รีวิว CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 สมาร์ทวอทช์ทรงหน้าเหลี่ยมสุดคลาสิค ตัวเรือนแข็งแกร่ง มี Heart Rate Monitor สำหรับเก็บข้อมูลสุขภาพ ออกกำลังกาย การนอน รวมไปถึงการแจ้งเตือนต่างๆ แบตเตอรี่อยู่ได้ถึง 2 อาทิตย์ ราคา 9,900 – 10,500 บาท จัดจำหน่ายและรับประกันโดย CMG
สวัสดีครับ วันนี้ทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้สมาร์ทวอทช์รุ่นใหม่ที่มีความน่าสนใจ เพราะว่าเรือนนี้เป็นนาฬิกาของ CASIO แบรนด์ที่ใครๆ ก็รู้จักกับ จี-ช็อค นาฬิกาแฟชั่นที่สวยอึดถึกทน ตอนนี้มีสินค้าใหม่ในซีรีย์ของ G-SQUAD เป็นนาฬิกาที่ใส่ฟังค์ชันของสมาร์ทวอทช์เพิ่มขึ้นมา สำหรับการเล่นกีฬาและออกกำลังกาย โดยที่หน้าตาดีไซน์ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วย DNA ของ G-SHOCK
และนี่คือ CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 ที่ดูสวยเรียบ แต่ใส่ฟีเจอร์ไว้เพียบ จะเด็ดแค่ไหน เราจะลองแล้วมาเล่าให้ฟังกัน
แกะกล่อง CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 – Unbox Package
มีความแปลกตาตั้งแต่ตัวแพ็กเกจกันเลย ตามปกติแล้ว นาฬิกา CASIO G-SHOCK นั้นจะมาในกล่องกระดาษสีดำ และด้านในเป็นกล่องเหล็กสีดำทรง 6 เหลี่ยม
แต่สำหรับรุ่น G-SQUAD DW-H5600 มาในสไตล์รักษ์โลก ที่แพ็กเกจทั้งหมดเป็นวัสดุ ECO ที่สามารถนำไปย่อยสลายหรือรีไซเคิลได้ง่าย ตั้งแต่ตัวแจ็กเกตด้านนอกเป็นกระดาษแบบไม่ฟอกสี และไม่เคลือบเงา ด้านในตัวนาฬิกาจะใส่เอาไว้ในถุงผ้าดิบ ส่วนคู่มือ, ใบรับประกัน และอุปกรณ์สายชาร์จก็จะใส่ในกล่องกระดาษรวมไว้ในแพ็กเกจทั้งหมด
การออกแบบ – Design
อย่างที่บอกไปว่า G-SQUAD DW-H5600 ดีไซน์คือเป็นแบบทรงหน้าเหลี่ยม ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางคาสิโอ ซึ่งเป็นสไตล์อ้างอิงจากต้นฉบับที่เป็น G-SHOCK DW-5000C รุ่นยอดฮิตสุดคลาสิคที่ออกมาตั้งแต่ปี 1983 โดยที่วัสดุบริเวณกรอบและสาย ทำจากวัสดุ Bio-base rasin ที่เป็นเรซิ่นชีวภาพ มีคุณสมบัติที่ทนทาน แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกต่างๆ และยังกันน้ำที่ระดับความดัน 20 Bar หรือ 200 เมตร
หน้าจอแสดงผลใช้เป็นพาเนลแบบ MIP (Memory in Pixel) แสดงผลสีขาวดำ เป็นหน้าจอที่แตกต่างจาก LCD หรือ OLED ด้วยคุณสมบัติเด่นคือ มีความคมชัดสูงมาก และยิ่งอยู่ในสภาวะกลางแจ้งหรือกลางแดดก็จะยิ่งเห็นชัด แต่ถ้าในที่มืดหรือแสงน้อยก็จะเห็นได้ค่อนข้างลำบาก ต้องกดเปิดไฟ Backlit เพื่อช่วยให้มองเห็น โดยที่ตัว Watch Face จะมีให้เลือกเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบด้วยกัน
การควบคุมสั่งงานจะเป็นปุ่มกด ไม่ใช่แบบทัชสกรีนที่หน้าจอ โดยจะมีทั้งหมด 4 ปุ่มด้วยกันคือ
- Enter สำหรับกดเรียกโหมดการออกกำลังกาย และตอบตกลง
- Mode สำหรับเลือกโหมดการใช้งาน, เมนูคำสั่งต่อไป ถ้ากดค้างจะเลือกเมนูปรับตั้งค่าต่างๆ
- Light กดเพื่อเปิดไฟ Backlit ให้หน้าจอสว่าง
- Back สำหรับเลือกย้อนหลังกลับไปเมนูก่อนหน้า
ตัวปุ่มกดจะมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ก็อยู่ลึกพอสมควร คนนิ้วใหญ่อาจจะกดลำบากนิดหน่อย มีลูกเล่นกับสีสันของปุ่มที่จะเป็นสีดำเงา ส่วนปุ่มโหมดจะเป็นสีทองแดง
ด้านหลังของตัวเรือน วัสดุเป็นสแตนเลส โดยที่ตรงกลางจะเป็นจุดของ Heart Rate Sensor โดยจะเป็นไฟ LED สีเขึยว 2 จุด สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ไฟ LED สีแดง 1 จุด สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือด และเซ็นเซอร์รับแสงอีก 1 จุด
และจะมีจุดสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ โดยจะมีตัวสายแถมมาให้ในกล่อง การชาร์จจะเป็นลักษณะของการเอามาหนีบกับตัวเรือนแล้วเสียบชาร์จกับพอร์ต USB และ G-SQUAD DW-H5600 ยังเป็นระบบชาร์จแบบ Dual คือ นอกจากจะชาร์จผ่าน USB แล้ว ยังมีชาร์จด้วยระบบ Solar แสงอาทิตย์บนหน้าปัดได้อีกด้วย
ตัวสายเป็นเรซิ่นที่ตัวข้อรัดข้อมือจะเป็นโลหะสีดำเงาเข้ากับตัวเรือน มีตัวอักษร “CASIO THAILAND” สลักอยู่ และรุ่นนี้เป็น Made in Thailand ผลิตในประเทศไทยด้วยครับ
สำหรับสีและดีไซน์ของ G-SQUAD DW-H5600 จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกันคือ
- DW-H5600-1 : สีดำ ตัวเรือน+กรอบหน้าปัดเป็นเรซิ่น
- DW-H5600-2 : สีน้ำเงินอ่อน ตัวเรือน+กรอบหน้าปัดเป็นเรซิ่น
- DW-H5600MB-1 : สีดำ ตัวเรือนเรซิ่น กรอบหน้าปัดเป็นสแตนเลส
- DW-H5600MB-2 : สีน้ำเงิน ตัวเรือนเรซิ่น กรอบหน้าปัดเป็นสแตนเลส
- DW-H5600EX-1 : รุ่นพิเศษแบบ Limited Edition ฉลองครบรอบ 40 ปีของ CASIO ในเซ็ตมีกรอบหน้าปัดและสายนาฬิกามาให้ 2 แบบ
ฟีเจอร์การใช้งาน
สำหรับเริ่มต้นการใช้งาน จะต้องทำการดาวน์โหลดและติดตั้งแอป CASIO WATCHES ในสมาร์ทโฟนก่อน โดยจะมีให้ทั้งในระบบ iOS และ Android จากนั้นให้ทำการเชื่อมต่อตัวนาฬิกากับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetootoh ผ่านขั้นตอนการแนะนำจากในแอป ที่จะให้เราตั้งค่าเบื้องต้นในการใช้งาน อาทิ ข้อมูลน้ำหนักส่วนสูงของเรา, ข้อมูลส่วนตัว และการตั้งเป้าการเดินในแต่ละวัน, เลือกว่าใส่นาฬิกาที่ข้อมือข้างซ้ายหรือขวา, กำหนดเวลาเข้านอน-ตื่นนอน, เลือกการวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ และการอนุญาตให้ใช้การระบุพิกัด GPS ผ่านสมาร์ทโฟน
ภายในแอป การตั้งค่าการใช้งานต่างของตัวนาฬิกาจะทำในส่วนเมนู My Watch ที่เราสามารถลงทะเบียนเชื่อมต่อได้หลายเรือน เราสามารถปรับตั้งค่าการทำงานฟีเจอร์ต่างๆ ได้จากที่นี่ทั้งหมด ทั้งส่วนของการออกกำลังการแบบต่างๆ, การบันทึก Life Log, เปลี่ยนดีไซน์ Watch Face, Widget, การแจ้งเตือน ฯลฯ
เราจะมาแนะนำถึงฟีเจอร์ต่างๆ ที่น่าสนใจใน CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 รุ่นนี้กัน
ฟีเจอร์ด้านสมาร์ทวอทช์
นาฬิกา : แน่นอนว่า การใช้งานด้านของเวลานั้น มีให้มาครบถ้วนหมด ทั้งการตั้งปลุก, จับเวลา, เวลาโลก, เวลาพระอาทิตย์ขึ้น-ตก และยังสั่งซิงค์เวลาอัตโนมัติได้ด้วย
Notification : มีการแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ จากสมาร์ทโฟนมาที่ตัวนาฬิกา ที่ได้ทั้งสายโทรเข้า, ข้อความ รวมถึงการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ เลือกปรับได้ว่าจะแสดงผลเป็นหน้าจอเล็กหรือจอใหญ่ มีการส่งเสียงหรือสั่นเพื่อเตือนหรือไม่ และการแสดงผลก็ยังรองรับภาษาไทยด้วย
ฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกาย
CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 รองรับการบันทึกการเล่นกีฬาได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกันคือ วิ่ง (Running), เดิน (Walking), เล่นอุปกรณ์ยิม (Gym Workout) และ การออกกำลังกายแบบเป็นรอบ (Interval) สำหรับการบันทึกการวิ่งและเดินแบบ Outdoor สามารถบันทึกระยะทางและเส้นทางบนแผนที่ได้ โดยจะต้องเชื่อมต่อกับ GPS ของสมาร์ทโฟน (เพราะในนาฬิกาไม่มี GPS)
ในระหว่างที่ออกกำลังกาย จะสามารถเลือกเปลี่ยนหน้าจอเพื่อบอกสถานะต่างๆ ในขณะนั้นได้ อย่างเช่นในการวิ่งหรือเดิน จะบอกได้ทั้งระยะทาง, Pace, Lap Pace, เวลาในแต่ละรอบ, อัตราการเต้นของหัวใจแบบแบ่ง Zone และระยะเวลาที่วิ่ง-เดิน ส่วนการวิ่งหรือเดินในร่ม บนลู่ Treadmill ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน โดยจะมีการประเมินระยะทางให้ด้วย
การสรุปข้อมูลด้านการออกกำลังกาย ระบบจะมีการสรุปให้ใน Life Log ให้ค่อนข้างละเอียด โดยเฉพาะการวิ่งนั้น นอกจากค่าพื้นฐานพวกระยะทาง, อัตราการเต้นหัวใจในแต่ละโซน เวลาที่วิ่งทั้งหมด ยังบอกค่าการประเมินขึ้นสูงอย่าง ระยะก้าวในการวิ่ง, Running Index Cardio Load และ แคลอรี่ที่ใช้ไปในการวิ่งให้ด้วย
ทดสอบการออกกำลังกายด้วยการวิ่งบนลู่ เก็บข้อมูลการวิ่งได้ค่อนข้างละเอียด
ทดสอบบันทึกการเดิน โดยใช้การระบุพิกัดด้วย GPS บนสมาร์ทโฟน ทำได้ค่อนข้างแม่นยำ
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ
การบันทึกกิจกรรมในแต่ละวันนั้น G-SQUAD DW-H5600 จะบันทึกลงในแอปในรูปแบบของ Life Log โดยจะมีการสรุปข้อมูลในแต่ละวันเป็น Timeline ที่เปิดดูได้ง่าย มีการแยกกิจกรรมต่างๆ ให้เรียบร้อย โดยในส่วนของการติดตามด้านสุขภาพของเรานั้น ถ้าใครอยากได้แบบละเอียดแม่นยำ แนะนำให้เปิดใช้งาน Heart Rate Monitor แบบ 24 ชั่วโมง แต่ว่าจะมีผลต่ออายุแบตเตอรี่ที่จะหมดเร็วขึ้นด้วย
มาดูแต่ละส่วนสำหรับการติดตามด้านสุขภาพด้วย G-SQUAD DW-H5600 กัน
อัตราการเต้นของหัวใจ (Heart Rate) : เราสามารถเลือกเมนูให้แสดงค่า HR ของเราได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงแสดงค่าเฉลี่ย และอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุด-ต่ำสุดในแต่ละวันได้
ค่าออกซิเจนในเลือด (Blood Oxygen) : อันนี้ต้องกดวัดค่าเอง ไม่มีการตั้งให้วัดอัตโนมัติให้ โดยการวัดเราจะต้องนั่งนิ่งๆ เพื่อวัดค่า โดยค่าปกติในเวลาที่ไม่ได้ออกกำลังกายควรจะอยู่ที่ 90% ขึ้นไป
ฝึกกำหนดลมหายใจ (Breath Exercise) : จะแสดงหน้าจอให้เราหายใจเข้าและออกเป็นจังหวะ เพื่อช่วยในการคลายเคลียดและทำสมาธิได้
Cardio Status : เป็นการประเมินค่าพฤติกรรมการออกกำลังกายโดยเฉลี่ยของเรา ว่ามากน้อยแค่ไหน เล่นหนักทางด้านไหน
Life Log : สำหรับในตัวนาฬิกา เมนูนี้จะเป็นแดชบอร์ดที่สรุปค่าของจำนวนก้าวเดิน, แคลอรี่ที่ใช้, การเคลื่อนไหว สรุปให้ในแต่ละวันตลอดสัปดาห์ ให้ดูได้แบบง่ายๆ
Night Recharge : เพียงแค่คุณสวม G-SQUAD DW-H5600 แล้วเข้านอนในช่วงเวลาที่ตั้งไว้ในระบบ ตื่นเช้ามาก็จะมีการสรุปพฤติกรรมและให้คะแนนการนอนว่าคุณพักผ่อนได้ดีขนาดไหน ฟื้นฟูพลังจากการนอนได้แค่ไหน
Activity Log : ดูข้อมูลกิจกรรมการออกกำลังกายที่บันทึกไว้ได้จากหน้าจอของนาฬิกา
สรุป รีวิว CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 เหมาะสำหรับใคร?
ทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้ทดสอบลองใช้งานเจ้า G-SQUAD DW-H5600 เป็นเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ สิ่งที่ประทับใจเลยแน่นอน ก็คือดีไซน์หน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ของ CASIO G-SHOCK ที่สวยงาม และไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ วัสดุ การประกอบคือดีมากๆ พร้อมกับความแข็งแกร่งทนถึกอึดลุยไปกับคุณได้ทุกที่
ด้วยน้ำหนักตัวเรือนที่ถือว่าใส่สบายแค่ 59 กรัม และตัวเรือนที่ไม่ได้ใหญ่หรือหนามาก ทำให้คุณใส่ได้ตลอดทั้งวัน จะใส่นอนก็ไม่รู้สึกรำคาญหรือหนักข้อมือเท่าไรนัก
แต่ว่ามีสิ่งที่แอบขัดใจก็คือในการสวมใส่แล้ว มันจะเกิดรอยกดบนผิวหนังเป็นวงกลม 4 วง ที่มาจากตัวเซ็นเซอร์ที่อยู่หลังตัวเรือน การออกแบบทำออกมาให้นูนออกมาและเมื่อสวมใส่ก็ต้องรัดให้กระชับ เพราะถ้าใส่หลวมการวัดค่าก็จะมีการผิดพลาดได้ เวลาถอดนาฬิกามานี่คือเหมือนเป็นรอยเท้าแมวเหยียบบนแขนเราเลย 555
เราแนะนำว่าให้คุณหมั่นถอดและล้างตัวนาฬิกา รวมถึงฟอกสบู่ที่ข้อมือคุณทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้มีสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหนังได้ รวมถึงต้องแจ้งก่อนว่าด้านหลังของตัวเรือนนั้นเป็นสแตนเลส ที่อาจจะมีปัญหากับบางคนที่มีอาการผิวหนังแพ้โลหะเมื่อต้องสัมผัสนานๆ ได้
การใช้งานพื้นฐานด้านการเป็นสมาร์ทวอทช์นั้น ให้มาค่อนข้างครบ แต่ว่าด้วยขนาดเรือนหน้าปัดที่มีขนาดค่อนข้างเล็กนั้น จึงมาพร้อมข้อจำกัดอย่างเช่น การแสดงผลข้อความต่างๆ บนหน้าจอ อาจจะมองและอ่านได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะเวลามีข้อความแจ้งเตือนมานั้น ถ้าใครเป็นวัยรุ่นตอนปลายสายตาเริ่มไม่ดี บอกเลยว่าอ่านยากมาก ๆ
ความอึดของแบตเตอรี่นั้น ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ตามสเปคนั้น ถ้าใช้งานแบบสแตนด์บายทั่วไป สามารถอยู่ได้ถึง 2 อาทิตย์ จากที่เราทดสอบแบบเปิดหมดทุกฟีเจอร์การใช้งาน วัด HR ตลอด 24 ชั่วโมง, เปิดใช้การแจ้งเตือน, ใส่นอนเพื่อวัดค่า และมีการใช้ออกกำลังกายทุกวัน ผลคือใช้ได้ประมาณ 5-6 วัน ก็ถือว่าทำได้ดี
โดยที่การชาร์จนั้นใช้เวลาไม่นานมาก ถ้าขึ้นเตือนว่าแบต Low เสียบชาร์จไม่ถึงชั่วโมงก็เต็มแล้ว แนะนำว่าให้ชาร์จกับอะแดปเตอร์ทั่วไป หรือคอมพิวเตอร์ที่มีกำลังจ่ายไฟไม่สูงมาก เพราะถ้าใช้กับระบบ Fast Charge อาจจะทำความเสียหายกับตัวนาฬิกาได้ ส่วนระบบ Solar ชาร์จแสงอาทิตย์นั้น ถ้าคุณมีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำ ก็พอช่วยเพิ่มพลังงาน ยืดอายุการใช้งานได้อีกนิดหน่อย
ฟีเจอร์และการวิเคราะห์ด้านสุขภาพ ฟิตเนส และการออกกำลังกาย ทั้งหมด เป็นระบบที่พัฒนาโดยทาง Polar ที่ถือว่ามีประสบการณ์ด้านนี้มาไม่น้อย การแสดงข้อมูลกิจกรรมของ Life Log นั้น ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบนะ มันดูเรียบง่าย และแสดงเป็นแบบ Timeline เลื่อนดูง่าย กราฟิคการรายงานผลก็สะอาดตา
การวัดค่าต่างๆ ตลอดทั้งวัน อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างแม่นยำ ทั้งก้าวเดิน ส่วนการนอนเราจะต้องเป็นคนมีระเบียบวินัยพอสมควร คือต้องนอนในช่วงที่เราตั้งค่าเอาไว้ในระบบ เพราะบางวันที่ทดสอบนอนก่อนหรือหลังจากช่วงที่ตั้งเวลาไว้ ปรากฎว่านาฬิกาไม่สามารถวัดค่าให้เราได้ และระบบจะบันทึกการนอนเมื่อมีการนอนต่อเนื่องอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
ในด้านการใช้งานเพื่อเล่นกีฬาและออกกำลังกาย มีให้มาถือว่ายังไม่เยอะมาก มีให้เลือกแค่ 4 ประเภทเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะกันน้ำได้ลึก แต่ก็ไม่มีรองรับกีฬาทางน้ำใดๆ แต่ก็ถือว่า 4 ประเภทนี้ก็เป็นกิจกรรมการออกกำลังกายที่คนส่วนใหญ่เล่นกัน เอาเป็นว่ามีน้อยแต่ได้ใช้แน่นอน
แต่คุณอาจจะเหงาๆ นิดหน่อย เพราะระบบ Life Log ของ CASIO นั้นเป็นระบบปิด คือข้อมูลทั้งหมดไม่มีการเชื่อมต่อไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ ทั้ง Apple Health, Google Fit หรือจะเป็น Strava ฯลฯ หรือจะกดแชร์ไปอวดเพื่อนๆ บนโซเชียลก็ไม่มีเช่นกัน ทำได้เพียงแค่แคปหน้าจอจากในแอปแล้วเอาไปโพสต์เอง
สรุปแล้ว CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 โดนใจใครแค่ไหน ถ้าคุณมองหาสมาร์ทวอทช์ที่เน้นออกกำลังกาย รองรับประเภทกีฬาพร้อมฟีเจอร์เยอะๆ บอกเลยว่ามีตัวเลือกอื่นให้เลือกมากมายในตลาด แต่สำหรับเรือนนี้ นี่คือ G-SHOCK ที่ให้คุณใส่ได้อย่างเท่ แถมมีฟีเจอร์พื้นฐานด้านสุขภาพ ให้คุณบันทึกกิจกรรมการวิ่ง เล่นเวท เล่นฟิตเนส หรือเทรนนิ่งทั่วไปได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตคนเมือง และคนที่มีสไตล์อย่างคุณแน่นอน
สำหรับใครที่สนใจ CASIO G-SHOCK G-SQUAD DW-H5600 วางจำหน่ายแล้วในไทย สำหรับรุ่น DW-H5600-1 และ DW-H5600-2 ราคา 9,900 บาท, รุ่น DW-H5600MB-1 และ DW-H5600MB-2 ราคา 10,500 บาท ส่วนรุ่น Limited DW-H5600EX-1 ราคา 14,900 บาท
สามารถหาซื้อได้แล้วผ่านทางช่องทางตัวแทนจำหน่ายของ CMG ทั่วประเทศ หรือติดตามรายะเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : Casio Watches Thailand