รีวิว OnePlus 10T 5G คืนบัลลังก์ “นักฆ่าเรือธง” ที่แฟนๆ จะต้องหลงรัก

รีวิว OnePlus 10T 5G สมาร์ตโฟนที่พร้อมประกาศตัวเองว่าเป็น “นักฆ่าเรือธง” หรือ “Flagship Killer” อีกครั้ง กับสเปคและเทคโนโลยีที่ให้มาแบบจัดเต็ม ตั้งแต่ประสิทธิภาพของขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 พร้อม RAM สูงสุดถึง 16GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมระบบชาร์จเร็ว 150W SUPERVOOC ใส่ระบบระบายความร้อน 3D Cooling System และให้หน้าจอสีสดสวย Fluid AMOLED 120Hz ทั้งหมดนี้เปิดตัวใน ราคา คุ้มค่ายิ่งขึ้น เริ่มต้นที่ 24,990 บาท

OnePlus เริ่มมีการผลิตสมาร์ทโฟนในรุ่นที่ชื่อมีตัวอักษร T ต่อท้าย ตั้งแต่ในรุ่น OnePlus 3T จะเป็นรุ่นที่ออกมาในช่วงครึ่งปีหลังจากออกรุ่นหลักในช่วงต้นปี โดยจะเป็นการอัปเกรดด้านประสิทธิภาพให้ทันสมัยมากขึ้นก่อนที่จะมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ในปีต่อไป

สำหรับปีนี้ OnePlus 10T 5G ชูแนวคิดมากับสโลแกนที่ว่า “Evolve Beyond Speed” ที่ไม่ใช่เพียงแค่การเพิ่มประสิทธิภาพแบบองค์รวมให้รวดเร็วไหลลื่น แต่ล้ำไปมากกว่านั้นด้วยฟีเจอร์อัจฉริยะ รวมถึงการให้ประสบการณ์ใช้งานที่เหนือระดับกว่าเดิม

ทางวันพลัส (ประเทศไทย) ได้ส่งเครื่อง OnePlus 10T 5G มาให้กับทีมงานล้ำหน้าฯ ได้ทดสอบเพื่อ รีวิว เราจะมา Unbox พร้อมๆ กันว่าครั้งนี้ทีเด็ดอะไรที่น่าตื่นเต้นรอเราอยู่บ้าน

แกะกล่อง Unbox

ตัวแพ็กเกจ OnePlus 10T 5G ของนั้น ยังคงเอกลักษณ์ด้วยสีแดงสุดฉูดฉาด ตัดกับตัวอักษรชื่อรุ่น 10T สีดำขลับขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกเข้มแข็งและทรงพลัง

ภายในตัวเครื่อง OnePlus 10T 5G จะถูกห่อเอาไว้ด้วยกระดาษไขเพื่อป้องกันตัวเครื่องหลังจากผลิตและบรรจุลงในกล่องอย่างเรียบร้อย

ในแพ็กเกจจะมีให้ สติกเกอร์โลโก้ OnePlus, เอกสารการใช้งานเบื้องต้น, เอกสารการรับประกัน และจดหมาย Welcome ที่มีเหน็บเข็มจิ้มถาดซิมมาให้ด้วย

ด้านล่างสุดของกล่องจะมีชุดอุปกรณ์สำหรับการชาร์จมาแบบครบเซ็ต ทั้งสาย USB-C to USB-C หัวพอร์ตสีขาวตัวสายสีแดง และอะแดปเตอร์ชาร์จ ที่รองรับมาตรฐานชาร์จเร็ว 150W SUPERVOOC

Design การออกแบบ

มาส่องดูดีไซน์ตัวเครื่องกันบ้าง OnePlus 10T 5G ออกแบบมาโดยเน้นให้ความรู้สึกสัมผัสต่างๆ สไตล์มือถือระดับไฮเอนด์ เรียบหรูดูทันสมัย ด้วยวัสดุฝาหลังเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนเฟรมเครื่องเป็นพลาสติก มีให้เลือกกันทั้งหมด 2 สีคือ Jade Green ซึ่งเป็นสีที่ทางล้ำหน้าฯ ได้รับมาทดสอบ จะเป็นสีเขียวอ่อนเฉดอมสีเทา ที่ได้แรงบันดาลใจจากหยก ให้ความรู้สึกอ่อนโยนนุ่มละมุน มีผิวสัมผัสที่มันวาวลื่นมือเหมือนกับเซรามิค

อีกสีจะเป็น Moonstone Black สีดำผืนผิวแบบด้าน ได้แรงบันดาลใจมาจากหินบะซอลต์ ให้ความรู้สึกมีพลัง แข็งแกร่ง ดูเท่ และยังจับถือแล้วเกิดลายนิ้วมือน้อยมาก

ขนาดของตัวเครื่องมีความบาง 8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 203.5 กรัม ฝาหลังขอบข้างมีความโค้งมน 2.5D ช่วยให้กระชับเข้าอุ้งมือ ถือได้อย่างกระชับมากขึ้น

ส่วนของโมดุลกล้องจะอยู่ในตำแหน่งทางซ้ายบน ออกแบบให้นูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย และขอบมีความโค้งมนสวยงามดูเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวเครื่องได้อย่างสวยงามลงตัว

ด้านข้างทางขวาของเครื่องจะเป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดเครื่องและหน้าจอ ส่วนทางซ้ายจะเป็นปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง สังเกตว่า จะไม่มีปุ่ม Alert Slider สำหรับเปลี่ยนโหมดการเตือนมาให้แล้ว

ด้านล่างของเครื่อง จะมีช่องถาดซิม รองรับใส่ได้ 2 ซิม ขนาด Nano SIM ไม่มีช่องสำหรับใส่ microSD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ และจะมีช่องของไมโครโฟนเสียงสนทนา, พอร์ต USB-C และช่องลำโพงเสียง และจะมีลำโพงเสียงอีกจุดที่ด้านบนของจอ ทำหน้าที่เป็นลำโพงคู่แบบสเตอริโอ

ประสิทธิภาพ Performance

ทางวันพลัสจัดสเปคของ OnePlus 10T 5G โดยให้ความสำคัญในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งานที่ไหลลื่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนของแบรนด์นี้ติดอกติดใจ ที่เริ่มกันตั้งแต่ตัวหน้าจอไปจนถึงชิปเซ็ตและระบบภายในเครื่อง

หน้าจอ Fluid AMOLED 6.7 นิ้ว 120Hz

ทางวันพลัสไม่ทำให้ผิดหวังเลยสักนิด กับสเปคของหน้าจอที่ดีมาก กับขนาดใหญ่ 6.7 นิ้ว ดีไซน์แบบ Punch-hole เว้นช่องตรงกลางด้านบนสำหรับกล้องหน้า ความละเอียดของจอระดับ FHD+ (1080 x 2412 พิกเซล) อัตราส่วน 20:9 แสดงผล 1 พันล้านสี ทำให้ได้ไล่เฉดสีต่างๆ มีความเนียนอย่างกลมกลืน รองรับมาตรฐาน HDR10+ ที่ให้สีสันสวยสดใสคมชัด ทั้งดูหนัง ดูซีรีย์ เล่นเกม และงาน Create Content ต่างๆ

อัตราค่ารีเฟรชเรตของหน้าจอจัดมาให้สูงถึง 120Hz (เลือกปรับได้ 60 / 90 / 120Hz) และค่า Touch Response rate ถึง 720Hz สเปคนี้บอกเลยว่าเหล่าเกมเมอร์น่าจะชอบใจ เพราะได้ภาพที่ลื่นไหลไม่กระตุก และการทัชบังคับบนจอก็ตอบสนองได้แม่นยำไม่มีหน่วง

Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1

ขีดสุดของความเร็วแรงบนสมาร์ตโฟนในตอนนี้แล้ว กับ Snapdragon 8+ Gen 1 ชิปเซ็ตรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นโดยใช้พลังงานน้อยลง ประกอบด้วยตัว CPU Qualcomm Kryo แบบ octa-core ให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลเพิ่มขึ้น 10% ประหยัดพลังงานขึ้น 30%

ด้านการประมวลผลกราฟิก ของ GPU Adreno 730 เทียบกับรุ่นก่อน มีความเร็ว Clock สูงสุดเพิ่มขึ้น 10% ประหยัดพลังงานลง 30% และเพิ่มรองรับ Volumetric Rendering ที่ปรับปรุงความสมจริงของกราฟิก เช่น เอฟเฟกต์หมอกและควัน เพื่อประสบการณ์ที่สมจริงยิ่งขึ้น

RAM + ROM แบบจัดเต็ม

OnePlus 10T 5G จะมีเข้ามาจำหน่ายในไทย 2 สเปคความจุด้วยกันคือ 8GB + 128GB และ 16GB + 256GB โดยตัว RAM ใช้เป็นแบบ LPDDR5 และตัว ROM พื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 3.1 two-lane storage ช่วยให้ทำความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีคอขวดจำกัดในทุการทำงานหนักๆ

3D Cooling System

อีกสิ่งสำคัญที่ทำให้การทำงานระดับสูง ยังคงมีความไหลลื่นได้ คือระบบการระบายความร้อนที่ดี เพื่อช่วยให้การทำงานทั้งระบบมีอุณหภูมิที่ไม่ร้อนจัดจนตัวชิปเซ็ตต้องปรับลดประสิทธิภาพเพื่อรักษาความเสถียรในการทำงาน โดยทาง OnePlus ได้ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ Cryo-velocity Vapor Chamber ที่ใช้เวลาในการพัฒนามากว่า 18 เดือน

ตัวระบบ 3D Cooling System มีพื้นที่ Cooling Area รวมแล้วกว่า 37,000 มม. ถือว่าเป็นระบบระบายความร้อนที่ใหญ่และล้ำหน้าที่สุดเท่าที่ OnePlus เคยมีมา โดยมันสามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในเครื่องระหว่างทำงานลงได้มากขึ้นถึง 5 องศาเซลเซียส

HyperBoost Gaming Engine

ฟีเจอร์ในระบบปฏิบัติ OxygenOS 13 ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ศักยภาพของฮาร์ดแวร์ มาทำงานประมวลผลเพื่อการเล่นเกมที่มีความราบรื่น ได้ความรู้สึกลื่นไหลและตอบสนองกับการเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้น

• GPA Frame Stabilizer ช่วยลดความผันผวนของอัตราเฟรมระหว่างที่เล่นเกม ทำให้ไม่เจอปัญหาเรื่องเฟรมเรตตกระหว่างที่เล่น เพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่นและเสถียรยิ่งขึ้น
• LSTouch ยังลดความหน่วงในการสัมผัสได้ถึง 10 ms ด้วยการเพิ่มอัตราการสนองการสัมผัสเป็น 1000 Hz พร้อมลดอัตราการดีเลย์ของสัญญาณ ให้การควบคุมเกมได้อย่างแม่นยำ ไม่มีผิดพลาด

เชื่อมต่อ เร็วแรง ทั้ง 5G และ WiFi 6

OnePlus 10T 5G ในด้านฮาร์ดแวร์ ใช้ 360° Antenna System Smart Link ระบบเสาอากาศที่ใส่มาถึง 15 ตัว กระจายอยู่รอบขอบตัวเครื่อง เพื่อช่วยให้รับสัญญาณได้แบบรอบทิศทาง หมดปัญหาเวลาที่ถือมือถือไว้แล้วนิ้วบังเสาอากาศแล้วกระทบกับความเร็วในการเชื่อมต่อ

การเชื่อมต่อ 5G รองรับสัญญาณ 5G SA บนเครือข่าย AIS 5G เร็วสุด ครอบคลุมสุดที่ 1 ทั่วไทย ส่วน WiFi ก็รองรับมาตรฐาน WiFi-6 ที่เป็นมาตรฐานการเชื่อมต่อสัญญาณระดับความเร็วสูง ทำให้ทุกการใช้งานของคุณจะเชื่อมต่อสัญญาณได้เร็วที่สุดและราบรื่นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการสตรีมดูคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ทำ Live ถ่ายทอดสด ประชุมออนไลน์ ทำได้อย่างไม่มีติดขัด

แบตเตอรี่ใหญจุใจ ชาร์จไวสุดขีด

ความจุแบตเตอรี่ของ OnePlus 10T 5G ให้มามากถึง 4,800 mAh ที่น่าตื่นเต้นมากก็คือ จัดระบบชาร์จเร็วอย่าง 150W SUPERVOOC เทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วที่สุดที่เคยมีมาของ OnePlus เป็นการใช้เทคนิคแบบ Dual Charge Pump รวมกับแบตเตอรี่ 6C ช่วยให้ไร้กังวลเรื่องแบตหมดระหว่างใช้งานไปได้เลย

หลายคนอาจจะสงสัยว่า ที่ว่าเร็วนั้น มันเร็วขนาดไหน โดยทาง OnePlus ได้เคลมว่า คุณสามารถชาร์จ OnePlus 10T 5G จากแบตเตอรี่หมดเกลี้ยง 0% ให้เต็ม 100% ได้ ภายในเวลา 19 นาทีเท่านั้น!!! ความเร็วขนาดนี้เรียกว่า เปิดดูซีรีย์การ์ตูนอนิเมะ 1 ตอนยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ

ถ้าตื่นเช้ามา แล้วแบตหมดเกลี้ยง คุณสามารถเสียบชาร์จแล้วไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำงาน ก็ได้แบตเตอรี่เต็ม 100% ได้อย่างสบายๆ ไปเลย

นอกจากชาร์จไวแล้ว ยังมีเทคโนโลยี BHE-Battery Health Engine ที่ระบบจะใช้ AI ในการควบคุมการชาร์จแบตเตอรี่อย่างเหมาะสม เพื่อยืด Life Cycle ของแบตเตอรี่ให้เพิ่มขึ้น เสื่อมช้าลงกว่าปกติถึง 2 เท่า จากที่สมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป จะมีอายุการใช้งานที่ 800 รอบ แต่ OnePlus 10T 5G อายุของแบตเตอรี่จะใช้ได้ถึง 1,600 รอบ

นอกจากนี้ ระบบ AI ของระบบชาร์จใน OnePlus 10T 5G ยังมีอัลกอริธึมในการเลือกโหมดการชาร์จที่เหมาะสมกับสถานการณ์ใช้งานของเราได้อย่างชาญฉลาด

• Rapid Mode ชาร์จเร็วด่วนในความเร็วสูงสุด ในช่วงเช้า เพื่อให้เราได้แบตเตอรี่เต็มพร้อมออกไปทำงานในทุกวัน
• Game mode ชาร์จไปเล่นเกมไป โดยชาร์จในความเร็วที่เหมาะสม ให้มีอุณหภูมิไม่ร้อนจัดระหว่างที่ถือเล่นเกม
• Entertainment Mode ปรับความเร็วในการชาร์จให้เหมาะกับการใช้งานที่เปิดหน้าจอเอาไว้ตลอดเวลาที่ชาร์จ
• Cold Mode สำหรับใช้งานในสภาพอากาศหนาวจัดได้ถึงระดับ -20 องศาเซลเซียส

กล้องที่ดีเกินคาดไปมากๆ !

ต้องบอกว่าในตอนแรกนั้น ผมไม่ได้คาดหวังอะไรเกี่ยวกับเรื่องกล้องของ OnePlus 10T 5G สักเท่าไหร่ เพราะวันรุ่นนี้ตามหลักจะเป็นการเน้นเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องเป็นหลัก และจะเห็นว่าสเปคของตัวกล้องนั้นด้อยกว่ารุ่นต้นปีอย่าง OnePlus 10 Pro 5G อยู่พอสมควร

แต่พอได้ลองใช้งานจริงแล้ว ทำเอาทึ่งมากๆ เพราะว่าทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอนั้น สามารถถ่ายออกมาได้ดีในระดับที่น่าประทับใจ เรียกว่าดีกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในท้องตลาดที่อยู่ในระดับราคาเดียวกันเลยทีเดียว

มาดูกันที่กล้องหลังกันก่อน เป็นแบบ Triple AI Camera กล้อง 3 เลนส์ ประกอบด้วย

• กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เป็น Sony IMX766 ค่ารูรับแสง f/1.8 เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ 1/1.56“ มีระบบกันสั่น OIS
• กล้องมุมกว้าง Ultra-Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 119° ค่ารูรับแสง f/2.2
• กล้องมาโคร ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ระยะโฟกัสใกล้วัตถุ 4 เซนติเมตร

ตัวกล้องหลักที่เป็นเซ็นเซอร์ Sony IMX766 รุ่นยอดนิยมที่ใช้ในสมาร์ทโฟนหลายรุ่น มีข้อได้เปรียบในเรื่องเซ็นเซอร์ที่เป็นแบบ RGBW แบบใหม่ ที่มีคุณสมบัติในการเก็บภาพในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น ทำให้การถ่ายภาพในเวลากลางคืนมีความคมชัด สีสันสดใส และมี Noise ในภาพน้อยมาก

กล้องมุมกว้าง Ultra-wide ระยะมุมมองถือว่ากำลังดี ตัวซอฟท์แวร์มีช่วยเรื่องลดความผิดเพี้ยนของภาพได้ค่อนข้างดี ส่วนกล้องมาโครถือว่าไม่ได้โดดเด่นอะไร ด้วยความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น

สำหรับกล้องหน้า ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.4 การโฟกัสเป็นแบบ Fixed focus ใช้งานถ่ายเซลฟี่รวมถึงวิดีโอคอลได้แบบไร้กังวล

และอีกสิ่งที่ต้องชื่นชมก็คือ ตัวซอฟท์แวร์กล้องมี AI ที่ฉลาดและจัดการปรับแต่งภาพที่ถ่ายออกมาให้ออกมาสวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างการถ่ายภาพ Portrait ก็เลือกปรับใบหน้าให้สวยสว่างเรียบเนียน ฉากหลังปรับเบลอพร้อมสร้างโบเก้ที่สวยงาม การถ่ายภาพโหมดกลางคืน ก็ปรับแสงให้สว่างสวยเห็นรายละเอียดชัดทั้งภาพ ส่วนการถ่ายย้อนแสงตัว HDR ก็จัดการเก็บภาพให้สว่างเห็นชัดได้ทั้งภาพด้วยเช่นกัน

การถ่ายวิดีโอกล้องหลังรองรับสูงสุดที่ 4K 30fps ส่วนกล้องหน้าได้เต็มที่คือ 1080p 30fps โดยที่มีระบบกันสั่นไหวในการถ่ายวิดีโอแบบ EIS มาให้เลือก สามารถเดินถ่ายคลิปวิดีโอแล้วได้ภาพที่นิ่งไม่สั่นไหว และไม่กระตุก

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ OnePlus 10T 5G

ภาพถ่าย Portrait เวลากลางวัน

ภาพถ่าย Portrait ในเวลากลางคืนและสภาพแสงน้อย

ภาพถ่ายในระยะการซูม ตั้งแต่ 0.6x / 1x / 2x / 5x / 10x

เปรียบเทียบภาพถ่ายกลางคืนแบบปกติ กับเปิดใช้ Night Mode

ภาพถ่ายในเวลากลางคืนด้วย Night Mode

ภาพถ่ายในโหมด macro ได้ในระยะ 2-4 เซนติเมตร

มาตรฐาน และ ประสบการณ์ใช้งาน

อีกหัวใจหลักที่ทำให้ OnePlus 10T 5G สามารถสร้างความประทับใจในการใช้งานได้ดีมาก เพราะตัวเครื่องไม่ได้มีดีแค่เรื่องของความแรง แต่ยังมีเรื่องของระบบปฎิบัติการที่ดี ฟีเจอร์เสริมในการใช้งาน รวมถึงเรื่องความปลอดภัยและการสนับสนุนการใช้งานในระยะยาวอีกด้วย

OnePlus 10T 5G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ OxygenOS 12.1 บนพื้นฐาน Android 12 ที่พร้อมสำหรับการอัปเดตเป็น OxygenOS 13 ในเร็วๆ นี้ จุดเด่นของระบบฏิบัติการของวันพลัสก็คือ ความเรียบง่ายแต่ว่าสวยงาม จะเห็นว่าตัวระบบไม่มีซอฟต์แวร์ติดตั้งมารกรุงรังวุ่นวาย การออกแบบหน้าตา UI ที่ลงตัว ผสานกับหน้าจอ 120Hz ทำให้ทุกการเปิดใช้งาน เลื่อนเปิดแอปต่างๆ ดูลื่นนุ่มนวลว่องไว

เรื่องของความปลอดภัย OnePlus 10T 5G มีให้ใช้ทั้งแบบสแกนลายนิ้วมือ ที่ใช้เซ็นเซอร์ซ่อนใต้หน้าจอ สามารถกดสแกนลายนิ้วมือจากบนหน้าจอได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมทั้งยังมีระบบสแกนใบหน้าให้เลือกใช้อีกด้วย

และให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น กับการดูแลซัพพอร์ตด้านซอฟท์แวร์ กับการรับประกันว่าจะได้รับการรับการอัปเดตเวอร์ชั่นของ OS 2 รุ่น และได้รับการอัปเดตแพทช์ด้านความปลอดภัยต่อเนื่องถึง 3 ปี นี่คืออีกสิ่งที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้ใช้สมาร์ตโฟนดีๆ แบบยาวหลายปีโดยได้มีประสิทธิภาพที่ดีตลอด และได้รับอัปเดตให้ทันสมัยตลอดเวลา

สรุป รีวิว OnePlus 10T 5G สมศักดิ์ศรีแค่ไหนกับคำว่า “นักฆ่าเรือธง”

การมาของ OnePlus 10T 5G ถือว่าทำได้ดีมากๆ ด้วยการใส่จิตวิญญาณของความเป็น “OnePlus” ที่แฟนๆ หลงไหลมาไว้ให้แบบครบถ้วนสมบูรณ์อย่างเหมาะเจาะลงตัวมากๆ ดีไซน์ตัวเครื่องถือว่าค่อนข้างลงตัวกับขนาดและน้ำหนัก ที่อาจจะไม่ได้บางเฉียบ แต่เพื่อให้สามารถใส่แบตเตอรี่ความจุ 4,800 mAh และระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ ถือว่ายอมรับได้กับมิติของเครื่องขนาดนี้

ฝาหลังดีไซน์โค้งมนแบบไร้เหลี่ยม ให้ความรู้สึกที่หรูพรีเมียมแบบไฮเอนด์ กับสัมผัสที่เป็นกระจก ตัวเฟรมที่เป็นพลาสติกแต่ก็เข้ากับฝาหลัง ส่วนตัวกับสีเขียว Jade Green นั้นสวยหรูดูแพง ให้อารมณ์สีเดียวกับรถยนต์ซูเปอร์คาร์บางรุ่น แต่ด้วยที่พื้นผิวมันวาวจึงเกิดรอยนิ้วมือค่อนข้างง่ายมาก

หน้าจอ Fluid AMOLED 120Hz ให้ทุกสิ่งที่ปรากฎบนจอดูลื่นไหลสวยงาม แอบเสียดายที่ตัวค่ารีเฟรชเรตเราต้องปรับเปลี่ยนเอง ไม่ได้เป็นแบบ Dynamic ที่ปรับให้เราอัตโนมัติ

ประสิทธิภาพของ OnePlus 10T 5G นั้นวางใจหายห่วงได้เลย เพราะจัดมาแบบดีที่สุดเทียบเท่าและดีกว่าสมาร์ทโฟนเรือธงหลายรุ่นที่อยู่ในตลาดตอนนี้ และเป็นสเปคที่มั่นใจได้ว่าใช้ไปอีก 3-4 ปีก็ยังเร็วแรงให้ใช้ต่อไปยาวๆ ได้อย่างหายห่วง กับการใช้งานทุกประเภท จะเล่นเกมดูหนังก็รับมือได้สบาย รวมถึงการใส่แบตเตอรี่และระบบชาร์จที่เร็วจัด 150W SUPERVOOC เป็นส่วนเสริมความสมบูรณ์ให้การใช้งาน OnePlus 10T 5G ครบวงจรในการใช้งานแบบราบรื่นในทุกด้าน

การจัดการเรื่องความร้อน ถือว่าทำได้ดี สำหรับการใช้งานหนักๆ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม หรือใช้งานกล้อง อุณหภูมิถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้ร้อนจี๋ อย่างทดสอบเล่น Genshin Impact อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 33-36 องศาเซลเซียส ส่วนทดสอบเล่นเกม Pokemon Unite ตัวเฟรมเรตนั้นวิ่งนิ่งๆ ที่ 60fps ตลอดทั้งเกม

เรื่องความบันเทิง ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี กับหน้าจอที่สวยคมชัด รองรับมาตรฐานกับ Netflix ที่ดูได้คมชัดและยังรองรับ HDR10 รวมถึงเรื่องของลำโพงที่เป็นสเตอริโอคู่ เสียงดังรับฟังได้เต็มอรรถรส

กล้องคือดีแบบเหนือความคาดหมาย ประสบการณ์ใช้งานคือหยิบขึ้นมาถ่ายเมื่อไรก็ได้ภาพที่สวย ภาพถ่ายบุคคลตัวสกินโทนถือว่าสวย ถ่ายคนออกมาคือดูดีเป็นธรรมชาติ ปรับแต่งมาแล้วไม่ดูปลอม ถ่ายในสภาพแสงไหนก็สวยคมชัดสีสันสดใส จะถ่ายกลางวันย้อนแสง ถ่ายกลางคืน ถ่ายแสงน้อย คือเก็บภาพออกมาได้ดี ส่วนวิดีโอก็คือมีระบบกันสั่นมาให้อีก ทำให้ OnePlus 10T 5G พกติดตัวไว้ ใช้เก็บทุกโมเมนต์สำหรับโพสต์แชร์โลกโซเชียลได้สวยแบบไม่อายใครเลยล่ะ

ส่วนตัวผมนั้น มีสิ่งที่แอบเสียดายคือ เจ้าปุ่ม Aleart Slider ด้านข้าง อันเป็นเอกลักษณ์ของสมาร์ตโฟนแบรนด์วันพลัสนั้น ได้หายไปแล้ว ซึ่งผมนั้นชอบใช้มากๆ เพราะมันทำให้สะดวกในการใช้งานเปลี่ยนโหมดแจ้งเตือน แถมยังเป็นความต่างที่ไม่มีใครมาเลียนแบบได้เลย ถ้าอนาคตจะเอากลับมาก็จะยินดีมากๆ ครับ

เอาล่ะ! กับคำว่า “นักฆ่าเรือธง” ที่ OnePlus คือต้นตำรับของคำนี้ แม้ว่าในหลายปีที่ผ่านมาจะไม่ได้เน้นกับคำนี้แล้ว แต่กับ OnePlus 10T 5G ผมถือว่า เค้าคือ “นักฆ่าเรือธงตัวจริง” ในปี 2022 ที่อยู่ท่ามกลางภาวะวิกฤติเศรษฐกิจเงินเฟ้อ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนชิปเซ็ตที่ยังรุนแรง

ด้วยสเปคของ OnePlus 10T 5G แล้วเปิดราคาเริ่มต้นมาที่ 24,990 บาท ในประเทศไทย ถือว่าเป็นราคาที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว เมือเทียบกับแบรนด์อื่นที่ใช้สเปคภายในระดับเดียวกัน ราคานั้นทะลุไป 3-4 หมื่นบาทกันหมด ดังนั้นนี่คือตัวเลือกสมาร์ทโฟนที่คุ้มสุดสำหรับคนที่ต้องการเน้นเรื่องประสิทธิภาพเร็วแรงเป็นหลัก แต่ก็ยังให้ประสบการณ์ใช้งานที่ไหลลื่นในทุกด้านอีกด้วย

หรือว่าถ้าใครที่ใช้ OnePlus รุ่นเก่าระดับ 2-3 ปีขึ้นไป และอยากได้รุ่นใหม่สเปคแรงจัดเต็มในราคาเข้าถึงง่าย OnePlus 10T 5G ตัวนี้เชื่อว่าจะทำให้คุณยังคงรักปักใจกับ OnePlus ต่อไปได้อีกหลายปีเลยล่ะ

แถมท้ายกับอุปกรณ์เสริมสำหรับ OnePlus 10T 5G กับ Glacier Mat Case ที่เป็นเคสกันกระแทกออกแบบมาสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้โดยเฉพาะ ที่ไม่ได้มีแค่สวยงามและปกป้องตัวเครื่อง แต่ว่าที่ภายในยังมีวัสดุนำความร้อนอยู่ เมื่อเราสวมเคสตัวนี้กับเครื่อง มันจะช่วยในการระบายความร้อนจากตัวเครื่อง เหมาะมากสำหรับสายเล่นเกม โดยตัวเคสนี้จะวางจำหน่ายในราคา 1,390 บาท แต่ถ้าใครพรีออเดอร์เครื่องล่วงหน้า ทางวันพลัสแถมไปให้ฟรีเลยจ้า

ราคา และ โปรโมชั่น OnePlus 10T 5G

OnePlus 10T 5G จะมีเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือ

• OnePlus 10T 5G 8GB + 128GB สีดำ Moonstone Black ราคา 24,990 บาท
• OnePlus 10T 5G 16GB + 256GB สีเขียว Jade Green ราคา 27,990 บาท

โปรโมชั่น พิเศษ จาก AIS (เอไอเอส)

เปิด Pre-order ตั้งแต่วันที่ 2 – 8 กันยายน 2565 ผ่านช่องทาง AIS Online store วางจำหน่ายวันแรก 9 กันยายน 2565

• ลูกค้า AIS ที่ทำการ Pre-order ผ่าน AIS Online Store สามารถนำใบเสร็จไปแลกของขวัญที่งาน OnePlus 10T 5G Pop-up Event ได้ ในวันที่ 10 กันยายน 2565
• พร้อมรับของสมนาคุณ มูลค่ารวม 8,390 บาท (OnePlus 10T 5G Glacier Mat Case Grey EU มูลค่า 1,399 บาท +OnePlus 10T 5G E-VIP Card มูลค่า 7,000 บาท)
• ระยะเวลาให้ของแถม ตั้งแต่ 2 – 18 กันยายน 2565

โปรโมชั่น Exclusive จาก Shopee

เปิด Pre-order ตั้งแต่วันที่ 2 – 8 กันยายน 2565 วางจำหน่าย 9-23 กันยายน 2565

• ลูกค้า Shopee ที่ทำการ Pre-order ผ่าน OnePlus Official Store บน Shopee สามารถนำหมายเลขคำสั่งซื้อไปแลกของขวัญที่งาน OnePlus 10T 5G Pop-up Event ได้ ในวันที่ 10 กันยายน 2565
• พร้อมรับของสมนาคุณ มูลค่ารวม 8,390 บาท (OnePlus 10T 5G Glacier Mat Case Grey EU มูลค่า 1,399 บาท +OnePlus 10T 5G E-VIP Card มูลค่า 7,000 บาท)
• ระยะเวลาให้ของแถม ตั้งแต่ 2 – 18 กันยายน 2565