีทองที่ส่องแสงระยิบระยับ
ไฮไลท์เด่นที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของ OPPO Reno8 Z 5G ก็คือ Dual Orbit Light ที่เป็นสัญญาณไฟ LED วงแหวนติดตั้งเอาไว้รอบโมดูลของกล้องคู่ด้านหลัง ที่จะสว่างและกระพริบเป็นแสงสีโทนน้ำเงินที่แตกต่างกันไป ตามสถานการณ์ใช้งาน อาทิ ระหว่างที่ชาร์จแบตเตอรี่ จะเป็นไฟสี Light Blue สว่างค้างเอาไว้ และเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามา จะสว่างแบบ Breathing เป็นสี Baby Blue บอกเลยว่าสวยเก๋ไม่เหมือนใคร ที่เวลาที่ใครวางเครื่องคว่ำไว้ ก็ยังรู้ได้ว่ามีสายโทรเข้า, แจ้งเตือน ฯลฯ ได้ด้วย
หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display คุณภาพสูง
OPPO Reno8 Z 5G ใช้หน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ขนาด 6.4 นิ้ว สัดส่วนจอต่อขนาดเครื่องถึง 90.8% เหลือขอบด้านข้างน้อยมาก การแสดงสี 97% NTSC color saturation และ 93% DCI-P3 color gamut ผ่านการรับรอง SGS Eye Care Display และรับชมคอนเทนต์บันเทิงจาก Amazon Prime Video HD และ Netflix HD
ข้อดีของจอ AMOLED คือการให้สีสันของจอที่สวยสดใส และยังใช้งานในที่กลางแจ้งก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน รวมถึงหน้าจอด้านล่างจะมี In-Display Fingerprint Unlock สำหรับสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคเครื่องได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว
ประสิทธิภาพใช้งานลื่นไหล
สเปคภายในของ OPPO Reno8 Z 5G ใช้ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 695 5G Mobile Platform บนพื้นฐานการผลิตระดับ 6 นาโนเมตร ให้ประสบการณ์ใช้งานในระดับที่น่าพึงพอใจ ไม่ว่าจะเป็นแอปทั่วไป ท่องเว็บ เล่นวิดีโอ หรือจะใช้งานด้านกราฟิก ก็ยังทำงานได้ดี
พื้นที่เก็บข้อมูลภายในเครื่อง ROM ให้มาขนาด 128GB ที่สามารถเพิ่ม microSD รองรับได้สูงสุดถึง 1TB ส่วนของ RAM ให้มา 8GB ที่มีฟีเจอร์ RAM Expansion ที่จะยืมเอาพื้นที่ ROM ที่ไม่ใช้งาน มาเป็น RAM เสมือนได้สูงสุดถึง 5GB ช่วยให้เวลาที่ต้องการใช้งานหนักๆ มี RAM พร้อมใช้ได้ลื่นไหลมากขึ้น
เห็นตัวเครื่องมีความบางและเบาแบบนี้ แต่ก็ให้แบตเตอรี่มามากถึง 4,500mAh ที่ใช้งานทั่วไปได้เต็มวันเช้ายันเย็นได้แบบสบายๆ พร้อมกับให้ระบบชาร์จไว 33W SUPERVOOC ที่ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-100% ได้ในเวลาเพียงแค่ 63 นาที และชาร์จเพียงแค่ 5 นาที ก็ได้พลังงานสำหรับใช้งานคุยโทรศัพท์ได้ถึง 3.4 ชั่วโมง หรือดูวิดีโอ YouTube ได้นานถึง 2 ชั่วโมง
และยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Visualized Battery Dashboard และ Power Consumption Notifications เป็นระบบผู้ช่วยอัจฉริยะในการแจ้งเตือนเผื่อให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าการประหยัดพลังงานให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ด้วยตัวเอง
OPPO มีการใส่ระบบอัจฉริยะหลายอย่างมาให้เพื่อให้การใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่ AI System Booster ที่ลดการใช้ RAM และพลังงานของแอปที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ช่วยให้เครื่องพร้อมใช้งานตลอดเวลา และภายในยังติดตั้งระบบระบายความร้อน 6 ชั้นเพื่อช่วยการการะจายความโดยรวมระหว่างใช้งานไม่สูงจนเกินไป
ที่ดีมากๆ คือ OPPO Reno8 Z 5G เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ได้รับการจัดอันดับในระดับ A จาก TÜV SÜD 36-Month Fluency ที่ยืนยันว่า ผ่านการใช้งานไป 3 ปี (36 เดือน) ตัวเครื่องยังสามารถทำงานได้ดีเต็มประสิทธิภาพ ไม่ช้าหรืออืดลง
ColorOS 12.1 ในงานง่าย เป็นส่วนตัว และสะดวกสบาย
OPPO Reno8 Z 5G มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ ColorOS 12.1 ที่ออกแบบหน้าตาให้มีความเรียบง่าย ปรับแต่งได้ตามสไตล์ของตัวเอง ใช้งานง่าย โดยให้ประสบการณ์ใช้งานที่เป็นส่วนตัว สะดวกสบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น
Omoji
สร้างอวาตาร์ตัวแทนของเรา ที่มีองค์ประกอบให้เลือกได้มากกว่า 200 รายการ และมีเพิ่มเครื่องตกแต่งอย่าง ปลอกคอ, หมวก ฯลฯ ให้เลือกปรับแต่งอย่างที่เราต้องการ โดยใช้งานร่วมกับกล้องหน้าที่จะตรวจจับตำแหน่งบนใบหน้า 77 จุด ที่ให้เราขยับหน้าตาเพื่อให้ตัว Omoji ขยับตา ไม่ว่าจะเป็น การมองของดวงตา ยักคิ้ว ยิ้ม แลบลิ้น ฯลฯ เพื่อแสดงสีหน้าอารมณ์ตามเราได้
Wallpaper-based Theming System
การใช้อัลกอริธึมมาช่วยในการแยกสี และปรับแต่งส่วนต่างๆ ในหน้า UI ภายในเครื่องให้เป็นแบบที่เราต้องการได้อย่างง่ายดาย โดยจะเลือกธีมสีในการสร้างโดยการเปิดกล้องเพื่อถ่ายภาพ หรือจะเปิดอ้างอิงจากภาพที่เราชอบก็ได้
Wi-Fi Nearby Share
เปิดแชร์รหัส Password การใช้งาน Wi-Fi ที่เราใช้ให้กับผู้อื่นได้ง่ายๆ ผ่านโทรศัพท์ โดยสร้างเป็น QR Code หรือส่งให้ผ่าน Nearby ให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวสแกนเพื่อเข้าใช้งาน โดยไม่ต้องบอก Password เพื่อความปลอดภัยและสะดวกมากขึ้น
สรุป รีวิว OPPO Reno8 Z 5G หลังลองใช้งาน
หลังจากทดสอบลองใช้งาน รีวิว OPPO Reno8 Z 5G โดยรวมแล้วด้านของสเปคภายในส่วนใหญ่นั้นค่อนข้างจะใกล้เคียงกับ รีวิว OPPO Reno7 Z 5G แต่มีการปรับในด้านของดีไซน์ใหม่ และวัสดุตัวเครื่องที่ใช้เทคนิค OPPO Glow Design และกระจก anti-glare ทำให้ตัวเครื่องมีความสวยงามหรูหรา และผิวสัมผัสที่ละมุนมือ แถมไม่มีลายนิ้วมือเปรอะเลอะเครื่องหลังจากจับอีกด้วย
ประสิทธิภาพการใช้งาน ตัวสเปคแรงและใช้งานต่างๆ ได้ไหลลื่น ไม่มีค้างไม่มีสะดุด ทั้งการใช้งานทั่วไป เล่นโซเชียลออนไลน์ เล่นเกมกราฟิกระดับกลาง หรือดูหนังดูซีรีย์ ตัวหน้าจอ Punch-Hole AMOLED FHD+ Display ให้สีสันที่สวยสดใสคมชัดดีมาก
เรื่องของการถ่ายภาพ คำว่า “The Portrait Expert” ยังเป็นนิยามที่ชัดเจนสำหรับ OPPO Reno8 Z 5G เพราะจัดฟีเจอร์เด็ดๆ ในการถ่ายพอร์ตเทรตมาให้ครบครัน ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ไม่ว่าจะเป็น AI Portrait Retouching, Bokeh Flare Portrait, Selfie HDR ให้คุณมั่นใจได้ว่าในทุกสถานการณ์ทุกเวลา จะแสงมากแสงน้อย หรือย้อนแสง คุณจะสามารถเก็บทุกโมเมนต์เป็นภาพพอร์ตเทรตที่สวยงามเป็นธรรมชาติได้ทุกครั้งที่หยิบ OPPO Reno8 Z 5G ขึ้นมาถ่ายอย่างแน่นอน
OPPO Reno8 Z 5G ราคา โปรโมชั่น พรีออเดอร์
OPPO Reno8 Z 5G สวยครบเครื่องขนาดนี้ เปิดตัวด้วย ราคา 12,990 บาท มาพร้อมกับ โปรโมชั่น พรีออเดอร์ได้ตั้งแต่ วันนี้ – 18 สิงหาคม 2565 โดยจะได้เรับของสมนาคุณมูลค่า 7,499 บาท ประกอบไปด้วย E-VIP CARD มูลค่า 5,000 บาท ลูกค้าจะได้รับการรับประกันจอแตกและรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี และ RENO BACKPACK มูลค่า 2,499 บาท
และพิเศษ! เป็นเจ้าของ OPPO Reno8 Series 5G ได้ง่ายยิ่งขึ้น เมื่อจองผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย ราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3BiW1I6
#OPPOReno8Z5GTH #ThePortraitExpert #ถ่ายรูปคนสวยเป็นธรรมชาติ