realme ร่วมสร้างสรรค์แฟชั่นสมาร์ตโฟน กับอดีตดีไซน์เนอร์สิ่งพิมพ์จาก Gucci ผ่าน “realme 11 Pro Series 5G” โชว์ฝาหลังหนังวีแกนลายลิ้นจี่สุดหรูหรา
เรียลมี (realme) แบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก สร้างปรากฏการณ์แฟชั่นสู่อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนอีกครั้ง เมื่อ realme Design Studio จับมือกับอดีตนักออกแบบสิ่งพิมพ์จาก GUCCI ร่วมสร้างสรรค์ดีไซน์สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Number Series อย่าง “realme 11 Pro Series 5G” จนสร้างกระแสฮือฮาไปทั่วโลกนับตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกที่ประเทศจีน และด้วยรูปลักษณ์ที่เปี่ยมเสน่ห์อันงดงามจึงได้รับการยกย่องให้เป็น “แฟชั่นสมาร์ตโฟนที่สวยที่สุด” ในโลกปัจจุบัน
โดย realme Thailand กำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มิถุนายนนี้ ผ่านช่องทาง
Facebook Fanpage: realme TH (https://www.facebook.com/realmeTH)
Youtube: realme Thailand (https://www.youtube.com/@realmeThailandTH) ตั้งแต่เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
realme สร้างปรากฏการณ์แฟชั่นเขย่าวงการสมาร์ตโฟน
จุดเด่นของสมาร์ตโฟน realme Number Series คือการนำเสนอดีไซน์ที่สวยงามล้ำสมัย ซึ่งเป็นผลงานของ realme Design Studio™ ทีมดีไซเนอร์อิสระของแบรนด์ที่เปี่ยมด้วยทักษะการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและการออกแบบเชิงสุทรียศาสตร์ขั้นสูง ซึ่งเคยร่วมงานกับนักออกแบบชั้นนำระดับโลกมาแล้วมากมาย จนทำให้สาวก realme และกูรูสายเทคโนโลยี ต่างจับจ้องการเปิดตัวสมาร์ตโฟนตระกูลนี้มาโดยตลอด โดยในการออกแบบ realme 11 Pro Series ครั้งนี้ บริษัทได้ยกระดับมาตรฐานงานดีไซน์ไปอีกขั้น ผ่านความร่วมมือกับ Matteo Menotto อดีตนักออกแบบลายพิมพ์และสิ่งทอแห่ง GUCCI เพื่อนำเสนอดีไซน์ระดับไฮเอนด์ของแบรนด์หรูชั้นนำสู่อุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน
Matteo Menotto กล่าวว่า “เราได้นำความสวยงามของแฟชั่นที่หลากหลายทั้งในแง่มุมของพื้นผิว ลายพิมพ์ และงานฝีมือที่พบเห็นในสินค้าระดับลักซ์ชัวรี มาใช้ในการออกแบบ realme 11 Pro Series โดยเลือกใช้วัสดุ Premium Lychee Vegan Leather หนังวีแกนเกรดพรีเมียมลายลิ้นจี่ที่ให้สัมผัสเหมือนหนังแท้ด้วย Texture ที่หรูหรา สวยแปลกตา และสามารถป้องกันรอยนิ้วมือและรอยเปื้อนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าสวยหรู ดูแลง่าย และทนทานสูง ผสานกรรมวิธีการเย็บแบบ 3 มิติเพื่อสร้างเอฟเฟ็กต์ที่สวยงามสมจริงมากขึ้น ผสมกับการนำสิ่งทอ 3D Woven Texture ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการแฟชั่น มาประยุกต์ใช้เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน เพื่อแสดงสีสันที่ประณีตและทันสมัย มอบประสบการณ์การใช้งานที่แตกต่างและผิวสัมผัสหรูหราระดับพรีเมียมที่แท้จริง”
ทั้งนี้ ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ แบรนด์แอมบาสเดอร์เรียลมีประเทศไทย ยังได้ร่วมสัมผัสกับความพรีเมี่ยมจาก realme 11 Pro Series ซึ่งเมื่อความพรีเมี่ยมและหรูหราของสมาร์ตโฟนมาอยู่ในมือแฟนิชต้าตัวแม่อย่างสาวใหม่ เรียกได้ว่านี่คือความลงตัวของความลัคชูรี่อย่างแท้จริง
Sunrise Beige & Oasis Green: แรงบันดาลใจแห่งสีเบจรุ่งอรุณและความเขียวชอุ่มของโอเอซิส realme 11 Pro Series มาพร้อมกับฝาหลังที่ทำจากวัสดุหนังวีแกนลายลิ้นจี่สุดพรีเมี่ยม ที่จะช่วยป้องกันลายนิ้วมือ มอบความแตกต่างจากสมาร์ตโฟนแบบเดิม ๆ ที่เป็นพลาสติกหรือกระจก ช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับความสวยงามจากดีไซน์สุดหรูควบคู่กับความสะดวกสบายในการใช้งานอย่างลงตัว โดย realme 11 Pro Series 5G นำเสนอ 2 โทนสีหลัก ได้แก่ Sunrise Beige และ Oasis Green
โดย Matteo Menotto กล่าวถึงโทนสี Sunrise Beige ว่า “สี Sunrise Beige ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองมิลาน ซึ่งเป็นนครหลวงแห่งแฟชั่นของโลก และยังเป็นบ้านเกิดของผมเองด้วย ในยามเช้าที่ดวงอาทิตย์เริ่มทอแสงสีทองอันอบอุ่น สาดส่องปกคลุมกลุ่มสถาปัตยกรรมคลาสสิก จะเกิดประกายสีทองอ่อนโยนสาดส่องไปทั่วทั้งเมือง ความงดงามนี้ได้สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนนับล้านที่เดินทางมายังที่นี่ และโทนสีทองอันหรูหรานี้ก็ได้ถูกถ่ายทอดลงใน realme 11 Pro Series อย่างลงตัว”
อีกหนึ่งโทนสีที่สวยงามไม่แพ้กันคือสีเขียว Oasis Green เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบโทนสีเย็นสบายตา แต่ยังคงความหรูหรามีระดับ และสัมผัสได้ถึงงานเย็บระดับสูงจาก Gucci โดยสีเขียวเข้มนี้ยังชวนให้นึกถึงสไตล์การตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์แนวคลาสสิกในยุโรป มอบภาพลักษณ์ที่สุขุม นุ่มนวล และสงบนิ่งอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ยังนำเสนอดีไซน์ฝาหลังที่เรียบง่ายในโทนสีดำ Astral Black สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเส้นสายของดีไซน์แบบใหม่ แต่ต้องการวัสดุฝาหลังที่ดูเรียบง่ายในสไตล์เดิม ๆ ที่คุ้นเคย
ประสิทธิภาพจัดเต็มตามสไตล์รุ่นท็อปของ Number Series
realme 11 Pro Series 5G มาพร้อมกัน 2 รุ่น คือ realme 11 Pro+ 5G และ realme 11 Pro 5G ซึ่งนอกจากดีไซน์ระดับมาสเตอร์ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดขายหลักของทั้ง 2 รุ่นแล้ว เรียลมียังนำเสนอเทคโนโลยีอันก้าวกระโดดอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่นใน realme 11 Pro+ 5G ที่นำเสนอนวัตกรรม Samsung ISOCELL HP3 กับกล้อง OIS SuperZoom 200 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก พร้อมประสิทธิภาพการซูม 4 เท่าโดยไม่สูญเสียรายละเอียด ซึ่งนับว่าสูงสุดของเซกเมนต์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ สำหรับเทคโนโลยีในด้านอื่น ๆ ที่พร้อมเสิร์ฟสำหรับทั้ง 2 รุ่นคือจอแสดงผลคุณภาพสูงแบบ Curved Vision Display มอบประสบการ์การรับชมด้วยหน้าจอโค้ง 2160 Hz PWM ช่วยลดแสงความถี่ระดับสูงพิเศษพร้อมการป้องกันดวงตาระดับสูงสุดในวงการสมาร์ตโฟนไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน
