เมื่อปี 2018 Arc ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของอังกฤษ ได้เปิดตัวจักรยานยนต์ไฟฟ้า Vector EV ในงานแสดงจักรยานยนต์ Italian EICMA Motorcycle show ที่มิลาน
Arc นั้นเรียกได้ว่าเป็นแบรนด์มอเตอร์ไซค์ระดับพรีเมียมที่ ล้ำสมัยและปลอดมลพิษมากที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา จนบางคนเรียกว่าเป็น Tesla แห่งวงการจักรยานยนต์ไฟฟ้าด้วยซ้ำ
หลังจากฟื้นตัวจากวิกฤตทางการเงินในปี 2019 Arc ได้ประกาศว่าบริษัทพร้อมแล้วที่จะปล่อยตัวต้นแบบของ Vector Angel Edition (AE) จำนวน 10 คันให้กับลูกค้าผู้โชคดี 10 คน โดยผู้โชคดีที่ได้รถแต่ละคนจะได้มีส่วนร่วมในโปรแกรม AE เพื่อพัฒนาระบบ HMI (Human Machine Interface) ที่เป็นลิขสิทธิ์ของ Arc
เมื่อลูกค้าทั้ง 10 คนได้รับรถ Vector Angel Edition แล้ว แต่ละคนจะได้รับโปรแกรมทดสอบเพื่อใช้ในการทดสอบระบบ HMI ของ Arc บนสนามแข่งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
หลังจากนั้น Arc จะอัปเกรด Angel Edition แต่ละคนด้วย HMI เวอร์ชันเบต้าสำหรับลูกค้าทั้ง 10 คนเพื่อใช้ทดสอบบนถนนสาธารณะ
สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดจะเกิดขึ้นหลังจากที่ลูกค้าทั้ง 10 คนได้สิ้นสุดการทดสอบแล้ว นั่นคือ การผลิตชุดแรกจะเริ่มขึ้นนั่นเอง
Arc กล่าวเสริมว่า โปรแกรม AE จะใช้เวลาประมาณ 2 ปีหลังจากลูกค้า 10 คนได้รับการส่งมอบรถ Angel Vector Edition ในขณะเดียวกัน Arc จะเริ่มนำเสนอระบบ HMI ในไลน์อัพรถจักรยานยนต์ในช่วงเวลาเดียวกัน ประมาณปี 2024 ถึงช่วงต้นปี 2025
ระบบ Arc HMI ประกอบไปด้วยหมวกกันน็อค Arc Zenith และเสื้อเกราะ Arc Origin โดยเจ้าหมวกกันน็อค Arc Zenith นั้นแตกต่างจากหมวกกันน็อคทั่วๆ ไปตรงที่มีการเชื่อมต่อ Wi-Fi , การสั่งงานด้วยเสียง และมีจอแสดงผล HUD (head-up display) ในตัวเพื่อแสดงความเร็วของรถ ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และข้อมูลจากกล้องมองหลัง
ฟีดของไลฟ์วิดีโอของ HUD จะแสดงตำแหน่งและความเร็วของรถคันอื่นๆ ที่อยู่บนถนนด้วยกัน
หมวกกันน็อค Arc Zenith ยังทำหน้าที่เป็นกุญแจ wireless ที่สามารถเปิดใช้ฟีเจอร์สตาร์ทรถบบไม่ต้องใช้กุญแจแบบเดียวกับ Vector ในขณะที่ผู้ขับขี่ขึ้นนั่งบนรถ
ต่อมา พูดถึง Arc Origin ที่เป็นเสื้อแจ็คเก็ต/เสื้อเกราะที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับลูกค้าทุกคน โดยทอด้วยเซ็นเซอร์แบบสัมผัสแบบเสียงในจุดที่มีความอ่อนไหวเพื่อให้ระบบมีการแจ้งเตือนและให้ฟีดแบ็ค ตัวอย่างเช่น ระบบจะสั่นบริเวณไหล่เพื่อเตือนผู้ขับขี่เมื่อมีรถเข้ามาใกล้หรือมีอุบัติเหตุบนถนนอื่นๆ เกิดขึ้นอยู่ นอกจากนี้ยังมีโหมดกีฬาที่อ่านค่า G-force จากเซ็นเซอร์ของมอเตอร์ไซค์และถ่ายโอนข้อมูลกลับไปยังผู้ขับขี่
นอกจากนี้ Arc ยังเปิดให้ผู้ขับขี่สามารถปิดการตอบสนองแบบสัมผัสได้ (หากต้องการ) และแจ็คเก็ตไม่จำเป็นต้องใช้งาน Vector
อย่างไรก็ตาม หากพลาดแจ็ตเก็ตพิเศษนี้แล้วล่ะก็ คุณจะพลาดและไม่ได้เล่นโหมด Euphoric ซึ่งสามารถเล่นเพลงผ่านเซ็นเซอร์แบบสัมผัสและจำลองเสียงเบสโดยใช้แอมพลิฟายเออร์ในตัวของ Origin
Arc กล่าวถึงเสื้อแจ็คเก็ต Origin ว่ามันทำงานแบบไร้สายและสามารถทำงานได้นาน 2 ชั่วโมงก่อนที่แบตฯจะหมด
การออกแบบรถ ได้แรงบันดาลใจมากจากรถบริติชคาเฟ่เรซเซอร์สไตร์วินเทจ มาในรูปลักษณ์ที่สะกดทุกสายตาของ Arc Vector ที่เป็นส่วนผสมที่ลงตัวของวัสดุยุคอวกาศ มีสถาปัตยกรรมคอมโพสิตคาร์บอนและโมโมค๊อกโมดุลแบตเตอรี่แบบสั่งทำ ที่ Arc เคลมว่ามีความแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับใช้ลงแข่ง MotoGP ได้
น้ำหนักรวมของมันไม่เกิน 485 ปอนด์ หรือประมาณ 222 กิโลกรัม ซึ่งผู้ผลิตกล่าวว่าเป็นอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ทั้งนี้ Arc ยังไม่ได้เปิดเผยสเปคของระบบส่งกำลังอย่างเป็นทางการ แต่มีการแง้มๆ ตัวเลขที่น่าสนใจบางอย่างออกมาให้ทราบ นั่นคือ Vector สามารถเร่งจาก 0 ไปเป็น 60 ไมล์ต่อชั่วโมงภายในเวลาไม่ถึง 3.1 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 120 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ชุดแบตเตอรี่ของรถใช้ Samsung 16.8 kWh สามารถวิ่งได้ไกลถึง 200 ไมล์ในเมือง และประมาณ 120 ไมล์บนทางหลวง
รถ Arc Vector Angel Edition และการเข้าร่วมโครงการ AE HMI นั้นมีมูลค่าถึง 135,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.78 ล้านบาท ซึ่งจะว่าไปแล้ว นี่ถือเป็นเงินจำนวนที่สูงสำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แต่หากพิจารณาจากหลายๆ มุมประกอบ ทั้งเรื่องของสไตล์ วัสดุ การออกแบบ แบรนด์ อุปกรณ์ที่ไฮเทค เทคโนโลยีที่ทันสมัย ก็อาจเป็นมูลค่าที่สมน้ำสมเนื้อ