รีวิว realme 11 5G , realme 11x 5G และ realme Buds T300

รีวิว สมาร์ตโฟนในตระกูล Number Series รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกันทีเดียว 2 รุ่น กับ realme 11 5G มาพร้อมกับกล้อง 108 ล้านพิกเซล พร้อมอินเซนเซอร์รองรับการซูม 3 เท่า แบบไม่สูญเสียรายละเอียด รวมถึงการชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC และ realme 11x 5G กล้อง 64 ล้านพิเซลและชาร์จ 33W แถมด้วย realme Buds T300 หูฟังไร้สายไดร์เวอร์ใหญ่ พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน

Unbox แกะกล่อง

มาเริ่มต้นกับ รีวิว ชุดนี้ มาดูกันที่แพ็กเกจของ realme 11 5G และ realme 11x 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ตัวกล่อง มาในโทนสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ และตัวหนังสือชื่อรุ่นสีดำชัดเจน

ภายในกล่องมีคู่มือเอกสารการใช้งานเบื้องต้น, การรับประกัน และมีอุปกรณ์มาให้ ทั้งเข็มจิ้มถาดซิม และเคสใสแบบ TPU สำหรับกันตัวเครื่องมีริ้วรอย โดยที่ของ realme 11 5G เป็นสีแบบใส และ realme 11x 5G เป็นสีดำใส

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ส่วนอุปกรณ์ชาร์จจะมีให้เป็นสาย USB-C to USB-A ความยาวประมาณ 1.0 เมตรมาให้ และมีอะแดปเตอร์ชาร์จรองรับ 67W SUPERVOOC มาให้สำหรับ realme 11 5G ส่วนในกล่องของ realme 11x 5G จะรองรับ 33W SUPERVOOC

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

Design ตัวเครื่อง

ทั้ง 2 รุ่นใช้การออกแบบในสไตล์แบบ Glory Halo Design ที่ตัวชุดโมดูลกล้องได้แรงบันดาลใจมาจากนาฬิการะดับพรีเมี่ยม ที่จะนูนขึ้นมาจากฝาหลัง ที่ขอบจะเป็น PVD ขัดเงา และที่รอบขอบพื้นชุดกล้อง จะออกแบบให้เป็นรัศมีล้อมรอบวงแหวนของกล้อง ให้ความรู้สึกเหมือนหน้าปัดของนาฬิกาหรู

พื้นผิวของชุดกล้องจะเป็นสีดำที่มีเอฟเฟกต์ระยิบระยับ มีมิติ และด้านในจะมีชุดกล้อง 2 เลนส์วางเรียงในแนวนอน และไฟ LED อยู่ด้านใน

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

สำหรับสีของสมาร์ตโฟน 2 รุ่นนี้ ใน realme 11 5G จะมีทั้งหมด 2 สีด้วยกันคือ สีทอง Glory Gold และสีดำ Glory Black ส่วนทางด้าน realme 11x 5G จะมี 2 สีคือ สีม่วง Purple Dawn และสีดำ Midnight Black

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

สำหรับสี Glory Gold และ Purple Dawn พื้นผิวของฝาหลังจะเป็นแบบมันวาว จะมีลูกเล่น Starlight Texture กระบวนการหล่อทรายกลิตเตอร์ เมื่อมีแสงตรงกระทบในมุมที่แตกต่าง จะเกิดเอฟเฟกต์แสงรูปทรงตัว S ที่ใช้กระบวนการพิมพ์แผ่นหินเกรดนาโน และไล่โทนสี ทำให้มีความสวยงามแตกต่างไปในทุกมุมมอง

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ส่วนสี Glory Black และ Midnight Black จะเป็นสีดำที่ดูขรึม ลึกลับ แต่ก็มีเอฟเฟกต์เป็นประกายเมื่อมีแสงสะท้อน จึงเป็นสีดำที่ดูน่าค้นหา และผิวสัมผัสจะเป็นแบบด้าน ทำให้เวลาที่จับแล้วไม่เกิดรอยนิ้วมือติดบนตัวเครื่อง

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ขอบเครื่องเป็นดีไซน์แบบเรียบ หนาเพียง 8.05 มิลลิเมตร มีตัดขอบแบบคอนทัวร์เพื่อลบขอบคม ที่ด้านข้างจะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power ที่ด้านขวา โดยที่ปุ่ม Power จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือรวมอยู่ ทำให้เวลากดเปิดหน้าจอก็จะสามารถสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อคได้พร้อมๆ กัน

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ทางฝั่งซ้ายมีช่องของถาดซิม ที่เป็นแบบ 3 ช่อง รองรับใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม (รองรับ 5G ทั้ง 2 ซิม Dual Standby) และมีช่องสำหรับใส่ microSD เพิ่มได้สูงสุดถึง 2TB เอาไว้สำหรับติดตั้งแอป หรือเก็บภาพถ่าย, วิดีโอได้แบบจุใจ

รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ที่ขอบเครื่องด้านบนจะมีช่องของไมโครโฟนที่ 2 สำหรับทำงานในการตัดเสียงรบกวนระหว่างการสนทนา ให้เสียงเวลาคุยโทรศัพท์ ทางปลายสายเราจะได้ยินเสียงพูดเราชัดเจน และมีเสียงรอบข้างเข้ามาน้อยลง

ด้านล่างของเครื่อง จะมีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 นิ้ว, ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB-C สำหรับชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และทางด้านซ้ายสุดจะเป็นช่องลำโพงเสียง

ด้านหน้าตัวเครื่อง หน้าจอขนาด 6.72 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2400×1080) เหลือขอบด้านข้างค่อนข้างน้อย คิดสัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่องถึง 91.40% ค่าความสว่างของจอ 550nits (typ.), 680nits (HBM) ช่่วยให้เวลาใช้งานที่กลางแจ้งมองได้ชัดมากขึ้น

หน้าจอรองรับค่ารีเฟรชเรตสูงสุด 120Hz และ Touch Sampling Rate 240Hz เหมาะสำหรับการใช้งานการเล่นเกม หรือเวลาเลื่อนเปลี่ยนหน้าจอก็ดูลื่นไหลมากขึ้น และยังทำงานแบบไดนามิกได้ 6 ระดับ (120Hz/90Hz/60Hz/50Hz/48Hz/45Hz) โดยระบบจะเลือกปรับให้อัตโนมัติ ตามสถานการณ์ที่ใช้งานอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยประหยัดการใช้พลังงานให้ด้วย

ด้านบนของหน้าจอ ดีไซน์เจาะตรงกลางแบบ Punch-Hole สำหรับกล้องหน้า และที่ขอบด้านบนจะเป็นลำโพงเสียงสนทนา ที่สามารถทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่างเพื่อเล่นเป็นลำโพงคู่แบบสเตอริโอ

ประสิทธิภาพ

realme 11 5G และ realme 11x 5G เป็นแบรนด์แรกที่ได้ใช้ชิปเซตของ MediaTek รุ่น Dimensity 6100+ 5G ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมระดับ 6 นาโนเมตรของ TSMC ประกอบด้วยซีพียูแบบ 8 คอร์ แบ่งเป็น A76 2.2 GHz จำนวน 2 คอร์ และ A55 2.0 GHz จำนวน 6 คอร์ ส่วนหน่วยประมวลผลกราฟิค GPU ใช้เป็น ARM G57 MC2

รีวิว realme 11 5G

จุดเด่นของ รุ่น Dimensity 6100+ 5G ด้านเทคนิคแล้ว ภายในมีจำนวนทรานซิสเตอร์เพิ่มขึ้นถึง 211% โดยที่การใช้พลังงานลดลง 22% ทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่แบตเตอรี่อยู่ได้นานกว่าเก่า

การเชื่อมต่อ 5G มีโหมด Dual SA ให้คุณสามารถใช้งาน 5G ทั้งสองซิมได้พร้อมกัน สเปกด้านความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 3.27Gbps มี Smart 5G ช่วยลดการใช้พลังงานลงถึง 30% และ 5G Low Power Smart Hotspot ช่วยให้คุณสามารถแชร์การเชื่อมต่อ 5G ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมด ด้วยการปรับการใช้พลังงานของฮอตสปอตแบบไดนามิกตามสถานการณ์การใช้งานของคุณแบบเรียลไทม์ ใช้พลังงานลดลง 32% เมื่อเทียบกับเครือข่าย 2.4GHz

รีวิว realme 11 5G

หน่วยความจำ RAM ให้มา 8GB พร้อมด้วยฟีเจอร์ Dynamic RAM เปลี่ยนพื้นที่ว่างใน ROM มาใช้งานเป็น Virtual RAM ได้สูงสุด 8GB รวมเป็น 16GB ทำให้คุณเปิดใช้งานหลายๆ แอปได้พร้อมกัน และช่วยให้การทำงานได้ลื่นไหลมากยิ่งขึ้น

พื้นที่ ROM สำหรับเก็บข้อมูลใน realme 11 5G ให้มาใหญ่ถึง 256GB ส่วน realme 11x 5G จะให้มา 128GB แต่ถ้ารู้สึกว่ายังไม่พอใช้ ทั้ง 2 รุ่นยังให้คุณ microSD เพิ่มได้อีก โดยรองรับความจุมากถึง 2TB กันไปเลย

เราได้ทดสอบลองเล่นเกมใหม่อย่าง Monster Hunter Now ที่มีกราฟิคที่สวยและการควบคุมที่ต้องเคลื่อนไหวอย่างว่องไว เราเปิดโหมด Pro Gamer และเล่นในแบบ 30fps เพื่อให้การเล่นสามารถควบคุมได้อย่างคล่องตัว

มาดูกันเรื่องของพลังงานกันบ้าง ทั้ง 2 รุ่นใส่แบตเตอรี่มาให้ความจุ 5000mAh ถือว่าใหญ่เหลือเฟือสำหรับการใช้งานตั้งแต่เช้ายันเย็นได้แบบสบายๆ

รีวิว realme 11 5G

ระบบการชาร์จไวใส่มาให้ครบทั้งคู่ ใน realme 11 5G ให้มาเป็น 67W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 1-50% ได้ภายใน 17 นาที และชาร์จจาก 1-100% ภายใน 47 นาที ถือว่าเร็วมากๆ ส่วนใน realme 11x 5G ให้มาเป็น 33W SUPERVOOC สามารถชาร์จจาก 1-50% ในเวลาเพียง 29 นาที

จุดเด่นของระบบชาร์จไว SUPERVOOC นอกจากจะชาร์จไฟให้กับแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังมั่นใจได้กับการป้องกันถึง 38 ระดับ เพิ่มมาตรการความปลอดภัย 38 ประการ ตั้งแต่ตัวอะแดปเตอร์, สายชาร์จ, พอร์ต และแบตเตอรี่ ให้การชาร์จเร็วได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหา

รวมถึงยังมี VCVT อัลกอริธึมอัจฉริยะที่ช่วยปรับแรงดันและกระแสไฟระหว่างการชาร์จ เพื่อช่วยรักษาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้มีการสูญเสียน้อยลง ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น

กล้อง

รีวิว realme 11 5G

ระบบกล้องของ realme 11 5G และ realme 11x 5G ตัวกล้องหน้าเซลฟี่ ให้มาความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลังจะเป็นระบบกล้องคู่

  • realme 11 5G กล้องหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 ทำงานร่วมกับ กล้อง Portrait 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • realme 11+ 5G กล้องหลัก AI ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79 ทำงานร่วมกับ กล้อง Portrait 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ถ้าดูสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นที่มีอยู่ในท้องตลาดในกลุ่มราคาเดียวกัน จะให้กล้องหลักมาที่ประมาณ 50MP แต่ realme 11 5G จัดมาให้เบิ้ลเป็น 2 เท่าที่ 108MP ที่นอกจากจะได้ความละเอียดของภาพที่คมชัดสูงแล้ว ยังมีเทคโนโลยีซูมแบบ “อินเซ็นเซอร์” ที่ให้คุณภาพการซูมระดับ 3x ได้คมชัดเทียบเท่าระดับออปติคัล ให้ภาพซูมที่คมชัดและไม่สูญเสียรายละเอียด และซูมแบบดิจิทัลได้สูงสุด 25x

ตัวอย่างภาพถ่าย 108MP ที่สามารถเก็บรายละเอียดภายในภาพได้อย่างคมชัด

ทางด้าน realme 11+ 5G ก็ยังให้กล้องที่สูงกว่าสมาร์ตฟนทั่วไปในท้องตลาด ด้วยกล้องหลัก AI 64MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/2 นิ้ว ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีซูมแบบ “อินเซ็นเซอร์” ที่ซูมในระดับ 2x ได้เทียบเท่าระดับออปติคัล โดยที่ภาพคมชัดไม่สูญเสียรายละเอียด

เมื่อคุณสามารถเลือกปรับซูมภาพได้หลายระดับ ก็เหมือนคุณพกกล้องพร้อมกับเลนส์หลายระยะ เพื่อใช้เก็บภาพในระยะ focal ที่ต่างกันไป ซึ่งในแต่ระยะก็จะให้อารมณ์ของภาพที่ต่างกัน

โหมด Street ถือเป็นเอกลักษณ์ในสมาร์ตโฟนของ realme ที่ใช้แล้วคุณจะชอบ ด้วยการปรับแต่งเพื่อควบคุมการถ่ายภาพที่หลากหลายได้อย่างง่ายดาย

การซูมภาพจะมีให้เลือกแตะเพื่อเปลี่ยนระยะเลนส์ระหว่าง 24mm กับ 72mm (สำหรับ realme 11 5G) และ 24mm กับ 48mm (สำหรับ realme 11+ 5G) และมีโหมด Zoom อัจฉริยะ ที่เมื่อเรากดแตะในหน้าจอ กล้องจะทำการซูมไปที่ตำแหน่งนั้น โดยกำหนดในระยะที่วางเฟรมให้สวยงาม ทำให้เวลาที่ต้องการถ่ายภาพ สามารถเลือกเฟรมได้ง่ายและรวดเร็วมากขึ้น

นอกจากนี้ในโหมด Street ก็มีเพิ่มฟิลเตอร์ใหม่ 3 สไตล์ ให้การถ่ายภาพมีความสวยงามมากขึ้น

  • Tranquil (สงบเงียบ) : ฟิลเตอร์ขาวดำ ส่วนที่มืดของภาพก็มีรายละเอียดที่สมบูรณ์และคอนทราสต์เพียงพอ
  • Crisp (สดชื่น) : สร้างบรรยากาศที่สะอาดตาโดยการเพิ่มโทนสีน้ำเงินโทนเย็นในบริเวณไฮไลท์ของภาพ
  • Cinematic (ภาพยนตร์) : เน้นบุคลิกภาพผ่านคอนทราสต์และคอนทราสต์ที่ชัดเจนระหว่างแสงและความมืด

ตัวอย่างภาพถ่ายโหมด Street

การถ่ายภาพกลางคืน Super Nightscape ด้วยคุณสมบัติในเซ็นเซอร์ 108MP ของ realme 11 5G ที่มีเทคโนโลยี 9-in-1 binning เป็นการรวม 9 พิกเซลเป็น 1 ซูเปอร์พิกเซลขนาดใหญ่ ทำให้การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย มีความสว่างมากขึ้น สีสันที่สดใสมากขึ้น และยังควบคุมค่า ISO ให้สว่างมากขึ้น โดยที่มี Noise เกิดในภาพน้อยลงอีกด้วย

เปรียบเทียบการถ่ายภาพ ระหว่างการถ่ายโดยไม่ได้ใช้โหมดกลางคืน กับใช้โหมด Nightscape จะเห็นว่า ภาพที่ได้จะคมชัดทั้งภาพ แสงเงาชัดเจน ไม่มีส่วนที่สว่างจ้าจนพร่า ส่วนที่เป็นเงามืดก็จะสว่างขึ้นเห็นสีสันและรายละเอียด

รวมถึงยังมีฟิลเตอร์ให้เลือกเพื่อสร้างสีสันของภาพถ่ายกลางคืนที่สวยงามแปลกตา

การถ่ายภาพ Portrait ยังคงมั่นใจได้กับโทนสีและสกินโทนที่เลือกปรับแต่งได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีให้เลือกปรับค่าความกว้างของรูรับแสงเพื่อปรับเบลอฉากหลังได้มากน้อยตามที่ต้องการ

ส่วนของการถ่ายเซลฟี่กล้องหน้า ในโหมด Portrait ก็สามารถปรับเบลอฉากหลังได้สวยงาม และปรับแต่งใบหน้าของเราได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีลูกเล่นของ Bokeh Flare Effect ที่ช่วยให้การถ่ายภาพพอร์ตเทรตกล้องหลัง สร้างไฟดวงโบเก้ที่สวยงามที่ฉากหลังอย่างสวยงาม เหมือนกับใช้เลนส์กล้องระดับโปรถ่าย

ข้อมูล สเปก realme 11 5G

  • ขนาด : 165.7 x 76.0 x 8.05 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • มีให้เลือก 2 สี : Glory Gold / Glory Black
  • หน้าจอ : 6.72 นิ้ว FHD+ (2400×1080)
    • สัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่อง 91.40%
    • Refresh Rate: Up to 120Hz
    • Touch Sampling Rate: 240Hz
    • Maximum brightness: 550nits (typ.), 680nits (HBM)
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 6100+ 5G
    • CPU: 6nm TSMC Process, Octa-core, 2x A76 2.2 GHz, 6x A55 2.0 GHz
    • GPU: ARM G57 MC2
  • หน่วยความจำ 8GB (เพิ่ม Dynamic RAM ได้อีก 8GB)
  • พื้นที่เก็บข้อมูล : 256GB เพิ่ม microSD สูงสุด 2TB
  • กล้องหน้า : 16 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง : 2 กล้อง
    • กล้องหลัก 108 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.75 เซ็นเซอร์ HM6
    • กล้อง Portrait 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง
  • เครือข่าย 5G รองรับ 2 ซิม Dual SA
  • เชื่อมต่อไร้สาย : WiFI 2.4/5GHz, Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13

ข้อมูล สเปก realme 11x 5G

  • ขนาด : 165.7 x 76.0 x 8.05 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 190 กรัม
  • มีให้เลือก 2 สี : Purple Dawn, Midnight Black
  • หน้าจอ : 6.72 นิ้ว FHD+ (2400×1080)
    • สัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่อง 91.40%
    • Refresh Rate: Up to 120Hz
    • Touch Sampling Rate: 240Hz
    • Maximum brightness: 550nits (typ.), 680nits (HBM)
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 6100+ 5G
    • CPU: 6nm TSMC Process, Octa-core, 2x A76 2.2 GHz, 6x A55 2.0 GHz
    • GPU: ARM G57 MC2
  • หน่วยความจำ 8GB (เพิ่ม Dynamic RAM ได้อีก 8GB)
  • พื้นที่เก็บข้อมูล : 128GB เพิ่ม microSD สูงสุด 2TB
  • กล้องหน้า : 8 ล้านพิกเซล
  • กล้องหลัง : 2 กล้อง
    • กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.79
    • กล้อง Portrait 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • แบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 33W SUPERVOOC
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างเครื่อง
  • เครือข่าย 5G รองรับ 2 ซิม Dual SA
  • เชื่อมต่อไร้สาย : WiFI 2.4/5GHz, Bluetooth 5.2
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 4.0 บนพื้นฐาน Android 13

สรุป รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G รุ่นไหน เหมาะสำหรับใคร?

เรื่องแรกในเรื่องของดีไซน์ ดูเรียบๆ แต่ก็สวยเด่นโดยเฉพาะตัวโมดูลกล้องหลังที่มีความปราณีตในการทำลวดลายแบบนาฬิกา รวมถึงเอฟเฟกต์ Glory Halo Design ที่มีขึ้นเงาโค้งเป็นรูปตัว S ที่ดูสวยงาม รวมถึงขนาดและน้ำหนักเครื่องที่อยู่ในระดับกำลังดี ถือจับได้เข้ามือ

หน้าจอเป็น 120Hz แบบ Dynamic ลื่นไหลปรับค่าตามคอนเทนต์ที่เปิดใช้งาน สีสันความคมชัดขนาดใหญ่เต็มตาสำหรับการดูคอนเทนต์ต่างๆ ส่วนแบตเตอรี่ 5000mAh ที่มีระบบชาร์จเร็วมาให้ทั้ง 2 รุ่น ทำให้หมดกังวลไปได้เลยเกี่ยวกับการใช้งาน สามารถอยู่ได้เต็มวัน แถมยังใช้เวลาในการชาร์จไม่นาน

ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไปคือไม่มีปัญหา ตัว RAM ให้มา 8GB แล้วปรับ Dynamic RAM ได้อีก 8GB ช่วยให้เปิดใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้สบาย พื้นที่เก็บข้อมูลสามารถเพิ่ม microSD รองรับได้ถึง 2TB และการใช้ 5G ก็รวดเร็วและยังรองรับใช้ 5G ได้พร้อมกันทั้ง 2 ซิม

การทดสอบ รีวิว realme 11 5G ตัวกล้อง 108MP ทำได้น่าประทับใจมาก เพราะช่วยให้การถ่ายภาพได้คุณภาพคมชัดดีมาก ความสามารถการซูม 3 เท่าแบบไม่สูญเสียความคมชัด ช่วยปลดล็อคขีดจำกัดของระยะการถ่ายภาพ ให้เราเลือกถ่ายในระยะไกลได้ รวมกับความสามารถการถ่ายโหมดกลางคืนที่ได้สีสันสดใสรายละเอียดคมชัด และที่ชอบที่สุดกับโหมด Street ที่ให้คุณ snap เก็บภาพต่างๆ ได้สะดวก ง่าย และลูกเล่นการถ่ายที่สนุกมาก

ในเรื่องของกล้องก็จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ตรงที่ทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่มีกล้องระยะ Ultra-wide ทำให้ขาดมุมมองการถ่ายภาพในระยะ 0.6x ไป

โดยรวมแล้ว realme 11 5G และ realme 11x 5G อัปเกรดสเปกมาให้น่าใช้มากขึ้น สมกับสโลกแกน Double Star Double Leap ดีขึ้นเป็น 2 เท่าของมาตรฐานสมาร์ตโฟน

ส่วนรุ่นไหนเหมาะกับใคร โดยพื้นฐานแล้ว realme 11x 5G ก็ถือว่าโอเคคุ้มค่าน่าใช้แล้ว แต่ถ้าใครอยากอัพเพิ่มประสบการณ์ด้านของกล้อง ROM และการชาร์จไวที่ดีขึ้นไปอีกขั้น ก็แนะนำว่าจัด realme 11 5G ไปได้เลย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

realme Buds T300

รีวิว realme 11 5G

เปิดตัวมาพร้อมกับ realme 11 5G และ realme 11x 5G กับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ รูปทรงในการสวมใส่แบบ In-ear มาในดีไซน์ที่เพรียวบาง ตัวหูฟังออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อให้สวมใส่ได้สบาย น้ำหนักเพียงแค่ 4.1 กรัม มีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ Stylish Black และ Youth White

รีวิว realme 11 5G

ตลับเคสออกแบบเป็นสีแบบทูโทน กับตัวที่เราได้มา รีวิว จะเป็นสี Stylish Black ที่ข้างนอกเป็นสีดำด้าน ส่วนด้านในเป็นสีน้ำตาลกากี

รีวิว realme Buds T300

ที่ด้านหลังของก้านหูฟังจะมีเซ็นเซอร์แบบสัมผัส เพื่อใช้สั่งงานระหว่างฟังเพลง

  • แตะ 2 ครั้ง : เล่น/หยุดเพลง , รับสาย-วางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง : Skip ไปเพลงต่อไป
  • แตะค้าง 2 วินาที : สลับโหมด Noise Control และ Transparency / ปฏิเสธสายโทรเข้า
  • แตะค้าง 4 วินาทีที่หูฟังทั้ง 2 ข้างพร้อมกัน : เปิดโหมด Pairing เพื่อเชื่อมต่อ

เรื่องของประสิทธิภาพ มาพร้อมกับจุดเด่นด้วย Dynamic Bass Driver ขนาด 12.4 mm อัพเกรดเพิ่มจากเดิมถึง 24% เป็นไดรเวอร์เสียงขนาดใหญ่กว่าหูฟังไร้สายรุ่นทั่วไปที่มักจะให้มาในขนาด 10 mm ทำให้คุณภาพเสียงของ realme Buds T300 ส่งเสียงเบสได้เต็มอิ่ม มีเวทีเสียงที่ไพเราะ และส่วนของเสียงร้องก็คมชัดเจน

พร้อมกันนี้ ตัวไดอะแฟรมยังมีการเคลือบไทเทเนียมเพื่อเพิ่มความแข็ง พร้อมขดลวด HTW และแม่เหล็ก N52 แรงดึงสูง เข้ามาช่วยยกระดับเสียงของ realme Buds T300 ให้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งตัวหูฟังส่วนหัว HRTF ยังสามารถสร้างอัลกอริธึมเสียงได้อย่างอิสระ และสร้างประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์แบบ 360 องศา ให้ประสบกาณเสียงรอบทิศทาง ที่จำลองพื้นที่มาจากโรงภาพยนตร์ พร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos ให้การเล่นเกม ดูภาพยนตร์หรือซีรีย์ เพื่อให้เอฟเฟกต์เสียงที่โอบล้อม

รีวิว realme Buds T300

realme Buds T300 มีระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้างแบบแอคทีฟ (Active Noise Cancellation) ได้สูงสุดที่ 30 เดซิเบล โดยมีการออกแบบไมโครโฟนแบบ Feed Foward คลื่นอะคูสติกที่สะท้อนออกมาเพื่อชดเชยเสียง ทำให้ในการฟังเพลงมีเสียงเข้ามารบกวนน้อยลง ให้คุณดื่มด่ำกับเสียงได้อย่างเต็มอารมณ์

ส่วนการสนทนาก็มีระบบตัดเสียงรบกวนให้ด้วยเช่นกัน โดยจะใช้การประมวลผลเสียงจากไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัว เพื่อแยกเสียงพูดของเรากับเสียงแวดล้อมรอบด้านออก ให้ปลายสายได้ยินเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น

รีวิว realme Buds T300

ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐาน Bluetooth 5.3 ทำให้มีค่าความหน่วงของเสียงที่ต่ำเพียงแค่ 50ms ช่วยให้เวลาเล่นเกม หรือดูคลิปดูซีรีย์ เสียงและภาพจะไม่มีการดีเลย์

อายุการใช้งานเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม สามารถใช้ฟังเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ จะใช้ได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง พร้อมทั้งยังมีโหมดชาร์จด่วน เมื่อเสียบชาร์จเพียงแค่ 10 นาที ก็จะได้แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับฟังเพลงต่อได้ถึง 7 ชั่วโมง

ข้อมูล สเปก realme Buds T300

  • หูฟังน้ำหนักเบา 4.1 กรัม (ต่อข้าง)
  • มีให้เลือก 2 สี Stylish Black และ Youth White
  • Dynamic Bass Driver ขนาด 12.4mm เคลือบไทเทเนียม
  • เอฟเฟกต์เสียงแบบ 360° 3D
  • รองรับ Dolby Atmos
  • ตัดเสียงรบกวน ANC แบบแอคทีฟสูงสุด 30dB
  • มีระบบตัดเสียงรบกวนการโทร
  • Bluetooth 5.3 ค่าความหน่วงต่ำพิเศษ 50ms
  • กันน้ำกันฝุ่น IP55
  • แบตเตอรี่ 43mAh (หูฟัง) 460mAh (เคสชาร์จ) เล่นได้ 5 ชั่วโมง ใช้รวมกับเคสชาร์จได้ 40 ชั่วโมง
  • ชาร์จเร็ว 10 นาที ใช้ได้นาน 7 ชั่วโมง
รีวิว realme 11 5G และ realme 11x 5G

ราคา และ โปรโมชัน realme 11 5G , realme 11x 5G และ realme Buds T300

realme 11 5G (8+256GB) ราคา 8,999 บาท และ realme 11x 5G (8+128GB) ราคาเพียง 6,999 บาท เปิดให้สั่งจอง พรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 กันยายน 2566

หูฟัง realme Buds T300 ราคา 1,199 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2566 เป็นต้นไป

โปรโมชัน ผ่าน realme Brand Shop ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

  • รับฟรี! Phone Case Gift Box (มูลค่า 999.- )
  • 14″ Crossbody Bag (มูลค่า 1,199.-)
  • สิทธิ์แลกซื้อ* realme Buds T300 ในราคาพิเศษเพียง 999.-

realme 11 5G ราคาพร้อมแพคเกจ เริ่มต้นต่ำสุดเพียง 5,299 บาท และ realme 11x 5G เริ่มต้นต่ำสุดเพียง 3,399 บาท เมื่อซื้อผ่านผู้ให้บริการ AIS True และ Dtac เปิดพรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 กันยายน 2566

  • รับฟรี!* Phone Case Gift Box (มูลค่า 999.- )
  • 14″ Crossbody Bag (มูลค่า 1,199.-)
  • พิเศษ! สิทธิ์แลกซื้อ* realme Buds T300 ในราคาพิเศษเพียง 999.- เฉพาะที่ช็อป TRUE 5G เท่านั้น

โปรโมชัน สั่งซื้อผ่าน Lazada เท่านั้น realme 11 5G (8+256GB) ราคาเพียง 8,999 บาท พรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 21 – 24 ก.ย. 66

  • รับฟรี! คูปองส่วนลด 500.- (*จำนวนจำกัด)
  • Phone Case Gift Box (มูลค่า 999.- )
  • 14″ Crossbody Bag (มูลค่า 1,199.-)
  • สิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ในราคาพิเศษเพียง 999.-
  • คลิก : https://bit.ly/3riRAKX

โปรโมชัน สั่งซื้อผ่านออนไลน์ Shopee เท่านั้น realme 11x 5G (8+128GB) ราคาเพียง 6,999 บาท พรีออเดอร์ ตั้งแต่วันที่ 21 – 24 ก.ย. 66

  • Phone Case Gift Box (มูลค่า 999.- )
  • 14″ Crossbody Bag (มูลค่า 1,199.-)
  • สิทธิ์แลกซื้อ realme Buds T300 ในราคาพิเศษเพียง 999.-
  • คลิก : https://bit.ly/3EOoWVc

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน