ข้อมูลการวิจัยล่าสุดจาก Global Passenger Electric Vehicle Model Sales Tracker ของ Counterpoint ในไตรมาสที่ 3 ปี 2022 เผยข้อมูลว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (electric vehicle หรือ EV) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นเพิ่มขึ้นถึง 35% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มียอดขายรถ EV สูงที่สุดในภูมิภาค โดยครองส่วนแบ่งถึง 60% รองลงมาคืออินโดนีเซียและสิงคโปร์
รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV คิดเป็น 61% ของยอดขาย ส่วนที่เหลือ 39% เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด หรือ PHEV
แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า top 5 มีสัดส่วนถึง 67% ของยอดขายรถ EV ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย Wuling เป็นแบรนด์ที่ขายดีที่สุด ตามด้วย Volvo และ BMW
Abhilash Gupta นักวิเคราะห์ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าถึงแม้ยอดขายรถ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นๆ แต่ความต้องการรถ EV นั้นค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่าจับตามอง ปัจจุบัน ยอดขายรถ EV มีสัดส่วนเพียง 2% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมดในภูมิภาค แต่ในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากเริ่มตั้งและวางแผนตั้งโรงงานผลิตรถ EV ทั่วภูมิภาคนี้ จึงน่าจะมองเห็นการเติบโตของตลาดรถ EV ในภูมิภาคนี้ได้อีก
สรุปตลาดประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ประเทศไทย
ตลาด EV ในไทยเติบโตอย่างรวดเร็วมากในปีนี้ ทำให้ไทยเป็นผู้นำเรื่องรถ EV อย่างไม่ต้องสงสัย โดยมียอดขายรถ EV มากถึง 60% ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2022 พร้อมมีเป้าหมายที่จะทำยอดขาย BEV ในประเทศให้ได้ 100% ภายในปี 2035
ประเทศไทยได้รับการอุดหนุน การยกเว้นภาษีสรรพสามิต และการลดภาษีนำเข้าทำให้ ทำให้เส้นทางของรถ EV ของประเทศไทยนั้นมีแนวโน้มที่ดีและเติบโตได้มากกว่านี้อีก
อินโดนีเซีย
อินโดนีเซียถือเป็นผู้เล่นรายหลักในการผลิตรถ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครองสัดส่วน 25% ของยอดขาย EV ในภูมิภาคนี้ โดยในช่วงไตรมาสที่ 3 ประเทศนี้มีปริมาณการขายรถ EV สูงที่สุดจนถึงปัจจุบัน
รถ EV อย่าง Wuling Air ที่เปิดตัวไปเมื่อไตรมาสนี้ได้รับความนิยมมากและเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด อีกทั้งผู้ผลิตรถ EV หลายแบนด์ได้ประกาศแผนการตั้งการผลิตแบตเตอรี่รถ EV ในอินโดนีเซียที่สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศที่ต้องการสร้างแบตเตอรี่ความจุ 140 GWh ให้ได้ภายในปี 2030
สิงคโปร์
สิงคโปร์เป็นอีกประเทศที่ตลาดรถ EV กำลังเติบโต ครองส่วนแบ่งเกือบ 12% ของยอดขายรถ EV ในอาเซียน
ประเทศนี้มีเป้าหมายในการขายรถที่ปลอดมลพิษให้ได้ 100% ภายในปี 2030 โดยมีสิ่งจูงใจ นโยบาย รวมถึงแผนการต่างๆ ที่สนับสนุนเพื่อเพิ่มการใช้รถ EV ในประเทศ
นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังพยายามจะพัฒนาเครือข่ายจุดชาร์จภายในประเทศให้ได้ 60,000 จุดภายในช่วงสิ้นทศวรรษนี้
มาเลเซีย
มาเลเซียมีส่วนแบ่งเพียง 3% ในตลาดรถ EV ในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ตาม คิดว่าสัดส่วนน่าจะค่อยๆ โตขึ้นในอนาคต เนื่องจากรัฐบาลมาเลเซีบเองเริ่มสนับสนุนการใช้รถ EV รวมถึงมีนโยบายสนับสนุนเรื่องภาษีนำเข้า ภาษีสรรพสามิต และภาษีขาย รวมถึงผลักดันให้มีสถานีชาร์จเพิ่มในประเทศเพื่อกระตุ้นยอดขายรถ EV
เวียดนาม
เวียดนามประกาศเรื่องค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนรถ EV เป็นศูนย์ในเดือนมีนาคม 2022 โดยมี Vinfast เป็นแบรนด์รถ EV รายใหญ่
เวียดนามเป็นอีกประเทศที่มีแนวโน้มว่าตลาดรถ EV จะเติบโตขึ้นได้อีกในอนาคต
Soumen Mandal นักวิเคราะห์อาวุโสแสดงความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดรถ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า เดิมทีภูมิภาคนี้นั้นถูกครองตลาดส่วนใหญ่ด้วยแบรนด์ OEM จากญี่ปุ่นมาเป็นเวลานาน แต่หลังจากนี้ไป โฟกัสจะเปลี่ยนไปอยู่ที่รถ EV แล้ว เดิมทีปัญหาสำคัญอยู่ที่ความสามารถในการใช้จ่ายซื้อรถยนต์ ที่มีผลต่อการเติบโตของตลาดยานยนต์ของภูมิภาคนี้ แต่หลังจากนี้จะมีตัวเลือกรถ EV ที่ราคาจับต้องได้เพิ่มมากขึ้น ไม่าจะเป็น Wuling , BYD , GWM และ SAIC เป็นต้น ซึ่งจะต่างจากตลาด EV ในกลุ่มประเทศทางฝั่งอเมริกาและยุโรป
จากการคาดการณ์ Global Passenger Vehicle Forecast ของ Counterpoint มองว่าตลาดรถ EV ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และภายในช่วงสิ้นปี 2030 ยอดขายรถ EV จะทะลุ 3.5 ล้านคันโดยอัตรา CAGR จะโตขึ้นถึง 124%
ที่มา : Counterpoint
