Apple เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีใหม่ สีเหลือง เป็นตัวเลือกสีสันใหม่เพิ่มเติม เริ่มเปิดจอง 2 ทุ่ม 10 มีนาคมนี้ พร้อมวางจำหน่ายวันแรก 14 มีนาคม 2566 ราคา เริ่มต้น 32,900 บาท และ 37,900 บาท
วันนี้ Apple เปิดตัว iPhone 14 และ iPhone 14 Plus สีเหลือง ใหม่ มอบตัวเลือกสีสันเพิ่มเติมแก่ตระกูลผลิตภัณฑ์ในปีนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก โดย iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ออกแบบมาอย่างสวยงามและทนทานยาวนาน มีตัวเครื่องด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ดีไซน์ด้านในที่อัปเดตใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ยั่งยืนยิ่งขึ้นและซ่อมแซมได้ง่ายกว่าเดิม และระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่น่าทึ่ง ซึ่ง iPhone 14 Plus ให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone
นอกจากนี้ทั้งสองรุ่นยังมาพร้อมระบบกล้องคู่เพื่อรูปถ่ายและวิดีโออันน่าทึ่ง ชิป A15 Bionic ที่ทรงพลัง และความสามารถด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นซึ่งรวมถึงคุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและการตรวจจับการชนกัน
ตอนนี้ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สีสั ทั้งสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED, สีฟ้า, สีม่วง และสีเหลืองแบบใหม่หมด
ขนาดหน้าจอของ iPhone 14 ขนาด 6.1 นิ้ว และ iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้ว มาพร้อมดีไซน์แบบอะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ กันน้ำกันฝุ่น IP68 กระจกด้านหน้าแบบ Ceramic Shield ที่แข็งแกร่ง ภายในออกแบบให้สามารถซ่อมแซมได้ง่ายด้วยค่าใช้จ่ายที่สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น
ทั้งสองรุ่นมีจอภาพ Super Retina XDR ที่สวยสะกดตาพร้อมเทคโนโลยี OLED ซึ่งรองรับความสว่าง HDR สูงสุดเฉพาะจุด 1,200 นิต เคียงคู่ไปกับการรองรับ Dolby Vision ส่วนจอภาพ iPhone 14 Plus ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมก็ทำให้การรับชมคอนเทนต์ และการเล่นเกมเป็นไปอย่างน่าประทับใจ โดยให้แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน iPhone
กล้องหลังระบบกล้องคู่ ตัวกล้องหลักระดับโปรที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกล้องอัลตราไวด์สำหรับเก็บภาพมุมกว่า ส่วนกล้องหน้า TrueDepth ใหม่ที่สามารถโฟกัสหลายๆ ตัวแบบโดยอัตโนมัติในระยะห่างที่ต่างกัน เพื่อให้ได้ภาพระยะใกล้ที่คมชัดยิ่งกว่าเดิมและภาพหมู่เซลฟี่ที่สวยงาม รูรับแสงที่กว้างขึ้นยังทำให้ภาพถ่ายในสภาวะแสงน้อยมีสีสันที่สว่างขึ้นและมีรายละเอียดที่ชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
การถ่ายภาพใน iPhone 14 Series ยังมี Photonic Engine ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในสภาวะแสงปานกลางถึงน้อยแก่รูปภาพบนกล้องทุกตัวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดยมากขึ้น 2 เท่าสำหรับกล้อง TrueDepth และกล้องอัลตร้าไวด์ และมากขึ้น 2.5 เท่าสำหรับกล้องหลักตัวใหม่ โดย Photonic Engine สามารถเก็บรักษาพื้นผิวที่มีความละเอียดลออ ให้สีสันที่ดียิ่งขึ้น และช่วยคงข้อมูลในรูปภาพได้มากขึ้นผ่านการผสานฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำลึก
ทางด้านการถ่ายวิดีโอ ยังมาพร้อมโหมดแอ็คชั่นและโหมดภาพยนตร์มีให้ใช้งานในผลิตภัณฑ์ตระกูล iPhone 14 ทุกรุ่น เพื่อให้ผู้ใช้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างเต็มที่ โหมดแอ็คชั่นทำให้วิดีโอดูลื่นไหลอย่างน่าทึ่ง โดยสามารถปรับให้สัมพันธ์กับการส่ายไปมาและการเคลื่อนไหวในระดับมากๆ แม้กระทั่งการถ่ายวิดีโอระหว่างแอ็คชั่นก็ตาม ส่วนโหมดภาพยนตร์ซึ่งรองรับความละเอียด 4K ที่ 30 fps และ 4K ที่ 24 fps ทำให้ได้เอฟเฟ็กต์ระยะชัดลึกที่สวยงามซึ่งเปลี่ยนโฟกัสในการถ่ายวิดีโอสไตล์ภาพยนตร์ได้โดยอัตโนมัติด้วยวิธีที่ง่ายดายไม่ยุ่งยาก
นอกจากนี้ ใน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus คุณสมบัติ SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อความถึงบริการฉุกเฉินเมื่ออยู่นอกพื้นที่ให้บริการเซลลูลาร์และ Wi-Fi ผ่านองค์ประกอบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและซอฟต์แวร์ที่ผสานการทำงานอย่างกลมกลืน นอกจากนี้ผู้ใช้ที่ต้องการแจ้งตำแหน่งแก่เพื่อนและครอบครัวอย่างมั่นใจแม้จะอยู่ในพื้นที่อับสัญญาณก็ตาม ก็สามารถเปิดแอปค้นหาของฉันแล้วแชร์ตำแหน่งที่ตั้งผ่านดาวเทียมได้ด้วย
*โดยบริการนี้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินแล้วทั้งในสหรัฐฯ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร และจะพร้อมให้บริการภายในเดือนนี้สำหรับออสเตรีย เบลเยียม อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส
ในด้านความปลอดภัย ยังสามารถตรวจจับเหตุรถชนรุนแรงและโทรติดต่อบริการฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติหากผู้ใช้หมดสติหรือไม่สามารถหยิบ iPhone ได้ โดย Apple ได้ออกแบบอัลกอริทึมการเคลื่อนที่ซึ่งพัฒนาขึ้นจากข้อมูลการขับขี่และการชนกันในชีวิตจริงถึง 1 ล้านชั่วโมง ผสานรวมกับข้อมูลการเคลื่อนที่จากอุปกรณ์ตรวจจับความเคลื่อนไหวและไจโรสโคปใหม่, GPS, บารอมิเตอร์ และไมโครโฟน5บน iPhone เพื่อมอบคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่เหนือชั้นแก่ชีวิตของผู้คน นอกจากนี้เมื่อจับคู่กับ Apple Watch คุณสมบัติการตรวจจับการชนกันก็สามารถเลือกใช้ประโยชน์จากจุดเด่นเฉพาะตัวของอุปกรณ์ทั้งสองได้อย่างราบรื่นไร้รอยต่อ เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ประสิทธิภาพภายใน ขับเคลื่อนด้วยชิป A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core ที่มอบความเร็วที่เหนือกว่าสำหรับเวิร์กโหลดที่ต้องประมวลผลหนักๆ และยังให้กราฟิกที่ลื่นไหลยิ่งขึ้นทั้งสำหรับแอปวิดีโอและการเล่นเกมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง มาพร้อมกับ iOS 16 ที่มีอัปเดตฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอล็อค ทั้งเอฟเฟ็กต์แบบหลายเลเยอร์ที่ทำให้ตัวแบบในภาพถ่ายโดดเด่นสวยงามอยู่ด้านหน้าเวลาที่แสดงบนหน้าจอ วิดเจ็ตที่ให้ข้อมูลได้มากขึ้นเพียงแค่เหลือบมอง และแกลอรี่ภาพพื้นหลังใหม่ที่ให้แรงบันดาลใจ โหมดโฟกัสยังมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการเชื่อมโยงกับหน้าจอล็อคในรูปแบบใหม่และสร้างฟิลเตอร์สำหรับโหมดโฟกัสภายในแอป คุณสมบัติกิจกรรมสดช่วยให้ผู้ใช้เกาะติดสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นได้โดยตรงบนหน้าจอล็อคในแบบเรียลไทม์
ปัจจุบัน iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มีให้เลือกทั้งสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED, สีฟ้า และสีม่วง และจะวางจำหน่ายในสีเหลืองโดยมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้เลือกตั้งแต่ 128GB, 256GB และ 512GB ในราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท และ 37,900 บาท ตามลำดับ