Innovation Summit Bangkok 2023 งานแสดงเทคโนโลยีและแนวคิดด้าน ความยั่งยืน โดย Schneider Electric ปิดม่านความสำเร็จลงอย่างงดงาม
จบงาน Innovation Summit Bangkok 2023 กับงานแสดงเทคโนโลยีและแนวคิดด้าน ความยั่งยืน ของ Schneider Electric เมื่อวันที่ 5 – 6 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 2,000 คน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน พันธมิตรคู่ค้า รวมถึงนักศึกษา และผู้ให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีและความยั่งยืน ในงานมีการจัดหัวข้อสัมมนามากกว่า 50 หัวข้อ นำเสนอแนวคิดจากองค์กรชั้นนำ โดยผู้นำทางความคิดจากธุรกิจต่าง ๆ ที่มีวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ อาคาร ที่อยู่อาศัย โรงงานอุตสาหกรรม ดาต้าเซ็นเตอร์ และระบบไฟฟ้า โครงข่ายกริด
นอกจากนี้ ในงานยังมีการแสดงนวัตกรรม โซลูชันและซอฟต์แวร์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในโซน Innovation Hub บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร เจาะลึกถึงโซลูชันที่สามารถตอบโจทย์ด้านความยั่งยืนได้จริง โซลูชันที่ช่วยทรานส์ฟอร์มองค์กรไปสู่ดิจิทัล พร้อมยังให้บริการและคำปรึกษาด้านความยั่งยืน โดยผู้เชี่ยวชาญจากแต่ละด้าน
นวัตกรรมสีเขียวออกแบบได้
เทคโนโลยีของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หรือเรียกกันว่า EcoStruxure ทั้งหมดเป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิด ทำให้สามารถปรับใช้เข้าได้กับรูปแบบธุรกิจของทุกองค์กร ตั้งแต่ธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม องค์กรขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน ครอบคลุมทั้งบ้าน อาคาร ดาต้าเซ็นเตอร์ โรงงาน เครื่องจักร โครงขายไฟฟ้า และระบบสาธารณูปโภค
เทคโนโลยีสำหรับบ้านของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีตั้งแต่เซอร์กิตเบรกเกอร์ สวิตช์ไฟ Wiser Home Automation โซลูชันบ้านอัจฉริยะที่ช่วยเติมเต็มบ้านให้มอบความสะดวกสบาย นอกจากนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ยังนำเสนอเทคโนโลยีและมาตรฐานใหม่ KNX ที่ครอบคลุมได้ทั้งบ้านและอาคาร สามารถเชื่อมโยงกับระบบอัตโนมัติขนาดใหญ่ และใช้งานร่วมกับระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ เติมเต็มความครบวงจรได้ไรขีดจำกัด
พร้อมกันนี้ ยังมีโซลูชัน EV Charger สำหรับบ้าน อาคาร และสถานีชาร์จ โดยในวันงาน ได้นำ EVLink ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ EVlink Home สำหรับบ้าน มีขนาดเล็กให้พลังไฟฟ้าที่มีความเสถียรสูง มาพร้อมความปลอดภัย EVlink Pro AC สำหรับอาคาร ห้างสรรพสินค้า และเปิดตัว EVlink Pro DC สำหรับสถานีชาร์จ ให้ความเร็วในการชาร์จและความทนทาน พร้อมทั้งสามารถปรับใช้กับซอฟต์แวร์เพื่อให้เป็นสถานีชาร์จที่ยั่งยืนที่สุดอีกด้วย
ด้านโซลูชันสำหรับการจัดการอาคาร มีผู้เข้าร่วมงานให้ความสนใจโซลูชันนี้จำนวนมาก เพราะนอกจากมีโซลูชันที่ช่วยจัดการให้อาคารเป็นอาคารที่ทันสมัย ยังช่วยทำให้อาคารเป็นอาคารระบบอัตโนมัติ และสามารถปรับใช้ได้สำหรับอาคารทุกประเภทตั้งแต่อาคารในโรงพยาบาล อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ไปจนถึงโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย
ด้านโซลูชันสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ มีโซลูชันสำหรับจัดการพลังงานในห้องดาต้าเซ็นเตอร์ มาพร้อมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์สำหรับภาคอุตสาหกรรม ที่ให้ความความทนทาน กันฝุ่น กันความชื้น ลด latency สามารถประมวลผลได้ที่ปลายทางหรือเอดจ์ได้
เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้โรงงานสร้างความยั่งยืน และปรับให้เป็นโรงงานอัจฉริยะ อาทิ Lexium™ MC12 multi carrier ระบบการลำเลียงในสายการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต พร้อมด้วยหุ่นยนต์ CMR (Collaborative Mobile Robot) หุ่นยนต์อัจฉริยะสำหรับอุตสาหกรรม เป็นต้น
ความเป็นกลางทางคาร์บอนทิศทางไปสู่ความยั่งยืน
การไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน การใช้โซลูชันดิจิทัล นับเป็นความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการออกนโยบายและข้อบังคับขององค์กร เพราะเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเหลือทั้งผู้บริหารและพนักงานให้สามารถลดการเกิดคาร์บอนได้ดีในขั้นตอนการปฏิบัติงาน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แต่ใช้พลังงานน้อยลง การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ สมดุลของกระบวนการ เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้สามารถรวบรวมข้อมูลเชิงลึกในขั้นตอนต่าง ๆ พร้อมความสามารถในการมอนิเตอร์ วิเคราะห์ข้อมูลที่จำเป็น ทำให้องค์กรสามารถคาดการณ์กระบวนการอื่น ๆ ในซัพพลายเชนต่อได้อย่างดี
นอกจากนี้ การเลือกใช้พลังงานหมุนเวียนยังช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานในระยะยาว และได้พลังงานสะอาดมา เพื่อเคลมการลดคาร์บอนอีกด้วย ซึ่งภายในงาน ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้มีโซลูชันต่าง ๆ ครบสำหรับทุกแวดวงอุตสาหกรรม
บริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก เป้าหมายไปสู่ Net-Zero
การไปสู่ Net-Zero จะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เพราะก๊าซเรือนกระจก เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้โลกเราร้อนขึ้น และคาร์บอนเป็นเพียงแค่ 1 ชนิดในนั้น การไปสู่ Net – Zero หมายถึงการไม่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งก๊าซหนึ่งที่สำคัญคือก๊าซ SF6 ซึ่งใช้เพื่อเป็นฉนวนในสวิตช์เกียร์ หรือริงเมนยูนิต เมื่ออุปกรณ์หมดอายุ การทำลายจะเป็นการปลดปล่อยให้ SF6 ไปสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่ง SF6 1 กิโลกรัม ส่งผลกระทบร้ายต่อโลกเทียบเท่ากับคาร์บอน 23,500 กิโลกรัม นั่นก็เหมือนกับการขับรถประมาณ 200,000 กิโลเมตร (ค่าเฉลี่ยรถยนต์ทั่วไปปล่อยคาร์บอน ประมาณ 120 กรัม ต่อกิโลเมตร) นับว่าเป็นความท้าทายของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ในการคิดค้นการใช้อากาศบริสุทธิ์แทนก๊าซ SF6 แต่ยังคงประสิทธิภาพการใช้งานโดยรวมและขนาดของตู้เท่าเดิม ซึ่งปรากฏการณ์ใหม่นี้นับเป็นความทุ่มเทในการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสร้างโลกที่ยั่งยืน และตอบโจทย์ธุรกิจควบคู่กันไป ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่นำมาเปิดตัวในงาน คือ RM AirSeT และSM AirSeT มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะแบบฝังตัว ช่วยให้สามารถมอนิเตอร์ข้อมูลและมีประสิทธิภาพในการควบคุม รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพในการดำเนินการได้ด้วย
แม้ว่างาน Innovation Summit Bangkok 2023 ของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะจบไปแล้ว สำหรับท่านที่ไม่ได้เข้าร่วมงานสามารถเข้าชม Video On Demand ได้ที่นี่ http://spr.ly/6187PRPFt
สำหรับผู้ที่สนใจปรึกษาการสร้างความยั่งยืน หรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน https://www.se.com/th/th/about-us/sustainability/