AMD เปิดตัว โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ ด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลและการประหยัดพลังงานมากที่สุดในโลก เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น
AMD (NASDAQ: AMD) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ที่งาน “together we advance_data centers” เสนอประสิทธิภาพการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมในเวิร์คโหลดการทำงานที่มีความสำคัญบนระบบคลาวด์ ในองค์กร และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC)
โปรเซสเซอร์ เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เสนอสถาปัตยกรรม เทคโนโลยี และฟีเจอร์การทำงานแห่งอนาคตสู่ดาต้าเซ็นเตอร์อันล้ำสมัย สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมคอร์ “Zen 4” ซึ่งเป็นคอร์ประมวลผลที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่ AMD เคยมีมา ส่งมอบความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการประมวลผล ประหยัดพลังงาน และช่วยให้ลูกค้าสามารถพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ให้ทันสมัยเพื่อรองรับเวิร์คโหลดการทำงานที่มากขึ้น และนำผลลัพธ์ที่ได้จากข้อมูลเชิงลึกมาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.ลิซ่า ซู ประธานและซีอีโอ บริษัท AMD กล่าวว่า “การเลือกโปรเซสเซอร์ที่เหมาะสมสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ก็สามารถนำเสนอความเป็นผู้นำออกมาได้ในทุกมิติ ดาต้าเซ็นเตอร์แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญอย่างมากในเชิงกลยุทธ์สำหรับ AMD ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะทำให้ AMD เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์ด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและแบบอะแดปทีฟ (Adaptive) ที่หลากหลายมากที่สุดในอุตสาหกรรม เราสร้างแผนงานที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และด้วยตัวผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เรานำเสนออีกก้าวสำคัญในด้านประสิทธิภาพและการใช้พลังงาน เพื่อทำให้แผนงานในการนำเสนอเซิร์ฟเวอร์โปรเซสเซอร์ดียิ่งขึ้น ด้วยชุดโซลูชั่นที่มีความหลากหลายขึ้นอย่างมากจากการเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ่านพันธมิตร ลูกค้าที่เลือกใช้โปรเซสเซอร์เจนเนเรชั่นที่ 4 AMD EPYC ในการขับเคลื่อนดาต้าเซ็นเตอร์จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล รวมการทำงานภายในโครงสร้างพื้นฐาน และลดต้นทุนในการใช้พลังงานลงได้”
ผลลัพธ์ด้านประมวลผลที่รวดเร็วและการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลเชิงลึก
โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลให้กับทั้งอุตสาหกรรมและบนแอปพลิเคชันการทำงานต่าง ๆ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มีทรัพยากรด้านดาต้าเซ็นเตอร์ให้ใช้งานได้อย่างอิสระ เพื่อสร้างเวิร์คโหลดการทำงานที่เพิ่มขึ้นและนำเสนอผลลัพธ์ออกมาได้อย่างรวดเร็ว
ด้วยประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC สามารถช่วยธุรกิจต่าง ๆ ในด้าน:
- รองรับประสิทธิภาพการประมวลผลและการใช้พลังงาน ด้วยซิงเกิลคอร์โปรเซสเซอร์สูงสุด 96 คอร์ ช่วยให้ลูกค้าปรับใช้เซิฟเวอร์น้อยลงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผลของธุรกิจ ทำให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการทำงานด้านดาต้าเซ็นเตอร์มากขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืนของธุรกิจและผลักดันด้านผลกำไรในโลกแห่งความเป็นจริง
- รักษาข้อมูลธุรกิจให้มีความปลอดภัย ด้วยแนวทาง “Security by Design” AMD ยังคงนำเสนอฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาบนโปรเซสเซอร์ x86 โดยโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ได้เพิ่มฟีเจอร์ AMD Infinity Guard เข้ามา ซึ่งเป็นฟีเจอร์สุดล้ำที่ให้การปกป้องทั้งในเชิงของตัวฮาร์ดแวร์และระบบเสมือน ด้วยจำนวนคีย์ในการเข้ารหัสที่มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า ทำให้โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC สามารถช่วยลูกค้าในด้านการรักษาข้อมูลให้มีความปลอดภัย ไม่ว่าจะจัดเก็บข้อมูลในเครื่อง บนคลาวด์ หรือในสตอเรจ
- ใช้ฟีเจอร์และสถาปัตยกรรมล่าสุดในอุตสาหกรรม โปรเซสเซอร์เหล่านี้ยังคงให้บริการฟีเจอร์ในรูปแบบ “ครบวงจร” แก่ลูกค้า โดยลูกค้าเพียงแค่ต้องเลือกจำนวนคอร์ประมวลผลและความถี่ (frequency) ที่ตรงกับความต้องการด้านเวิร์คโหลดของธุรกิจ โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC รองรับหน่วยความจำ DDR5 และเทคโนโลยี PCIe® Gen 5 ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อแอปพลิเคชันการทำงานด้าน AI และ ML นอกจากนี้ ยังรองรับ CXL® 1.1+ สำหรับการขยายหน่วยความจำ ช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านความจุของเวิร์คโหลดในหน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น
ฟีเจอร์และประสิทธิภาพทั้งหมดที่กล่าวมานี้จะช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ในการขับเคลื่อนการผสานโครงสร้างพื้นฐานให้มีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงหรือดียิ่งขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายและการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ที่ลดลง
การขยายพันธมิตรของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC
ภายในงาน “together we advance_data centers” ผู้บริหาร AMD ได้รับการสนับสนุนจากเหล่าพันธมิตรด้านระบบคลาวด์ ซอฟต์แวร์ และตัวแทนผู้ผลิต (OEM) จำนวนมาก เช่น Dell Technologies, Google Cloud, HPE, Lenovo, Microsoft Azure, Oracle Cloud Infrastructure, Supermicro และ VMware เพื่อเน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC
- Dell Technologies ประกาศเปิดตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Dell PowerEdge รุ่นถัดไป ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เพื่อส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานบนแอปพลิเคชันได้อย่างน่าประทับใจ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านเวิร์คโหลดและการใช้พลังงานให้กับลูกค้า เช่น ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล
- Google Cloud ได้มีการหารือกันเกี่ยวกับการนำโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เข้ามาขับเคลื่อนการทำงานบน Google Cloud Computer Engine และตอกย้ำให้เห็นว่าโปรเซสเซอร์ AMD EPYC จะช่วยให้ Google บรรลุเป้าหมายในด้านประสิทธิภาพได้อย่างไร นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงการใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC ที่ส่งมอบประสิทธิภาพต่อราคาในระดับผู้นำ ในการทำงานบน Google Cloud Tau VMs และการปกป้องข้อมูลในระดับสูงด้วยฟีเจอร์ Confidential Computing ของ Google Cloud
- HPE ประกาศเปิดตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ใหม่ HPE ProLiant Gen 11 ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC โดยให้บริการในรูปแบบจ่ายตามการใช้งานในบริการชื่อ HPE GreenLake นอกจากนี้ HPE ยังได้ประกาศรองรับโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC บนกลุ่มผลิตภัณฑ์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ใหม่คือ HPE Cray EX2500 และ HPE Cray XD2000 ด้วย
- Lenovo เปิดตัวเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ThinkSystem และโซลูชันไฮเปอร์คอนเวิร์จ ThinkAgile HCI ใหม่ 21 รุ่น ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC รวมไปถึง ThinkAgile VX และ ThinkAgile HX เพื่อปรับใช้การทำงานบนมัลติคลาวด์ในรูปแบบไฮบริดที่รวดเร็วและการจัดการโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น
- Microsoft ประกาศเปิดตัวเวอร์ชวลแมชชีน (VMs) รุ่นทดลอง สำหรับการทำงานด้าน HPC โดยเวอร์ชวลแมชชีนซีรีย์ HBv4 และซีรีย์ HX ใหม่ ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC และจะมาพร้อมเทคโนโลยีฟีเจอร์ AMD 3D V-Cache™ Technology เมื่อวางจำหน่ายในปี 2566 นอกจากนี้ Microsoft ยังได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชวลแมชชีนและคอนเทนเนอร์เพิ่มเติมที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC อีกด้วย
- อินสแตนซ์ E5 ระบบ Oracle Cloud Infrastructure (OCI) รุ่นล่าสุดที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพบนโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เช่น Oracle Red Bull Racing สำหรับการพัฒนาแผนระบบส่งกำลัง (powertrains) รุ่นต่อไป อีกทั้งยังให้ฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยขั้นสูงด้วย OCI Confidential Computing ซึ่งใช้ AMD Secure Encrypted Virtualization (SEV) โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ยังช่วยขับเคลื่อนประสิทธิภาพให้กับบริการ MySQL HeatWave, Oracle Autonomous Database และ Exadata Database Service บนระบบ OCI ด้วย
- Supermicro ประกาศเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ A+ series
- VMware ประกาศว่าการสนับสนุนและพัฒนาการขับเคลื่อนประสิทธิภาพโปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC บนแพลตฟอร์ม vSphere® 8 พร้อมให้ใช้งานแล้ว
โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC ให้ประสิทธิภาพด้านการประมวลผลเพิ่มขึ้นถึง 2.8 เท่า ใช้พลังงานน้อยลงถึง 54% มีสถิติโลกด้านการประมวลผลมากกว่า 300 รายการที่โปรเซสเซอร์ AMD EPYC เป็นผู้ถือครองไว้ และได้รับการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อย่างเต็มรูปแบบเพื่อครอบคลุมการทำงานที่หลากหลาย รวมไปถึงด้านฐานข้อมูล, เวอร์ชวลไลเซชั่น, AI/ML, HPC และอื่น ๆ อีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ AMD EPYC ได้ที่
เว็บไซต์ข้อมูลผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและอ่านความคิดเห็นของลูกค้า AMD ได้ที่ https://www.amd.com/en/events/epyc
รายละเอียดผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์เจเนอเรชันที่ 4 AMD EPYC
Supporting Resources
- Learn more about 4th Gen AMD EPYC™ processors
- Lmore about the AMD EPYC™ processor ecosystem
- Follow AMD on Twitter
- Connect with AMD on LinkedIn