Google ได้นำระบบปฏิบัติการ Android 13 เวอร์ชันสาธารณะมาสู่สมาร์ทโฟน Pixel เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระบบปฏิบัติการมือถือใหม่นี้มาพร้อมการปรับปรุงการปรับแต่งภาพและความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ยังปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างมือถือ แท็บเล็ต และแล็ปท็อป
ระบบปฏิบัติการ Android 13 นั้นพร้อมให้ใช้งานแล้วบนสมาร์ทโฟน Google Pixel 6 , 6a , 6 Pro , 5 , 5a , 4 XL และ 4a นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการใหม่มีกำหนดเปิดตัวปลายปีนี้สำหรับโทรศัพท์แบรนด์อื่นที่ไม่จำกัดเฉพาะแค่ Samsung Galaxy , ASUS , HMD/Nokia , iQOO , Motorola , OnePlus , OPPO , realme , Sharp , Sony , Tecno , vivo และ Xiaomi
ฟีเจอร์เรื่องความเป็นส่วนตัวใน Android 13 นั้นเพิ่มความสามารถในการกำหนดได้อย่างแม่นยำว่า แอปรูปภาพ วิดีโอ และไฟล์เสียงใดที่สามารถเข้าถึงได้บ้าง แน่นอนว่าผู้ใช้ต้องเป็นผู้อนุญาตหรือปฏิเสธแอปเกี่ยวกับการเข้าถึงไฟล์มีเดียต่างๆ ทั้งหมดที่อยู่ในอุปกรณ์เครื่องเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์สื่อต่างๆ โดยไม่เปิดเผยไฟล์ที่มีข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
อีกส่วนหนึ่งที่ระบบปฏิบัติการ Android 13 ระมัดระวังเรื่องข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น คือ คลิปบอร์ด หลังจากที่ผู้ใช้คัดลอกสิ่งต่างๆ เช่น ชื่ออีเมล รหัสผ่าน หรือเบอร์โทรศัพท์ ระบบจะลบออกจากคลิปบอร์ดหลังผ่านไประยะเวลาหนึ่ง มาตรการนี้จะช่วยปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากแอปที่อาจเป็นอันตราย หรือความผิดพลาดจากการคัดลอกและวางข้อมูล
นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมเรื่องการแจ้งเตือนได้มากขึ้น อย่างเช่น เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปใหม่เป็นครั้งแรก แอปนั้นจะไม่สามารถแจ้งเตือนใดๆ จนกว่าผู้ใช้จะอนุญาตให้มีการแจ้งเตือนอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีการตรวจสอบความปลอดภัยเพิ่มเติมที่สามารถหยุดแอปจากผู้ใช้ที่น่ารำคาญและแอปหลอกลวงต่างๆ ที่ใช้การแจ้งเตือนเพื่อโจมตีหรือแฮ็กโทรศัพท์
นอกจากเรื่องความปลอดภัยที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว Android 13 ยังมีการปรับปรุงวิธีที่โทรศัพท์สามารถทำงานร่วมกับแท็บเล็ตและ Chromebook ได้ด้วย ตัวอย่างเช่น ข้อความจากแอปแชทสามารถสตรีมจากโทรศัพท์ไปยัง Chromebook ได้ เร็วๆ นี้ อุปกรณ์ที่ใช้ Android 13 จะสามารถวางข้อความและมีเดียที่คัดลอกไปยังอุปกรณ์ที่ใช้ Android 6 หรือใหม่กว่านั้นได้
Android 13 มาพร้อมฟีเจอร์การปรับแต่งใหม่ๆ รวมถึงการปรับแต่งวอลเปเปอร์ ไอคอนแอป และตัวเลือกภาษาใหม่ โดยผู้ใช้ที่ใช้งานหลายภาษาสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าภาษาในแต่ละแอปได้โดยไม่ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าภาษาตั้งต้นของระบบปฏิบัติการ
ส่วนที่มีการอัปเดตอื่นๆ เช่น การที่ระบบปฏิบัติการสามารถแยกแยะระหว่างสไตลัสและนิ้วของผู้ใช้ได้ เพราะแต่ละอย่างให้ความแม่นยำในการทำงานที่แตกต่างกัน ในส่วนของอุปกรณ์แท็บเล็ตนั้น ผู้ใช้สามารถลากและวางแอปในโหมดแยกหน้าจอได้ เพื่อปรับปรุงการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
ที่มา : TECHSPOT | Google Blog
