เปิดตัว NEW MAZDA2 โฉมใหม่ปี 2023 เจาะกลุ่มวัยรุ่น มาพร้อมแนวคิด “Express Your Identity เลือกต่างในแบบเรา” สามารถเลือกดีไซน์ที่แตกต่างหลากหลาย ถึง 83 ดีไซน์ ทั้งรูปลักษณ์ การเลือกใช้สีภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์ที่นำมาตกแต่งในแต่ละรุ่น ใน ราคา 599,000 – 647,000 บาท
New Mazda2 มาพร้อมกับ 2 ดีไซน์ใหม่
- Sport Design ส่งผ่านความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยกันชนหน้า พร้อมกระจังหน้าแบบ Mesh Grille ดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างและหลังคาสีดำ เข้ากับความสปอร์ตของกระจังหน้าได้อย่างลงตัว มาพร้อมกับล้อ ขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ ภายในเบาะหนังสีดำสลับกับผ้า Grand Luxe Suede® แบบสปอร์ตดีไซน์ใหม่ ให้ความประณีตด้วยวัสดุคุณภาพสูง ตกแต่งสีแดงที่กรอบช่องแอร์ และเบาะนั่งเดินตะเข็บสีแดง
- New Wave Design ให้ภาพลักษณ์สดใสมีชีวิตชีวา โดดเด่นด้านการออกแบบด้วยกันชนหน้า, กระจังหน้า และล้อลายใหม่ เน้นความสดใสแตกต่าง พร้อมมอบความพิเศษด้วยการใช้แผงคอนโซลด้านในหลากสี ไม่ว่าจะเป็น สี Pure While สี Mirror Black และ สี Gross Light Blue ที่ถูกจับคู่กับสีภายนอกและดีไซน์ของล้อที่แตกต่างหลากหลายได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเลือกใช้ Bioplastic เป็นส่วนประกอบในการผลิตคอนโซล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและได้วัสดุที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการเลือกใช้ฟิล์มหลังคาที่ผลิตจากวัสดุไวนิล ที่สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต เมื่อเทียบกับการเคลือบสีแบบทูโทน
New Mazda2 ยังมาพร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น Rookie Drive และ Clap Pop
- Rookie Drive เพิ่มความแตกต่างโดดเด่นกับดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีขาว หลังคาสีขาวหรือสีดำที่ออกแบบแตกต่างตามสีภายนอก พร้อมการตกแต่งด้วยสีส้ม Racing Orange บนชุดสปอยเลอร์หลัง ชุดครอบกระจกมองข้าง คิ้วตกแต่งกันชนหน้าและกันชนหลัง รวมถึงฝาครอบล้อ พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ
- Clap Pop เพิ่มความสปอร์ตสุดคูล กับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมกระจกมองข้างและฝาครอบล้อสีขาว Ceramic Metallic กระจังหน้าสีขาวและหลังคาสีขาว พร้อมชุดสติกเกอร์ตกแต่งดีไซน์พิเศษ Clap Pop ตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ที่ต้องการรถที่ถ่ายทอดบุคลิกที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร
เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร และคลีนดีเซล 1.5 ลิตร
New Mazda2 ยังคงเอกลักษณ์ความโดดเด่นด้านสมรรถถนะการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ ที่มีให้เลือกถึง 2 เครื่องยนต์ ได้แก่
- เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 1.3 ลิตร (SKYACTIV-G) ที่ให้ทั้งสมรรถนะความแรง และการขับขี่ดีเยี่ยม ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร
- เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 1.5 ลิตร (SKYACTIV-D) ที่ทั้งแรงและประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟไดรฟ์ 6 สปีด พร้อมแมนนวลโหมด Activematic ที่ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสนานและราบรื่นยิ่งขึ้น
New Mazda2 ยังโดดเด่นด้วยระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง (GVC Plus) ที่ช่วยควบคุมสมรรถนะในการขับขี่ให้แม่นยําและสมดุลเพื่อให้ผู้ขับรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับรถอย่างสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตั้งแต่ก่อนเข้าโค้ง ในโค้ง และนอกโค้ง เพื่อมอบความปลอดภัยและความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารทุกตำแหน่ง
สนุกไปกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัดและเทคโนโลยีแบบ Best-in-Class
นอกจากนี้ New Mazda2 ยังคงถ่ายทอดเอกลักษณ์ของการเป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มอบคุณค่าเกินความคาดหวังให้กับลูกค้าด้วยความสะดวกสบายจากการขับขี่ด้วยท่านั่งที่เป็นธรรมชาติและมีวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม พร้อมยังช่วยให้เพลิดเพลินกับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และไม่พลาดทุกการติดต่อด้วยเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้ขีดจำกัด Mazda Connect ที่รองรับ Wireless Apple CarPlay® และ Android Auto ผ่านหน้าจอ Center Display แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ควบคุมด้วย Center Commander พร้อมอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ หรือ Cruise Control และยังเพิ่มความสะดวกสบายด้วยเบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง 2 ตำแหน่ง
อัดแน่นด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน i-Activsense ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
รถรุ่นนี้ยังได้รับการพัฒนาให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างครบครัน กับเทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกัน i-Activsense ที่ช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุและช่วยให้ขับขี่ได้อย่างสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น อาทิ
- ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced SCBS) มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบช่วยประหยัดน้ำมัน i-STOP และระบบประหยัดพลังงาน i-ELOOP มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus มีในทุกรุ่นย่อย
- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED และปรับระดับแบบอัตโนมัติ มีในทุกรุ่นย่อย
- กระจกหน้าแบบลดเสียงรบกวน มีในทุกรุ่นย่อย
- ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Keyless Entry)
- ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)
- ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน (LDWS)
- ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (HBC)
- ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (SBS)
- ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (ABSM)
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (MRCC)
- อุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยครบครัน อาทิ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า SRS
- ระบบป้องกันล้อล็อกแยกอิสระ 4 ล้อ 4W-ABS ระบบกระจายแรงเบรก EDB และระบบช่วยเบรก BA
- ระบบควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ DSC
- ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HLA
- เซ็นเซอร์กะระยะด้านหน้า 4 จุด และด้านหลัง 4 จุด
- กล้องมองหลัง
- หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
- ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าแบบหน่วงเวลา พร้อมฟังก์ชั่นตรวจจับน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
- ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sport paddle shift
- กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
- ระบบไฟหน้า เปิด-ปิด อัตโนมัติ
- ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
- ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล TCS ( Traction Control System)
- ระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินเตือนอัตโนมัติ เมื่อเบรกกะทันหัน ESS (Emergency Signal System)
- พวงมาลัยปรับ 4 ทิศทาง พร้อมสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
- ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ
- คานเหล็กเสริมกันกระแทกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง
- พนักพิงเบาะด้านหลัง สามารถแยกปรับและพับแบบ 60:40
- กุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณกันขโมย พร้อมเซ็นทรัลล็อก
New Mazda2 มีสีภายนอกให้เลือกถึง 9 สี ที่รวมถึง 2 เฉดสีใหม่เป็นครั้งแรก
- สีแดง โซล เรด คริสตัล (Soul Red Crystal)
- สีเทา แมชชีน เกรย์ (Machine Gray)
- สีขาว สโนว์เฟลก ไวท์ เพิร์ล (Snowflake White Pearl)
- สีดำ เจ็ท แบล็ก (Jet Black)
- สีบรอนซ์ แพลตทินั่ม ควอตซ์ (Platinum Quartz)
- สีเทา โพลีเมทัล เกรย์ (Polymetal Gray)
- สีน้ำเงิน ดีพ คริสตัล บลู (Deep Crystal Blue)
- สีฟ้า แอร์ สตรีม บลู (Air Stream Blue) สีใหม่
- สีเทา แอโร เกรย์ (Aero Gray) สีใหม่
*เนื่องจากการออกแบบรถ New Mazda2 มีดีไซน์ที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าที่มีความหลากหลายได้มากยิ่งขึ้น สีภายนอกในแต่ละรุ่น จึงมีความแตกต่างกัน
ราคา New Mazda2 (2023) ในแต่ละรุ่น
New Mazda2 ในประเทศไทย จะมีจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่นย่อยมาตรฐาน ทั้งแบบซีดาน 4 ประตู และแบบแฮทช์แบค 5 ประตู ทั้งแบบ Sport Design และ New Wave Design และยังมาพร้อมรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ได้แก่ Rookie Drive และ Clap Pop ในแบบแฮทช์แบค 5 ประตู
- 1.3 C SKYACTIV-G ราคา 599,000 บาท
- 1.3 S SKYACTIV-G ราคา 680,000 บาท
- 1.3 SP SKYACTIV-G ราคา 730,000 บาท
- XD SKYACTIV-D ราคา 720,000 บาท
- XDL SKYACTIV-D ราคา 830,000 บาท
- Rookie Drive Sports SKYACTIV-G ราคา 662,000 บาท
- Clap Pop Sports SKYACTIV-G ราคา 647,000 บาท
พร้อมกันนี้ มาสด้า (ประเทศไทย) มอบข้อเสนอพิเศษช่วงเปิดตัวให้กับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ ด้วยข้อเสนอดอกเบี้ย 1.59% และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance 1 ปี ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อจองซื้อได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th