Google Cloud เปิดตัว Cloud Region แห่งแรกใน ประเทศไทย

Google Cloud เตรียมเปิดตัว Cloud Region แห่งแรกใน ประเทศไทย

Googl Cloud เตรียมดำเนินการสร้าง Cloud Region เป็นครั้งแรกใน ประเทศไทย เพื่อรองรับความต้องการต่อบริการในระบบคลาวด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องในไทยและทั่วโลก

ก่อนหน้านี้ Google Cloud ได้ประกาศแผนสร้าง Cloud Region ในประเทศนิวซีแลนด์ มาเลเซีย และเม็กซิโก ซึ่งจะทยอยเปิดใช้งานตามหลัง Cloud Region 5 แห่ง ที่กำลังจะเปิดให้บริการเร็วๆ นี้ ในกรุงเบอร์ลิน ดัมมาม โดฮา เทลอาวีฟ และตูริน

ชีวิตของเราทุกวันนี้มีบริการดิจิทัลต่างๆ มากมายเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเรา โดยแต่ละบริการมีความต้องการที่คล้ายกันคือ ออนไลน์ตลอดเวลา, รู้จักตัวตนของผู้ใช้, ใช้งานง่าย, ปลอดภัย และทั้งหมดนี้ต้องใช้งานอยู่บนระบบคลาวด์ ซึ่งเทคโนโลยีคลาวด์ในปัจจุบันมีการเรียนรู้และเข้าใจในความต้องการของการใช้งานบริการดิจิทัลยุคใหม่ ด้วย AI และ Machine Learning ที่เป็นหัวใจในการบริการยุคใหม่ ที่จะคัดสรรสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการตามแต่ละบุคคล

Google Cloud ตั้งเป้าที่จะเข้ามาเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่โลกเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างแข็งแกร่ง

Google Cloud เปิดตัว Cloud Region แห่งแรกใน ประเทศไทย

“การเพิ่มขึ้นของสตาร์ทอัพหน้าใหม่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ตอบรับกับพฤติกรรมของคนไทยที่ตอนนี้มีความคุ้นเคยกับการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการเปิดกว้างพร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ ของคนไทย สะท้อนให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ และความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ”

คุณ Ruma Balasubramanian, กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกใต้ของ Google Cloud กล่าวว่า “การประกาศแผนติดตั้ง Cloud Regionในประเทศไทย Google Cloud วางเป้าหมายที่จะส่งเสริมนโยบายของรัฐบาลที่้ต้องการรุกหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และส่งมอบระบบโครงสร้างคลาวด์ที่จำเป็นต่อการปรับเปลี่ยนและเติบโตของภาคธุรกิจ ทั้งในด้านการใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด การทำงานแบบไฮบริด หรือการมีแพลตฟอร์มที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่มีการพัฒนาอยู่เสมอ

การขยายโครงสร้างคลาวด์ ของ Google Cloud จะเป็นการยกระดับ ประเทศไทย ไปสู่กลุ่มประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูง ที่มาพร้อมกับนวัตกรรมที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจทัลในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะสร้างมูลค่าได้สูงสุดถึง 36.25 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 นี้”

การเปิดให้บริการ Cloud Region ใน ประเทศไทย จะช่วยยกระดับการปฏิบัติงานขององค์กรในท้องถิ่น ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และมีความหน่วงต่ำ รวมถึงสร้างระบบรักษาความปลอดภัย 3 โซน ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ช่วยให้บริการสามารถ Alway on ไม่มีการหยุดฉะงัก

นอกจากนี้ ธุรกิจองค์กรต่างๆ ยังสามารถเข้าถึงระบบควบคุมที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าศูนย์เก็บข้อมูลจะได้รับความคุ้มครองด้วยระบบรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐานสูงสุด รวมถึงข้อมูลเฉพาะที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ นอกจากนี้ Cloud Region จะทำงานควบคู่กับ Dedicated Cloud Interconnect ของ Google Cloud ที่ติดตั้งอยู่หลายแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ทุกการเชื่อมต่อทั้งระหว่างเครือข่ายภายในองค์กรโดยตรง และเครือข่ายทั่วโลกของ Google Cloud

Google Cloud เปิดตัว Cloud Region แห่งแรกใน ประเทศไทย

Cloud Region ของประเทศไทยจะเข้าเป็นหนึ่งใน Cloud Region ของ Google Cloud ที่มีอยู่แล้ว 11 แห่ง ทั้งในเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น รวมถึงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สองแห่ง ได้แก่ สิงคโปร์ และจาการ์ตา จากจำนวน Cloud Region ทั้งหมดใน 34 แห่ง และ 103 โซน ที่เปิดใช้งานทั่วโลกขณะนี้ โดยเครือข่าย Cloud Region ทั่วโลกของ Google Cloud พร้อมส่งมอบบริการแก่ลูกค้าทุกขนาดองค์กร ตั้งแต่หน่วยงานภาครัฐ องค์กรขนาดใหญ่ ไปจนถึงวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (SME) รวมถึงสตาร์ทอัพอีกด้วย

Google Cloud ได้รับความไว้วางใจ และส่วนแบ่งการตลาดจากองค์กรขนาดใหญ่ในหลายอุตสาหกรรม ซึ่งรวมไปถึงบริษัทชั้นนำอย่าง บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์, Ascend Money, บิ๊กซี, โฮมโปร, ธนาคารกสิกรไทย, กรุงศรี คอนซูมเมอร์, ธนาคารกรุงไทย, บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (โรบินฮู้ด), ปูนซีเมนต์ไทย, ทีดี ตะวันแดง และ ทรู ดิจิทัล เป็นต้น โดยทั้งหมดได้เลือก Google Cloud เป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรมที่มีความน่าเชื่อถือ จาก 5 ปัจจัยหลัก ดังนี้

  • ความเข้าใจต่อการใช้งานข้อมูล: ด้วยแพลตฟอร์มเก็บข้อมูลแบบรวมที่สามารถจัดเก็บข้อมูลทั้งแบบที่ไม่มีโครงสร้าง และแบบมีโครงสร้างไว้ได้ทุกที่ Google Cloud ช่วยองค์กรลดความซับซ้อนของกระบวนการทำงาน และสร้างข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่มีมูลค่าสูง ตลอดจนช่วยธุรกิจตัดสินใจได้อย่าชาญฉลาด และทันสถานการณ์
  • การสร้างรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างอิสระ: องค์กรที่ทำงานบนแพลตฟอร์มที่มีความเป็นอิสระ และยืดหยุ่นสูง ของ Google Cloud สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นขององค์กร ซึ่งแหล่งข้อมูลอิสระที่มีอยู่เดิม และความมุ่งมั่นต่อโครงสร้างมัลติคลาวด์และไฮบริดคลาวด์ของ Google Cloud จะช่วยให้องค์กรมีอิสระในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเปิดโอกาสให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถดำเนินงานได้อย่างคล่องแคล่วและว่องไว
  • การส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานร่วมกัน: Google Cloud ให้บริการเครื่องมือที่องค์กรจำเป็นต้องใช้เพื่อรองรับวิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อ สร้าง และทำงานร่วมกันที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นการกลับไปที่สำนักงาน ทำงานจากที่บ้าน หรือให้บริการลูกค้าในแนวหน้าอย่างใกล้ชิด
  • ระบบรักษาความปลอดภัยและผู้ใช้งาน: Google Cloud ช่วยปกป้องข้อมูลโดยใช้โครงสร้างพื้นฐานและบริการด้านความปลอดภัยเดียวกันกับที่ Google ใช้สำหรับการดำเนินงานทั่วโลก เพื่อสนับสนุนการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยของทุกองค์กร
  • การสร้างอนาคตที่สะอาดและยั่งยืนยิ่งขึ้น: Google ประกาศเป็นกลางทางคาร์บอนมาตั้งแต่ปี 2550 และกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานที่ปราศจากคาร์บอนทั้งหมดภายในปี 2573 โดยปัจจุบัน เมื่อองค์กรทำงานบน Google Cloud ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่สะอาดที่สุดในอุตสาหกรรม เวิร์กโหลดขององค์กรเหล่านั้นจะใช้พลังงานหมุนเวียนเต็ม 100% อีกทั้ง Google Cloud ช่วยให้องค์กร แยกคาร์บอนออกจากการดำเนินการต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย เช่น Carbon Footprint, Active Assist และ Earth Engine เป็นต้น

“Cloud Region แห่งใหม่ของ Google Cloud จะช่วยตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นขององค์กรในด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เป็นอิสระ และเปิดโอกาสสู่การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และนวัตกรรมในประเทศไทยที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปิดตัว Cloud Region แห่งใหม่นี้ Google Cloud ช่วยเพิ่มตัวเลือกให้แก่ลูกค้าในการเข้าถึงบริการจาก Cloud Region ในพื้นที่ รวมถึงช่วยรองรับการเข้าสู่สภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์ได้ในเวลาเดียวกัน” คุณ Daphne Chung ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ฝ่ายบริการคลาวด์และการวิจัยซอฟต์แวร์ของ ไอดีซี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

Google Cloud เปิดตัว Cloud Region แห่งแรกใน ประเทศไทย

“เครือข่ายทั่วโลกของ Google Cloud มีบทบาทสำคัญต่อธนาคารกรุงไทยในการนำการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และความสามารถด้านการธนาคารแบบเปิดมาดำเนินการให้บริการธุรกิจธนาคาร เพื่อสร้างและรักษาความไว้วางใจของชาวไทยกว่า 40 ล้านคนที่ใช้บริการดิจิทัลของเราเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของพวกเขาในทุกวัน” คุณผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าว “ดังนั้น Cloud Region แห่งใหม่นี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการคิดค้นนวัตกรรมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง และกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้กรอบการกำกับดูแลในประเทศ ซึ่งจะทำให้เราสามารถให้บริการคนไทยทุกระดับรวมถึงผู้บริโภคที่ไม่มีบัญชีธนาคาร และเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กได้ทุกที่ ทุกเวลา”

“หลังจากที่ได้ย้ายการดำเนินงานและแอปพลิเคชันของเราไปยังโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ข้อมูลที่เหนือกว่าของ Google Cloud เราได้ส่งมอบบริการและประสบการณ์ที่มีความเฉพาะตัวมากขึ้นให้กับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก ผู้จัดส่งสินค้า และผู้บริโภคกว่าที่เคยเป็นมาได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น” คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานบอร์ดบริหาร บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด (โรบินฮู้ด) กล่าว “Cloud Region แห่งใหม่นี้ จะช่วยให้เราเข้าใกล้ทรัพยากรการประมวลผลของ Google Cloud มากขึ้น และสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว และสมบูรณ์ยิ่งขึ้นไปด้วย ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับภารกิจ: การสร้าง ‘super app’ จะมาช่วยเหลือผู้เล่นรายย่อย และฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับรากหญ้าในประเทศให้เกิดการพัฒนาต่อไป”

Google จะฉลองครบรอบ 11 ปีของการทำงานในประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ พร้อมด้วยการริเริ่มโครงการต่าง ๆ เพื่อประเทศ เช่น สะพานดิจิทัล ที่ช่วยธุรกิจ SMEs ก่อตั้ง และขยายธุรกิจทางออนไลน์ และ Go Digital ASEAN ที่ช่วยปูพื้นฐานให้เยาวชนที่ยังไม่ได้รับการจ้างงาน และขาดโอกาสให้มีทักษะในการรู้หนังสือดิจิทัล

“Cloud Region แห่งใหม่ จะเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญของการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของ Google ในประเทศไทย และเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมโอกาสในการเติบโตแบบครอบคลุมที่จะไม่ทิ้งคนไทยไว้ข้างหลัง” คุณแจ็คกี้ หวาง ผู้อำนวยการ Google ประเทศไทย กล่าว “เป็นเวลากว่า 10 ปีที่ทีมของเราทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ ธุรกิจ ชุมชน และภาคการศึกษาในประเทศไทย เพื่อจัดหาเครื่องมือ การฝึกอบรม และการศึกษาที่จำเป็นสำหรับความสำเร็จในอนาคตดิจิทัล เมื่อเปิดตัว Cloud Region จะช่วยเสริมความสามารถเฉพาะตัวของเราในการนำระบบนิเวศขององค์กร และผู้บริโภคเข้ามาใกล้กันมากขึ้น โดยองค์กรทุกขนาดจะสามารถใช้บริการ Google Cloud ที่ขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ ร่วมกับความสามารถในการทำงานร่วมกันทั่วโลกจาก Search, YouTube, Maps, Play และอื่น ๆ เพื่อเสริมการให้บริการในประเทศ และพร้อมที่จะต่อยอดส่งออกผลิตภัณฑ์และบริการสู่ตลาดโลกให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย” คุณแจ็คกี้ หวาง กล่าวปิดท้าย

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน