AIS พร้อมให้จับจอง iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่ สุดสดใส ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป
AIS พร้อมวางจำหน่าย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่ มอบตัวเลือกสีสันเพิ่มเติมแก่กลุ่มผลิตภัณฑ์ iPhone 14 โดย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ออกแบบมาอย่างสวยงามและทนทานยาวนาน มีตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ดีไซน์ด้านในที่อัปเดตใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นและซ่อมแซมได้ง่ายกว่าเดิม มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าทึ่ง ซึ่ง iPhone 14 Plus ให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone[1] นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบกล้องคู่เพื่อรูปถ่ายและวิดีโออันน่าทึ่ง ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลัง GPU แบบ 5-core 5G ที่เร็วสุดขีด และความสามารถด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นซึ่งรวมถึงคุณสมบัติการตรวจจับการชนกัน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันอังคารที่ 14 มีนาคม
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ส่งมอบ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลืองใหม่ที่มีระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าทึ่ง และความสามารถด้านความปลอดภัยที่สำคัญบนเครือข่าย 5G ที่เร็วสุดขีดของ AIS มอบความคุ้มค่าแก่ลูกค้าของเรา”
iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้ว[2] มาพร้อมดีไซน์แบบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศซึ่งทนทั้งน้ำและฝุ่น[3] และมีตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่มีความแข็งแกร่งยิ่งกว่ากระจกไหน ๆ บนสมาร์ทโฟน ช่วยปกป้อง iPhone จากการทำน้ำหกใส่และอุบัติเหตุทั่วไป ชิป A15 Bionic พร้อมด้วย GPU แบบ 5-core มอบพลังและประสิทธิภาพระดับโปรให้กับ iPhone 14 มอบความเร็วที่เหนือกว่าสำหรับเวิร์กโหลดที่ต้องประมวลผลหนัก ๆ และยังให้กราฟิกที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นทั้งสำหรับแอปวิดีโอและการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง โดยให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone1 iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มาพร้อมกล้องหลักความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อภาพถ่ายและวิดีโอที่สวยสะดุดตา และมีกล้องอัลตร้าไวด์ที่ถ่ายภาพได้ในมุมมองเฉพาะตัว คุณสมบัติวิดีโออย่างโหมดแอ็คชั่นและโหมดภาพยนตร์ ทั้งสองรุ่นมีให้เลือก 6 สีสวย ได้แก่สีมิดไนท์, สีฟ้า, สีสตาร์ไลท์, สีม่วง, (PRODUCT)RED[4], และสีเหลือง มีจอภาพ Super Retina XDR ที่สวยสะกดตาพร้อมเทคโนโลยี OLED เคียงคู่ไปกับการรองรับ Dolby Vision
iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีความสามารถด้านความปลอดภัยที่สำคัญซึ่งให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินได้ในเวลาที่สำคัญที่สุด คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันสามารถตรวจจับเหตุรถชนรุนแรงและโทรติดต่อบริการฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติหากผู้ใช้หมดสติหรือไม่สามารถหยิบ iPhone ได้ เมื่อจับคู่กับ Apple Watch คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันก็สามารถเลือกใช้ประโยชน์จากจุดเด่นเฉพาะตัวของอุปกรณ์ทั้งสองได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที[5]
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาได้ที่ https://www.ais.th/iphone/
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Apple ได้ที่ www.apple.com/th
[1] ข้อมูลอ้างอิงทั้งหมดเกี่ยวกับแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับเครือข่ายเซลลูลาร์ ตำแหน่งที่ตั้ง ความแรงของสัญญาณ การกำหนดค่าคุณสมบัติ การใช้งาน และปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายอย่าง ผลลัพธ์จริงจะแตกต่างออกไป แบตเตอรี่มีจำนวนรอบการชาร์จจำกัดและอาจจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนใหม่ในที่สุด ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่และจำนวนรอบการชาร์จอาจแตกต่างกันตามการใช้งานและการตั้งค่า การทดสอบแบตเตอรี่ใช้เครื่อง iPhone สำหรับการทดสอบโดยเฉพาะ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.apple.com/th/batteries และ www.apple.com/th/iphone/compare
[2] จอภาพมีมุมมนที่รับกับดีไซน์แบบโค้งอันงดงาม และมุมทั้งหมดนี้อยู่ในสี่เหลี่ยมมุมฉากมาตรฐาน และเมื่อวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมมุมฉากมาตรฐานแล้ว หน้าจอจะมีขนาด 6.06 นิ้ว (iPhone 14) หรือ 6.68 นิ้ว (iPhone 14 Plus) ในแนวทแยง โดยพื้นที่สำหรับการดูจริงมีขนาดน้อยกว่า
[3] iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่น ซึ่งผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการควบคุมที่ระดับ IP68 ตามมาตรฐาน IEC 60529 (ความลึกไม่เกิน 6 เมตร ภายในระยะเวลาสูงสุด 30 นาที) ความสามารถในการทนน้ำ น้ำที่กระเด็นใส่ และฝุ่นจะไม่คงอยู่ถาวร ซึ่งความสามารถดังกล่าวอาจลดลงจากการใช้งานตามปกติ ห้ามชาร์จ iPhone ในขณะที่เครื่องยังเปียกอยู่ โปรดดูคำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการทำให้แห้งในคู่มือผู้ใช้ การรับประกันไม่ครอบคลุมความเสียหายจากของเหลว
[4] รายได้ส่วนหนึ่งจากทุกการจำหน่าย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus (PRODUCT)RED จะมอบให้กับกองทุนโลกเพื่อต่อต้านโรคเอดส์และบรรเทาผลกระทบจาก COVID-19
[5] คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันออกแบบมาสำหรับการชนของยานพาหนะโดยสาร 4 ล้อ ที่มีข้อมูลของมวล แรง g และความเร็วสอดคล้องกับการชนที่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต โดยออกแบบมาสำหรับการชนรูปแบบต่าง ๆ ที่รุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต ทั้งการกระแทกอย่างรุนแรงทางด้านหน้าและด้านหลัง การเฉี่ยวชนด้านข้าง การพุ่งชนรถอีกคันที่ด้านข้าง และการพลิกคว่ำ คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันพร้อมให้ใช้งานทั่วโลกบน iPhone 14, iPhone 14 Plus, iPhone 14 Pro, iPhone 14 Pro Max, Apple Watch Series 8, Apple Watch SE และ Apple Watch Ultra