Square Enix เผยข้อมูลของ Final Fantasy VII Rebirth ว่าจะมีเนื้อหาทั้งหมดกว่า 100 ชั่วโมง พร้อมประกาศวางจำหน่ายบน PS5 วันที่ 29 ก.พ. 2024
“นอกจากเนื้อเรื่องหลักที่มีขนาดใหญ่และมากกว่าเกมภาคก่อน Final Fantasy VII Rebirth ยังนำเอาแนวคิดของ ‘การสำรวจอย่างอิสระ’ เข้ามาด้วย เสริมด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ มินิเกมแสนสนุก มอนสเตอร์ที่ทรงพลัง และอื่น ๆ อีกมากมายให้ผู้เล่นค้นหาทั่วแผนที่โลก เราหวังว่าคุณจะท่องโลกนี้อย่างเต็มที่ เพราะการผจญภัยเกือบ 100 ชั่วโมงกำลังรอคุณอยู่”
Naoki Hamaguchi กล่าว
นั่นเป็นหนึ่งในข้อมูลที่ได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับเกมภาคต่อที่หลายคนเฝ้ารออย่าง Final Fantasy VII Rebirth นอกจากจำนวนเวลาการเล่นเกมที่เพิ่มขึ้นแล้ว ผู้เล่นจะได้พบกับการผจญภัยในโลกเปิดกับแผนที่โลกอันกว้างใหญ่ หลังจากที่ Cloud และพวกพ้องหนีออกจาก Midgar เพื่อตามหา Sephiroth
นอกจากนี้คุณ Yoshinori Kitase โปรดิวเซอร์ของเกมยังเสริมว่ามีการปรับฟีเจอร์อย่างมาก เช่น การเพิ่มระบบ Synergy Abilities เข้ามา โดยระบบนี้จะเป็นการโจมตีแบบแบบซิงโครไนซ์ของตัวละครสองตัว เมื่อเลเวลของปาร์ตี้สูงขึ้น (ค่าความสนิท) ก็จะปลอดล็อค abilities ได้มากขึ้น
เนื้อเรื่อง
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่บริษัท Shinra Electric Power ได้จัดหาพลังงานให้กับโลกโดยแลกกับกระแสชีวิต ที่เป็นเสมือน “แม่น้ำ” ที่สิ่งมีชีวิตทั้งหมดไหลวนเวียนอยู่ในนั้น
หลังจากบุกโจมตีสำนักงานใหญ่ของบริษัทและเข้าร่วมในการต่อสู้ Cloud และพวกพ้องละทิ้ง Midgar และออกเดินทางสู่โลกกว้าง ขึ้นขี่ Chocobo และออกเดินทางโดยไม่ทราบจุดหมายปลายทาง
ในขณะเดียวกัน Zack ซึ่งบาดเจ็บจากการต่อสู้กับกองทัพทหาร เดินทางข้ามพื้นที่รกร้างไปสู่ Midgar โดยแบก Cloud ที่ได้รับพิษจาก Mako บนไหล่ แม้จะรอดตายได้ในตอนนี้ แต่รอยแยกอันน่าสะพรึงกลัวบนท้องฟ้าทำให้เขาไม่รู้สึกยินดีเสียเท่าไรนัก
และนั่นไม่ใช่ภัยคุกคามเดียวที่โลกกำลังเผชิญอยู่ คณะกรรมการต่อต้าน Shinra ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลชั่วคราวของ Wutai ได้ประกาศสงครามขึ้น
ร่างที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมสีดำ มือหนึ่งถือศพของ Jenova มือหนึ่งถืออาวุธ ผู้พิทักษ์ที่น่าพรั่นพรึงและชั่วร้ายได้ตื่นขึ้นแล้ว
ท่ามกลางความอลหม่านเหล่านี้ Sephiroth ได้เริ่มแผนของเขาแล้ว
Final Fantasy VII Rebirth ประกาศวางจำหน่ายลงเครื่อง PS5 ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2024 โดยจะมี edition ที่เตรียมจำหน่ายดังนี้
Physical – ประกอบด้วยแผ่นเกม 2 แผ่น ฝาแบบพลิกกลับได้ และเกราะ “Midgar Bracelet Mk. II” สำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้ากับร้านค้าที่เข้าร่วม
- Standard Edition ($69.99) ประมาณ ฿2500.04
- Deluxe Edition ($99.99) ประมาณ ฿3571.64
รวม Mini-soundtrack CD อาร์ตบุ๊ค และเคส SteelBook - Collector’s Edition ($349.99) ประมาณ ฿12501.64
รวมรูปปั้น Sephiroth เนื้อหา Deluxe Edition พร้อมด้วยไอเทม DLC รวมถึง Summoning Materia ที่ให้ผู้เล่นสามารถอัญเชิญ “Moogle Trio” และ “Magic Pot” พร้อมด้วยอุปกรณ์อย่างเครื่องประดับ “Reclaimant Choker” และชุดเกราะ “Orchid Bracelet”
โดย Collector’s Edition จะพร้อมให้สั่งซื้อล่วงหน้าในจำนวนจำกัดที่ Square Enix Store
Digital – รวมเนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้ “Moogle Trio Summoning Materia”
- Standard Edition ($69.99) ประมาณ ฿2500.04
- Digital Deluxe Edition ($89.99) ประมาณ ฿3214.44
รวมดิจิทัล Mini-soundtrack ดิจิทัลอาร์ตบุ๊ค และไอเทมที่ดาวน์โหลดได้ รวมถึง “Magic Pot” Summoning Materia อุปกรณ์เสริม “Reclaimant Choker” และชุดเกราะ “Orchid Bracelet” - Digital Deluxe Edition Upgrade ($20) ประมาณ ฿714.40
สามารถซื้อเพื่ออัปเกรด Standard Edition ที่ซื้อก่อนหน้านี้ โดยเพิ่มเนื้อหา Digital Deluxe Edition* - Final Fantasy VII Remake and Final Fantasy VII Rebirth Twin Pack ($99.99) ประมาณ ฿3571.64
แพ็กคู่สุดคุ้มค่าในช่วงสั่งซื้อล่วงหน้า โดยแพ็คคู่ประกอบด้วย Final Fantasy VII Rebirth พร้อมให้ดาวน์โหลดในวันวางจำหน่าย ส่วน Final Fantasy VII Remake Intergrade สามารถดาวน์โหลดเกมตัวเต็มได้ทันทีที่สั่งซื้อ Twin Pack ล่วงหน้า - Final Fantasy VII Rebirth Digital Deluxe Twin Pack ($119.99) ประมาณ ฿4286.04
ประกอบด้วย Final Fantasy VII Remake Intergrade เกมตัวเต็ม พร้อมเนื้อหา Digital Deluxe Edition ทั้งหมด
อ้างอิงจาก Gematsu