Red Hat ประกาศรายชื่อสององค์กรไทย CIMB Thai Bank และ KBTG สององค์กรไทย ได้รับรางวัล APAC Innovation Awards ประจำปี 2565 พิจารณาจากความสำเร็จในการใช้โซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สของ Red Hat เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
Red Hat, Inc. ผู้ให้บริการโซลูชันโอเพ่นซอร์สระดับแนวหน้าของโลก ประกาศรายชื่อผู้ประกอบการไทยที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Red Hat APAC Innovation Awards) ประจำปี 2565 ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMB Thai Bank) และ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ณ งาน Red Hat Summit: Connect รางวัลนี้พิจารณาจากการนำโซลูชันของ Red Hat ไปใช้เพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเร่งให้ทีมงานด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รองรับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง
การจัดงาน Red Hat Summit: Connect ภายใต้ธีม “Explore what’s next” ในปีนี้ได้ยกย่องความสามารถขององค์กรต่าง ๆ ที่นำเทคโนโลยีโอเพ่นซอร์สไปใช้เพื่อปรับตัวได้ทันกับสภาพแวดล้อมในการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปรับเปลี่ยนรูปแบบในการทำธุรกิจได้อย่างเหมาะสม และมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งในปีนี้ Red Hat APAC Innovation Awards ให้การยกย่ององค์กรจำนวน 26 แห่งในภูมิภาคที่ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล จากการนำโซลูชันของRed Hat ไปใช้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อก้าวล้ำเทรนด์ต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที
ความคล่องตัวและนวัตกรรมมีความสำคัญมากต่อความสำเร็จของธุรกิจในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน รายงาน State of Enterprise Open Source 2022 ของ Red Hat ระบุว่า 95 เปอร์เซ็นต์ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า โอเพ่นซอร์สเป็นเทคโนโลยีสำคัญต่อกลยุทธ์ด้านซอฟต์แวร์โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดขององค์กร โอเพ่นซอร์สช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัว ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว และสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้ในระยะยาว
ผู้ได้รับรางวัลในสาขาต่าง ๆ จะต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบเชิงบวกจากการนำโซลูชันของ Red Hat ไปใช้สนับสนุนวิสัยทัศน์ทางธุรกิจ วัฒนธรรมองค์กร อุตสาหกรรมและชุมชนต่าง ๆ โดยต้องแสดงให้เห็นว่าเครื่องมือและวัฒนธรรมแบบโอเพ่นซอร์สสามารถเร่งให้กระบวนการทางธุรกิจ และการทำงานรวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น กระตุ้นให้เกิดนวัตกรรม และสามารถแก้ไขความท้าทายต่าง ๆ ในอนาคตได้อย่างไร
รางวัลในปีนี้แบ่งเป็นห้าสาขา ได้แก่ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation), โครงสร้างพื้นฐานไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud Infrastructure), การพัฒนาคลาวด์-เนทีฟ (Cloud-native Development), ระบบอัตโนมัติ (Automation) และความยืดหยุ่น (Resilience) สำหรับประเทศไทยมีองค์กรได้รับรางวัลสอง แห่ง คือ CIMB Thai Bank และ KBTG
สาขา: Digital Transformation และ Hybrid Cloud Infrastructure
องค์กรที่ได้รับรางวัล: ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMB Thai Bank)
ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMB Thai Bank) มีวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารดิจิทัลระดับแนวหน้าในอาเซียน และมุ่งมั่นสร้างองค์กรให้เป็นธนาคารที่มีสมรรถนะสูงอย่างยั่งยืน เพื่อเสริมสร้างความก้าวล้ำให้ลูกค้าและสังคม ผ่านบริการทางการเงินที่ดีที่สุดในแต่ละด้าน ผ่านความแข็งแกร่งของเครือข่ายของธนาคารในอาเซียน และด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุด ปัจจุบันธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศไทย
เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ในการเป็นธนาคารดิจิทัลระดับแนวหน้าและตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ทำธุรกรรมผ่านดิจิทัลจำนวนมาก ธนาคารจึงได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการต่าง ๆ ในรูปแบบธนาคารดิจิทัล เช่น การชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-payments) และบริการโอนเงินระหว่างธนาคาร เป็นต้น ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของธนาคารฯ จำเป็นต้องมีวงจรในการพัฒนาให้รวดเร็วขึ้น รองรับปริมาณเวิร์กโหลดที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถสร้างและปรับขนาดแอปพลิเคชันใหม่ ๆ และส่งแอปพลิเคชันเหล่านี้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ธนาคารฯ จึงเห็นความจำเป็นที่จะต้องนำแพลตฟอร์มใหม่ด้านธนาคารดิจิทัลมาใช้ โดย Red Hat OpenShift และ Red Hat OpenShift on AWS (ROSA) เป็นโซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สแพลตฟอร์มที่จะช่วยให้บริการด้านธุรกรรมการเงินของธนาคารมีความคล่องตัว ปรับขนาดการทำงานได้ตามต้องการ และมีความยืดหยุ่น สามารถรองรับปริมาณงานพัฒนาแอปพลิเคชันจำนวนมากทั้งบนระบบคลาวด์และในระบบภายในองค์กรได้
โซลูชันดังกล่าว ช่วยให้ธนาคารฯ สามารถทำการพัฒนาและส่งมอบแอปพลิเคชัน รวมทั้งบริการด้านธนาคารดิจิทัลใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น ซึ่งส่งผลถึงการเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างฟังก์ชั่นทางธุรกิจในรูปแบบดิจิทัลได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น ทั้งยังได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่โซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สมีให้อีกด้วย
สาขา: Digital Transformation และ Cloud-Native Development
องค์กรที่ได้รับรางวัล: กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG)
ธนาคารกสิกรไทย (KBank) ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2488 เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการธนาคารแบบครบวงจรแก่ผู้บริโภค การพาณิชย์ และองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การให้กู้ยืม บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ส่วนบุคคล สินเชื่อบ้าน รถ และสินเชื่อเช่าซื้อ เป็นต้น ปัจจุบัน KBank เป็นผู้ให้บริการ K PLUS โมบายแบ้งกิ้งอันดับหนึ่งของประเทศไทยที่มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 18.6 ล้านคน และในปี พ.ศ. 2565 KBank เป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์และเงินฝากสูงสุดเป็นอันดับสี่ในประเทศ ทั้งยังมีส่วนแบ่ง ตลาดด้านสินเชื่อมากสุดเป็นอันดับสาม โดย KBTG หน่วยงานด้านไอทีของ KBank ทำหน้าที่ดูแล Infrastrucutre และพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับธุรกิจของธนาคารทั้งในปัจจุบันและอนาคต
KBTG จำเป็นต้องพัฒนาระบบ Infrastructure ของธนาคารให้ทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อรองรับการให้บริการลูกค้า และนำเสนอผลิตภัณฑ์ดิจิทัลใหม่ ๆ ที่หลากหลาย รวมถึงการคงสถานะการเป็นผู้นำทางด้านธนาคารดิจิทัลของไทย KBTG จึงมองหาแพลตฟอร์มที่มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และมีประสิทธิภาพการทำงานเท่าทันการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกรรมดิจิทัล ให้สามารถรองรับแอปพลิเคชันจำนวนมาก ทั้งยังทวีความรวดเร็วในการส่งผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัลออกสู่ตลาด เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2565 KBTG ได้นำ Red Hat OpenShift และ Red Hat Advanced Cluster Management ซึ่งเป็นโซลูชันด้านโอเพ่นซอร์สที่ช่วยอำนวยความสะดวก ให้การสร้างและออกแอปพลิเคชันใหม่ ๆ แบบ On-premise สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการปรับปรุงเทคโนโลยี Infrastructure ที่สำคัญให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น ภาษาที่ใช้เขียนโปรแกรม และคอนเทนเนอร์ การนำโซลูชันของ Red Hat มาใช้ ช่วยให้ KBTG สามารถลดเวลาในการจัดเตรียมระบบ และออกแอปพลิเคชันจาก 3 วัน เหลือเพียงวันเดียว ทำให้เราสามารถส่งมอบแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น
คำกล่าวสนับสนุน
“ในขณะที่การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลตามแผน Thailand 4.0 ยังคงดำเนินไปอย่างรวดเร็ว Red Hat ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของลูกค้าของเรา ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าโอเพ่นซอร์สสามารถช่วยให้พวกเขามีความคล่องตัวและตอบสนองเทรนด์ของตลาดและลูกค้าได้อย่างไร ลูกค้าไทยของเราที่ได้รับรางวัลล้วนยืนยันให้เห็นถึงความคล่องตัว และสมรรถนะของนวัตกรรมในแง่มุมของการใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ไฮบริดคลาวด์ เพื่อให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน และส่งผลิตภัณฑ์/บริการออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วขึ้น เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและลูกค้าขององค์กรเหล่านั้น ฉันหวังว่าความสำเร็จเหล่านี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับองค์กรอื่น ๆ ในเอเชียแปซิฟิกให้ปลดล็อก และใช้ประโยชน์จากศักยภาพของโอเพ่นซอร์สได้เต็มประสิทธิภาพ”
Marjet Andriesse, senior vice president and general manager, APJC, Red Hat
“ความมุ่งมั่นอย่างหนึ่งของเราเพื่อคงความสามารถในการแข่งขันในตลาดด้านการเงินในประเทศไทย คือการให้ความสำคัญกับการให้บริการลูกค้าด้วยบริการธนาคารดิจิทัลที่ปรับให้เจาะจงตามความต้องการของแต่ละบุคคลมากขึ้น และเพื่อให้มั่นใจได้ว่าโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเราจะสามารถรองรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการที่เพิ่มมากขึ้นได้ เราจึงสร้างแพลตฟอร์มธนาคารดิจิทัลขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดการทำงานซึ่งเป็นคุณสมบัติของเทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ เราใช้โซลูชันโอเพ่นซอร์สของ Red Hat เป็นเทคโนโลยีสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านนี้ เราจึงมั่นใจว่าแพลตฟอร์มที่เราใช้มีประสิทธิภาพ สามารถปรับขนาดการทำงานได้ตามความเหมาะสม และมีความยืดหยุ่น ทั้งการใช้งานในระบบที่อยู่ภายในองค์กรและบนคลาวด์ต่าง ๆ”
นายไพศาล ธรรมโพธิทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เทคโนโลยีและวิทยาการข้อมูล ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย
“ในฐานะที่ KBank เป็นธนาคารดิจิทัลอันดับหนึ่งของไทย เราจำเป็นที่จะต้องสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่าง ต่อเนื่องเพื่อคงจุดยืนนี้ไว้ ดังนั้นการปรับโครงสร้างพื้นฐานแอปพลิเคชันของธนาคารฯ ให้ทันสมัยอยู่เสมอจึงเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการหลากหลาย ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์ในโลกดิจิทัลของลูกค้า โซลูชันของ Red Hat ช่วยให้เรามั่นใจว่าองค์ประกอบสำคัญใน Infrastructure ของเรา เช่น ภาษาที่ใช้การเขียนโปรแกรมและคอนเทนเนอร์ นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด และเราจะสามารถส่งมอบแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ใหม่ ๆ สู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว”
นายตะวัน จิตรถเวช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี, KBTG
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
Learn more about the Red Hat APAC Innovation Awards 2022
Learn more about Red Hat Summit: Connect