Adobe รายงาน Future of Creative ชี้เทศกาลวันหยุด คือช่วงโกยรายได้มากที่สุดของครีเอเตอร์

Adobe เผยรายงาน Future of Creative ชี้ให้เห็น เทศกาลวันหยุด “คริสมาสต์ – ปีใหม่” เป็นช่วงสร้างรายได้มากที่สุดในรอบปีของครีเอเตอร์

Adobe เผยข้อมูลจากรายงาน Future of Creativity ฉบับล่าสุด ศึกษาข้อมูลอินไซต์เกี่ยวกับโอกาสในการสร้างรายได้ในช่วงเทศกาลวันหยุด สำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่ใช่มืออาชีพ (Non-professional creators) โดยรายงานได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีที่ครีเอเตอร์พัฒนากลยุทธ์ด้านคอนเทนต์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตในช่วงเทศกาลวันหยุดที่ผ่านมา รวมถึงการเพิ่มรายได้ด้วยการเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ การทำงานร่วมกับครีเอเตอร์คนอื่น ๆ และแนวทางการเพิ่มผลงานสร้างสรรค์ของพวกเขา

แอชลีย์ สติล รองประธานอาวุโส ฝ่ายการตลาดสื่อดิจิทัล กลยุทธ์ และพันธมิตรระดับโลกของ Adobe กล่าวว่า “ในช่วงวันหยุด ครีเอเตอร์ถือเป็นกลุ่มคนที่มีอิทธิพลในการผลักดันเทรนด์ผ่านวิธีการสื่อสารที่หลากหลาย รวมทั้งยังสร้างโอกาสใหม่ ๆ อะโดบีส่งเสริมโอกาสให้ครีเอเตอร์ได้สร้างสรรค์ผลงานให้เกิดขึ้นจริง โดยผ่านเครื่องมือครีเอทีฟที่ทรงพลังและใช้งานง่าย เช่น Adobe Express ที่ทำให้ทุกคนสามารถแสดงตัวตน และพลังการสร้างสรรค์ในช่วงวันหยุดเทศกาลด้วยเทมเพลทที่หลากหลายให้สนุกสนานยิ่งขึ้น”

Adobe-Future-of-Creative-report

วันหยุด คือ ช่วงเวลาที่สร้างโอกาสและการเติบโต

จากรายงาน Future of Creativity โดย Adobe ชี้ให้เห็นว่าในช่วง เทศกาลวันหยุด ปี 2565 ครีเอเตอร์ได้สร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น รวมทั้งมีส่วนร่วมกับผู้ชมและแบรนด์บ่อยขึ้น และสร้างรายได้จากคอนเทนต์ได้มากขึ้น โดยมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้:

  • เกือบสามในสี่ของครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ (73%) ระบุว่าช่วงวันหยุดเป็นช่วงเวลาที่สร้างรายได้มากที่สุดของปี
  • โดยเฉลี่ยแล้ว ของครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ รายงานว่า รายได้ในช่วงวันหยุดคิดเป็นรายได้หนึ่งในสาม (34%) ของรายได้จากการสร้างสรรค์งานต่อปี
  • ในบรรดาครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ที่ทำงานหนึ่งปีหรือมากกว่านั้น 51% คาดว่ารายได้ในปี 2565 จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญเมื่อเทียบกับปี 2564 ในขณะที่ 26% กล่าวว่าพวกเขาจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 50% เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY)
  • ครีเอเตอร์มืออาชีพมากกว่าแปดในสิบ (86%) จะมีรายได้ในช่วงวันหยุดนี้ผ่านการขายตรง และเกือบสองในสาม (63%) จะได้รายได้จากโปรโมชั่น
  • แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ แต่ครีเอเตอร์ 88% คาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้ชมได้ในช่วงวันหยุดคริสมาสต์ถึงปีใหม่ และเกือบครึ่ง (49%) มีเป้าหมายในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์
  • เกือบครึ่ง (47%) ของครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ที่ทำงานมาเป็นเวลา 1 ปีหรือมากกว่านั้นคาดว่าจะโพสต์คอนเทนต์อย่างน้อยวันละครั้ง และ 59% กล่าวว่าพวกเขาเพิ่มความถี่ในการโพสต์ตั้งแต่ปีที่แล้ว

ความร่วมมือกับแบรนด์ในการสร้างรายได้

การเป็นพันธมิตรกับแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างรายได้ แต่ครีเอเตอร์จะเป็นผู้เลือกว่าจะทำงานร่วมกับแบรนด์ไหน

  • 71% ของครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ในช่วงเทศกาลวันหยุด และมากกว่าหนึ่งในสาม (36%) ของครีเอเตอร์ที่เป็นพันธมิตรกับแบรนด์กล่าวว่ารายได้จากการสร้างสรรค์ของพวกเขาคิดเป็นครึ่งหนึ่งหรือมากกว่าของรายได้ทั้งหมด
  • 75% ของครีเอเตอร์ครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ กล่าวว่า คุณค่าของแบรนด์มีความสำคัญมากกว่าขนาดและอิทธิพลของแบรนด์ 74% กล่าวว่าพวกเขาต้องการเป็นพันธมิตรกับครีเอเตอร์ด้วยกันเองมากกว่าแบรนด์ใหญ่
  • ครึ่งหนึ่งของครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ ที่เป็นพันธมิตรกับแบรนด์ตั้งแต่ 5 แบรนด์ขึ้นไปวางแผนที่จะแสวงหาพันธมิตรแบรนด์ใหม่เชิงรุก ในขณะที่ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มความถี่ของการมีส่วนร่วมของผู้ชม (53%) สร้างวิดีโอคอนเทนต์มากขึ้น (60%) สร้างคอนเทนต์รูปแบบใหม่ (61 %) และสร้างคอนเทนต์เสริม (66%)

สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาค (Macroeconomic) ขับเคลื่อนกลยุทธ์ใหม่

เช่นเดียวกับในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ครีเอเตอร์ตระหนักถึงสภาพแวดล้อมของเศรษฐกิจมหภาคที่ไม่แน่นอน และเกือบหนึ่งในสาม (32%) ของครีเอเตอร์มืออาชีพกล่าวว่า พวกเขากำลังปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อให้มีส่วนร่วมกับผู้ชมมากขึ้น

  • ในบรรดาครีเอเตอร์ที่เปลี่ยนรูปแบบการทำคอนเทนต์และ/หรือกลยุทธ์ทางธุรกิจ 63% กล่าวว่าพวกเขากำลังสร้างคอนเทนต์เพิ่มเติม 60% กำลังสร้างคอนเทนต์รูปแบบใหม่ และ 49% มีส่วนร่วมกับผู้ชมบ่อยขึ้น
  • โดยเฉลี่ยแล้ว ครีเอเตอร์จะสร้างและโพสต์คอนเทนต์ที่แตกต่างกันสี่ประเภทในเทศกาลวันหยุดนี้ ได้แก่ รูปถ่าย (70%) วิดีโอ (61%) ศิลปะ/กราฟิก (47%) มีม (31%)
  • แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของครีเอเตอร์สำหรับการโพสต์คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์หรือโซเชียลมีเดีย ได้แก่ Facebook (70%), Instagram (65%) และ YouTube (57%) โดยที่ครีเอเตอร์มือกลุ่ม Gen Z ใช้ TikTok เป็นประจำ (60%) ซึ่งมากกว่า Millennial ( 47%) หรือ Gen X (42%)

รายงาน Future of Creativity ยังชี้ให้เห็นว่า ครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้ส่วนใหญ่ (81%) ใช้แอป ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือดิจิทัลในการสร้างคอนเทนต์ และ 87% ในกลุ่มนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ Adobe Creative Cloud และ Adobe Express – เครื่องมือ all-in-one ชั้นนำสำหรับการสร้างโซเชียลกราฟิก ใบปลิว โลโก้ และวิดีโอ – ช่วยให้บุคคล, นักธุรกิจอิสระ (solopreneurs), social influencer, เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก และองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกสามารถถ่ายทอดเรื่องราวของพวกเขาได้ โดยทุกคนสามารถใช้เครื่องมือครีเอทีฟของอะโดบีเพื่อสร้างคอนเทนต์คุณภาพระดับมืออาชีพได้เร็วขึ้น และง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เกี่ยวกับรายงาน Future of Creativity

รายงาน Future of Creativity ของอะโดบีมีเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร โดยพูดคุยโดยตรงกับผู้ที่อยู่ในระดับแนวหน้าของการสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์: ผู้สร้าง Creator Economy โดยผลการศึกษาครั้งนี้ได้เก็บข้อมูลจากมุมมองที่หลากหลาย

ระเบียบวิธีการศึกษา

ในเดือนพฤศจิกายน 2565 การศึกษาเรื่อง Future of Creativity ได้สำรวจ “ครีเอเตอร์ที่ไม่ใช่มืออาชีพ” (non-professional creators) ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปประมาณ 1,000 คนในสหรัฐอเมริกา โดยหมายถึงครีเอเตอร์ที่ไม่ใช่มืออาชีพที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมครีเอทีฟ (เช่น รูปภาพ การเขียนเชิงสร้างสรรค์ และการสร้างคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย) และโพสต์ แชร์ หรือโปรโมทผลงานของพวกเขาจากกิจกรรมเหล่านี้ทางออนไลน์อย่างน้อยเดือนละครั้งโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตผ่านโซเชียล ส่วนครีเอเตอร์กลุ่มสร้างรายได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มครีเอเตอร์เหล่านี้ที่มีรายได้จากกิจกรรมครีเอทีฟ การขายผ่านเว็บไซต์หรือ marketplace หรือการสร้างรายได้จากพันธมิตร ลิงก์แอฟฟิลิเอต และ/หรือรายได้จากโฆษณา

ทาสกระต่าย Always and Forever