Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 2 แรงขึ้น 35% รองรับ Ray Tracing, Wi-Fi 7

16 พฤศจิกายน 2022

Qualcomm เปิดตัว Snapdragon 8 Gen 2 ชิปเซ็ตระดับเรือธงรุ่นใหม่ ที่ได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับ 4nm ที่มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นกว่าชิปรุ่นก่อน พร้อมรองรับ Ray Tracing และ Wi-Fi 7 ด้วย

ชิป Snapdragon 8 Gen 2 มาพร้อมซีพียู Kryo ประสิทธิภาพสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 35% และยังสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 40% ประกอบไปด้วยแกนต่างๆ ดังนี้:

แกนซีพียู Kryo Prime (อ้างอิงพื้นฐานมาจาก Cortex-X3) จำนวน 1 แกน สำหรับประมวลผลศักยภาพที่ความเร็วสูงสุด 3.2 GHz
แกนซีพียู Performance จำนวน 4 แกน รองรับการทำงานหลายๆ อย่างในครั้งเดียว ความเร็วสูงสุด 2.8 GHz
แกนซีพียู Efficiency สำหรับประมวลผลทั่วไปที่ไม่หนักมาก ความเร็วสูงสุด 2.0 GHz

Snapdragon8 Gen 2 จะมาพร้อมเทคโนโลยีหน่วยความจำแบบใหม่ นั่นก็คือ RAM LP-DDR5X (4,200 MHz) และยังมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0 ที่มีความเร็วสูงขึ้น

ในส่วนของ GPU หรือหน่วยประมวลผลกราฟิก ชิปรุ่นนี้จะใช้ชิป Adreno ประสิทธิภาพสูงขึ้น 55% และประหยัดพลังงานมากขึ้น 45% อีกทั้งยังรองรับเทคโนโลยี Ray Tracing สำหรับใช้ในการเรนเดอร์เอฟเฟกต์แสงต่างๆ ในเกมได้อย่างสมจริง และรองรับเทคโนโลยีกราฟิก Vulkan 1.3 เป็นรุ่นแรกของแบรนด์

ตัวชิปยังพร้อมรองรับหน้าจอความละเอียดสูงถึง QHD+ อัตรารีเฟรชเรทสูงสุด 144Hz, ความละเอียด 4K อัตรารีเฟรชเรท 60Hz, จอเสริมความละเอียด 4K อัตรารีเฟรชเรท 60Hz และการเข้ารหัสวิดีโอ AV1 สำหรับสตรีมเนื้อหาความละเอียดสูงถึง 8K ที่ 60 Fps ด้วย

ระบบของกล้องในชิปรุ่นนี้ จะรองรับเซ็นเซอร์ภาพของ Sony พร้อมรองรับ Digital Overlap HDR (DOL-HDR) และเซ็นเซอร์ Samsung HP3 ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งจะทำงานร่วมกับชิปประมวลผลสัญญาณภาพ Snapdragon ISP ที่ช่วยให้ชิปสามารถรองรับกล้องความละเอียดสูง 36 ล้านพิกเซล ได้สูงสุดถึง 3 ตัว (30 Fps) หรือกล้องความละเอียด 200 ล้านพิกเซล 1 ตัว

ในส่วนของการบันทึกวิดีโอนั้น ตัวชิปจะรองรับการบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 8K HDR ที่ 30 Fps, 4K ที่ 120 Fps และยังสามารถรองรับการบันทึกวิดีโอแบบสโลโมชั่นได้ที่ความละเอียด 720p ที่ 960 Fps พร้อมรองรับภาพแบบ HDR+ และรองรับ Dolby Vision ด้วย

การเชื่อมต่อ

ทาง Qualcomm เผยว่าชิปรุ่นนี้จะได้มาพร้อมชิปโมเดม Snapdragon X70 ที่รองรับการเชื่อมผ่านทาง 5G บนย่านความถี่ mmWave และ sub-6GHz ทำให้มีความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดถึง 10 Gbps และอัปโหลดสูงสุด 3.5 Gbps แถมยังสามารถรองรับการใช้งานซิม 5G 2 ซิมพร้อมกันอีกด้วย

นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านมาตรฐาน Wi-Fi 7 (802.11be) ความเร็วสูงสุดที่ 5.8 Gbps, Bluetooth 5.3 และรองรับระบบ Snapdragon Sound ที่ช่วยให้สามารถสตรีมไฟล์เพลงแบบ Lossless ที่ 48 kHz อีกทั้งยังรองรับ USB 3.1 และเทคโนโลยี Quick Charge 5

ประสิทธิภาพด้าน AI

ชิปรุ่นนี้จะได้รับการติดตั้งชิปประมวลผล Hexagon แบบใหม่ ที่มีการนำ AI เข้ามาช่วยในการประมวลผลให้มีประสิทธิภาพรวดเร็วขึ้น ตัวอย่างเช่น การช่วยในการตรวจจับส่วนต่างๆ ของรูปภาพไม่ว่าจะเป็นใบหน้า, เส้นผม, เสื้อผ้าและพื้นหลังของภาพ เพื่อช่วยในการสร้างเอฟเฟกต์ให้กับภาพได้อย่างสมจริงมากขึ้น