หากคุณเป็นผู้ใช้คนหนึ่งที่ไม่ชอบ โพสต์ที่แนะนำ จากผู้คนหรือโปรไฟล์ที่คุณไม่ได้ติดตาม และรู้สึกว่าโพสต์เหล่านั้นมันรกหน้า Feed ของคุณ คุณอาจไม่ชอบสิ่งที่ Meta มีประกาศก็ได้
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา Meta รายงานผลประกอบการของไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ซึ่งมีกำไรลดลงถึง 36% และขาดทุนจาก metaverse สูงถึง 2,806 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ได้สรุปประเด็นสำคัญที่เขาต้องการมุ่งเน้นเพื่อให้บริษัทก้าวไปข้างหน้า พร้อมทั้งมองหาแนวทางในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจไม่แน่นอน
หนึ่งในประเด็นสำคัฐที่เลือกมาโฟกัส คือ Reels ที่เป็นองค์ประกอบที่เติบโตเร็วที่สุดของบริษัท ซึ่งพิจารณาจากการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ โดยทาง Zuckerberg มีการพูดถึงเรื่องนี้เอาไว้ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอย่างหนึ่งในธุรกิจของเราในตอนนี้ คือ หน้าฟีดโซเชียล ที่เริ่มขับเคลื่อนจากผู้คนและบัญชีที่คุณติดตามเป็นหลัก ไปจนถึงการขับเคลื่อนด้วย AI ที่แนะนำเนื้อหาที่คุณน่าจะสนใจจากทั่วทั้ง Facebook และ Instagram แม้คุณจะไม่เคยติดตามครีเอเตอร์เหล่านั้นก็ตาม
คอนเทนต์โซเชียลจากคนที่คุณรู้จักจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของเรา แต่เราจะเสริมสิ่งนั้นด้วยคอนเทนต์ที่น่าสนใจอื่นๆ จากเครือข่ายของเรามากขึ้น
Mark Zuckerberg กล่าวใน Conference Call ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2022
ดูแล้วมีความสอดคล้องกับแนวทางของ TikTok (และแลดูจะทำตัวให้เหมือนกับ TikTok เข้าไปทุกทีๆ) โดยส่วนหนึ่งของความสำเร็จของ TikTok อยู่ที่หน้าฟีดหลัก “For You” ที่แนะนำคอนเทนต์ที่ผู้ใช้น่าจะชอบเป็นพิเศษ ที่มาจากคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากทั่วทั้งแพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับความสนใจของผู้ใช้ และอีกอย่างคือ TikTok ไม่เคยสร้างจากโซเชียลกราฟ ที่ต้องความสัมพันธ์/การเชื่อมต่อระหว่างกันกับเพื่อนและครอบครัว นั่นทำให้กลุ่มคลิปนั้นแสดงให้ผู้ใช้ได้เห็นแบบกว้างๆ กว่ามาก ซึ่ง Meta เล็งเห็นว่าองค์ประกอบนี้นั้นมีสเน่ห์และมีความสำคัญ . . . และพยายามจะปรับใช้จนเริ่มทำให้ Instagram นั้นสูญเสียเอกลักษณ์ของตัวเองและเข้าใกล้ความเป็น TikTok เข้าไปเรื่อยๆ ทำให้ผู้ใช้หลายคนไม่พอใจ
ความไม่พอใจของกลุ่มผู้ใช้นำไปสู่การเรียกร้องผ่านแคมเปญ “Make Instagram Instagram Again” เพื่อเรียกร้องให้ Instagram นั้นหยุดพยายามทำตัวให้เป็น TikTok และช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นรูปภาพของเพื่อนๆ ของพวกเขาอีกครั้ง แทนที่จะเป็นการสุ่มคอนเทนต์วิดีโอที่แนะนำมาให้
ตอนนี้ AI ของเราจะช่วยแนะนำคอนเทนต์ประมาณ 15% ในหน้าฟีด Facebook และฟีด Instagram จากบุคคล กลุ่ม หรือบัญชีที่คุณไม่ได้ติดตาม
เราคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นอีกเท่าตัวภายในสิ้นปีหน้า
Zuckerberg กล่าวเพิ่มเติม
หากเป็นจริงตามตัวเลขที่กล่าวข้างต้น นั่นหมายความว่า Meta จะไม่ลดปริมาณเนื้อหาแบบสุ่มในหน้าฟีดของคุณ และบริษัทมีแนวโน้มจะเพิ่มมันขึ้นเป็น 2 เท่า ซึ่งจะเห็นได้จากหน้าฟีดส่วน Home ที่เต็มไปด้วยคอนเทนต์จากเพจและผู้คนที่คุณไม่ได้ติดตามมากขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงไทม์ไลน์ของ Instagram ที่เปิดช่องว่างให้การอัปเดตของเพื่อนๆ ของคุณขึ้นเรื่อยระหว่าง โพสต์ที่แนะนำ
ดูท่า Instagram เองก็เชื่อมั่นว่าแนวทางดังกล่าวเป็นหนทางที่จะทำให้แพลตฟอร์มก้าวไปข้างหน้า โดยยึดเทรนด์ของผู้ใช้เป็นหลัก และทาง Mark Zuckerberg ผู้เป็นซีอีโอนั้นไม่เพียงแต่จะไม่เปลี่ยนใจและยึดมั่นในเส้นทางที่คิด ยังมีการบังคับใช้แนวคิดให้ไปในทิศทางนั้นหนักขึ้นด้วย ซึ่งเป็นความพยายามเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ให้เพิ่มขึ้นมากที่สุด
Zuckerberg ยังกล่าวถึงเรื่องการสร้างรายได้ของ Reels โดยสังเกตว่าโฆษณาของ Reels นั้นสามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้มากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และบริษัทเองมีความต้องการเพิ่มปริมาณโฆษณาของ Reels รวมถึงต้องการปรับปรุงความเข้าใจของ AI เกี่ยวกับ Reels เพื่อช่วยให้ผู้ลงโฆษณาสามารถกำหนดเป้าหมายการโฆษณาได้ดีขึ้น ดังนั้น หากมีการแนะนำคอนเทนต์มากยิ่งขึ้น ต่อไป ผู้ใช้จะยิ่งเห็นจำนวนโฆษณาที่กระจายในแพลตฟอร์มต่างๆ มากยิ่งขึ้นทั้ง Facebook และ IG
ที่มา : SocialMediaToday