Razer™ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ เปิดตัวเมาส์ไร้สายระดับมาสเตอร์ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมทั้งแบบ MMO และเกมต่อสู้แบบแบตเทิลรอยัลทุกประเภท ทั้งรุ่น Razer Naga V2 Pro และรุ่น Naga V2 HyperSpeed พร้อมกลับมาทวงบัลลังก์เจ้าแห่งเมาส์ไร้สายขวัญใจมหาชนด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย พร้อมนำเสนออุปกรณ์เสริมเพลตถอดเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบสำหรับ Razer Naga V2 Pro ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกม MMO โดยเฉพาะ
ประสิทธิภาพการควบคุมขั้นสุดและการปรับเปลี่ยนได้ตามใจ
เมาส์ตระกูล Naga เปิดตัวครั้งแรกในปี 2009 ในหมวดผลิตภัณฑ์เมาส์สำหรับเกม MMO ซึ่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านฟังก์ชั่นการใช้งานและการควบคุมที่เหนือกว่าด้วยแผงปุ่มกดด้านข้างแนวใหม่ จนกลายเป็นเมาส์สำหรับเกม MMO ที่ขายดีที่สุดในโลกในทันที วันนี้ Naga V2 Pro รุ่นใหม่ สานต่อความสำเร็จด้วยเวอร์ชั่นอัปเกรดและการปรับปรุงประสิทธิภาพครั้งใหญ่โดยยังคงดีไซน์เมาส์สไตล์ Naga ที่ทุกคนหลงรัก แต่จัดหนักกับฟีเจอร์เด็ดมากมายที่จะทำให้การเล่นเกม MMO เปี่ยมประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม
ด้วยอุปกรณ์ต่อพ่วงเต็มอัตราทั้งเพลตข้าง 3 ชิ้น, ปุ่มตั้งโปรแกรมแบบ 19+1, แป้นหมุน Razer HyperScroll Pro Wheel รุ่นใหม่, เทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สาย Razer HyperSpeed Wireless, Razer Focus Pro 30K Optical Sensor, Razer Optical Mouse Switches Gen-3 รวมถึงการชาร์จไฟและการเชื่อมต่ออีกหลากหลายรูปแบบ ทำให้เมาส์ Naga V2 Pro เป็นรุ่นอัปเกรดจาก Naga Pro ที่สมบูรณ์แบบ พร้อมตอบสนองความต้องการของบรรดาเกมเมอร์ทุกประเภทในวันนี้
Chris Mitchell หัวหน้าแผนกเกม PC ของ Razer กล่าวว่า “เมาส์ Razer Naga ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นราชาแห่งเกม MMO “ด้วยตัวเลือกการปรับแต่งล้อเลื่อนที่มากขึ้น รองรับการชาร์จแบบไร้สาย และการอัพเกรดอื่นๆ อีกมากมาย Razer Naga V2 Pro ถูกตั้งค่าให้สานต่อมรดกของเมาส์ Razer MMO”
หมุนเปลี่ยนฉับไวตามใจคุณกับ Razer HyperScroll Pro Wheel
Razer HyperScroll Pro Wheel รูปแบบใหม่ทำให้ Naga V2 Pro เป็นเมาส์ที่ปรับแต่งได้แทบทุกส่วน พร้อมการตั้งค่าอัจฉริยะเพื่อกำหนดแอ็กชันและสัมผัสจากการหมุนแป้น ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานได้จากการตั้งค่าการหมุนแป้นทั้ง 6 โหมด ซึ่งรวมถึงโหมดการปรับแต่งเฉพาะบุคคล ซึ่งทั้งหมดปรับตั้งค่าได้ในครื่องมือกำหนดค่าฮาร์ดแวร์ Razer Synapse 3 ที่ทำได้จากทุกที่ ซึ่งนอกจากโหมด Standard ที่เหมาะสำหรับเกมทั่วไป โหมด Distinct ที่ใช้ง่ายเพียงหมุนไปตามจุดที่กำหนด และโหมด Ultrafine เพื่อการใส่จำนวนได้สูงสุด เมาส์ Naga V2 Pro ยังมีการตั้งค่า Preset อีก 2 โหมด คือ Adaptive ที่ลดแรงต้านทำให้หมุนได้เร็วขึ้น และโหมด Free ซึ่งสแตนด์บายพร้อมสำหรับการหมุนที่รวดเร็วฉับไวได้ตลอดเวลา
โหมดสุดท้ายที่มีใน Razer HyperScroll Pro Wheel คือโหมด Custom ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับแต่งและกำหนดค่าได้จนแทบจะไร้ข้อจำกัด เพื่อให้ได้สัมผัสการหมุนและการเข้าถึงฟังก์ชั่นที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วดังใจ โดยใน Razer Synapse 3 ผู้ใช้ยังสามารถกำหนดระดับความหน่วงของการหมุน จำนวนสเต็ปและระยะโค้งระหว่างสเต็ป ทำให้ตั้งค่าได้ตั้งแต่การหมุนแบบฟรีที่ลื่นไหลไปจนถึงการหมุนแบบสเต็ฟซึ่งแบ่งรอบได้เป็น 8 สเต็ปที่แตกต่างกัน หรือรวมทั้งหมดแบบ 96 สเต็ปและกำหนดให้มีสัมผัสติ๊กในระหว่างสเต็ปตามต้องการ ด้วยความสามารถในการปรับแต่งขั้นสุดนี้ ผู้ใช้จึงสามารถตั้งค่าฟังก์ชั่นและการสั่นตอบสนองของ Razer HyperScroll Pro Wheel ได้ตามความถนัดเพื่อให้ได้สัมผัสและแอ็กชันที่ต้องการอย่างง่ายดายที่สุด
RAZER NAGA V2 PRO
เมาส์ Naga V2 Pro ติดตั้ง 2 เทคโนโลยีไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดจากเรเซอร์ที่เปี่ยมประสิทธิภาพ ทั้งในด้านความเร็วของการเชื่อมต่อและความแรงของสัญญาณ ด้วยเทคโนโลยี HyperSpeed Wireless ทำให้ Naga V2 Pro มอบประสิทธิภาพระดับสูง ความหน่วงต่ำ เพื่อการเล่นเกมที่ไหลลื่นไม่กระตุก ด้วยความสามารถในการตรวจจับและสลับช่องความถี่สัญญาณแบบ Adaptive ทำให้เกมเมอร์สามารถเชื่อมต่อสัญญาณได้อย่างรวดเร็วและไม่ขาดตอน แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีสัญญาณรบกวนมากที่สุด และด้วยคุณสมบัติการใช้งานแบบอเนกประสงค์ที่ง่ายดาย Naga V2 Pro ยังสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งแบบบลูทูธและสายเคเบิล SpeedFlex USB Type C ที่สามารถชาร์จไฟในขณะเล่นเกมไปได้พร้อมกัน
ด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมงร่วมกับเทคโนโลยีไร้สาย HyperSpeed Wireless หรือใช้งานได้ถึง 300 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ โดยเมาส์ Naga V2 Pro ยังสามารถชาร์จไฟแบบไร้สายได้ทั้งกับอุปกรณ์ Razer Wireless Charging Puck และ Razer Mouse Dock Pro (ทั้งสองอุปกรณ์แยกจำหน่าย) ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายกับอุปกรณ์เรเซอร์หลาย ๆ อุปกรณ์พร้อมกัน ช่วยให้ผู้ใช้งานที่มีคีย์บอร์ดเทคโนโลยี Razer HyperSpeed อยู่แล้ว สามารถเชื่อมต่อกับ Naga V2 Pro ด้วยอุปกรณ์ USB dongle จึงช่วยลดการใช้พอร์ต USB ของระบบได้
สัมผัสเทคโนโลยีออปติกระดับสูง
อีกหนึ่งการอัปเกรดที่สำคัญในเมาส์ Naga V2 Pro คือเซ็นเซอร์ Razer Focus Pro 30K Optical Sensor และ Razer Optical Mouse Switches Gen-3 รุ่นใหม่ โดยเซ็นเซอร์ใหม่ล่าสุดนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการลากเมาส์เพื่อติดตามเป้าแบบเหนือชั้นไม่ว่าจะใช้งานบนพื้นผิวแบบแบบใด รวมถึงกระจก ทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชั่นอัจฉริยะอื่น ๆ เพื่อเสริมการเล็งเป้าและการควบคุม เช่น Smart Tracking, Asymmetric Cut-off และ Motion Sync
Naga V2 Pro ยังรองรับเทคโนโลยี Razer Optical Mouse Switches Gen-3 จึงมอบทั้งความทนทานและความเร็วแรงขั้นสุดโดยใช้เวลาในการกดเพียง 0.2 มิลลิวินาทีโดยไม่มีอาการหน่วงจากการเด้งกลับของปุ่ม พร้อมอายุใช้งานที่ยาวนานเพราะทนทานต่อการกดมากกว่าเดิมที่ 90 ล้านครั้ง ปราศจากปัญหาการคลิกซ้อนด้วยระบบการตรวจสอบแรงกดผ่านแสงอินฟราเรด
RAZER Naga V2 HyperSpeed
เรเซอร์ยังเปิดตัวเมาส์ Naga V2 HyperSpeed ที่มาพร้อมปุ่มควบคุมแบบตั้งโปรแกรมได้ 20 ปุ่ม, Razer HyperScroll Technology, Razer Focus Pro 30K Optical Sensor และ Razer Mechanical Mouse Switches Gen-2 ซึ่งทำให้ Naga V2 HyperSpeed เป็นเมาส์ในอุดมคติของเกมเมอร์กลุ่ม MMO ที่ต้องการโต๊ะเกมที่ดูโล่งสะอาดตาและปราศจากสายเคเบิลที่น่ารำคาญใจ
Naga V2 HyperSpeed ใช้แบตเตอรี่ขนาด AA ก้อนเดียว โดยวางตัวแนวทแยงกับตัวเครื่องส์เพื่อมอบสมดุลและการกระจายน้ำหนักที่ดีกว่า สามารถใช้งานได้นานถึง 400 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อบลูทูธและ 250 ชั่วโมงเมื่อเชื่อมต่อด้วยระบบ Razer HyperSpeed Wireless ความหน่วงต่ำ
ด้วยคุณสมบัติความแม่นยำและเที่ยงตรงของเซ็นเซอร์ Razer Focus Pro 30K Optical Sensor ที่สนับสนุนการทำงานด้วย Razer Mechanical Mouse Switch Gen-2 ซึ่งมอบความเร็วและความทนทานขั้นสุด รวมถึงการเชื่อมต่อที่ไหลลื่นและความหน่วงสัญญาณต่ำของเทคโนโลยี Razer HyperSpeed Wireless จึงทำให้ Naga V2 HyperSpeed คือเพื่อนคู่ใจของเกมเมอร์สายโหดตัวจริง
