รีวิว Kingston XS1000 External SSD ไดร์ฟพกพาขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียงแค่ 29 กรัม เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ เพื่อสำรองข้อมูล ด้วยความเร็วสูงถึงระดับ 1050MB/s เหมาะสำหรับใครที่มองหาโซลูชันของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบพกพา ที่ต้องการเน้นเรื่องของพื้นที่ความจุปริมาณมาก ถ่ายโอนข้อมูลได้รวดเร็ว และรองรับใช้งานได้ในหลากหลายอุปกรณ์ ราคา เริ่มต้น 2,790 บาท
Kingston External SSD รุ่น XS1000 ต้องบอกว่าตัวของมันค่อนข้างเล็ก ตัวไดร์ฟวัสดุจะเป็นพลาสติกและมีส่วนที่เป็นโลหะ เพื่อช่วยระบายความร้อนระหว่างทำงานได้ดีขึ้น มีให้เลือกด้วยกันถึง 2 ความจุคือ 1TB และ 2 TB
แกะกล่องมากับตัวของแพ็กเกจ เป็นกระดาษล้วนๆ 100% นำไปทิ้งเพื่อรีไซเคิลได้ง่าย ในกล่องนอกจากตัวไดร์ฟแล้ว จะมีสายแบบ USB-A to USB-C และ USB-C to USB-C ที่รองรับมาตรฐาน USB 3.2 Gen 2 มาให้ ตัวสายมีหุ้มแบบถักเพื่มความคงทานมากขึ้น
ที่ตัวเครื่องบริเวณข้างๆ พอร์ต USB-C จะมีไฟ LED แสดงสถานะการทำงานอยู่ด้วย
การใช้งาน อย่างที่บอกไปว่ามันรองรับใช้ได้กับสารพัดอุปกรณ์ สำหรับคอมพิวเตอร์ใช้งานได้ทั้งระบบ Windows 10, Windows 11, macOS (ตั้งแต่เวอร์ชั่น 10.15.x ขึ้นไป), Linux และ ChromeOS
ส่วนกับอุปกรณ์พกพา ก็ใช้ได้หมดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตระบบ Android หรือจะเป็น iPadOS บน iPad และล่าสุด กับ iOS บน iPhone 15 ทุกรุ่นก็ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน
ด้วยมาตรฐานอินเทอร์เฟสเป็น USB 3.2 Gen 2 ทำให้การใช้งานถ่ายโอนข้อมูลที่เร็วมาก โดยที่ตามสเปคความเร็วในการอ่านสูงสุดอยู่ที่ 1,050MB/s และความเร็วในการเขียนสูงสุดที่ 1,000MB/s
ต่อกับ iPad Pro ที่เป็นพอร์ต USB-C เข้าไปจัดการไฟล์ต่างๆ ได้ผ่านแอป File ได้เลย
Kingston XS1000 External SSD เหมาะสำหรับใคร?
เหมาะมากๆ สำหรับใครที่ต้องการอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ และมีเวิร์คโฟลว์ในการทำงานที่จำเป็นต้องโอนถ่ายย้ายข้อมูลขนาดใหญ่ข้ามไปข้ามมาระหว่างอุปกรณ์บ่อยๆ โดยที่ USB Flash Drive หรือว่า External HDD แบบจานหมุน ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เพราะความเร็วในการโอนย้ายข้อมูลของไดร์ฟแบบ HDD นั้นจะอยู่ที่มาตรฐาน USB 3.0 แถมตัวไดร์ฟยังมีขนาดที่ใหญ่ และสายที่ต่อจะได้เฉพาะแบบ USB-A เป็นหลักเพียงอย่างเดียว
และถ้าใครที่ใช้ iPhone 15 โดยเฉพาะรุ่น Pro และ Pro Max บอกเลยว่า Kingston XS1000 External SSD จะช่วยทำให้ชีวิตการทำงานโปรดักชันบนสมาร์ทโฟนคล่องมือขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะตอนนี้พอร์ตใน iPhone 15 ทุกรุ่นเปลี่ยนเป็น USB-C คุณสามารถเอา SSD เสียบก็สามารถอ่านเขียนข้อมูลผ่านแอป File ได้ทันที
รวมไปถึงการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงระดับ ProRES ที่มีฟีเจอร์บันทึกไฟล์ลงใน External HDD โดยตรงได้ เจ้านี่คือเหมาะมาก เพราะคุณสามารถถ่ายวิดีโอด้วยไอโฟนเสร็จ แล้วก็ถอดไดร์ฟไปเสียบในคอมพิวเตอร์เพื่อตัดต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาโยนไฟล์ หรืออัปโหลดขึ้นคลาวด์
เสียบใช้งานกับ iPhone 15 Pro Max ทดสอบสปีคความเร็วถือว่าเร็วดีมาก
รวมถึงความเร็วในการเขียนอ่านที่มากกว่า 1000MB/s ถ้าเป็นงานคลิปสำหรับอัพขึ้นโซเชียล หรืองานตัดคลิปสั้นๆ ความละเอียดประมาณ FullHD คุณสามารถใช้ตัดวิดีโอโดยตรงไม่ต้องโอนเข้าคอมก่อนเลยก็ได้
Kingston XS1000 External SSD มีการรับประกัน (แบบจำกัดเงื่อนไข) ให้ 5 ปี พร้อมบริการด้านเทคนิคฟรี โดยมีให้เลือกได้ 2 ความจุคือ
- รุ่นความจุ 1TB ราคา 2,790 บาท
- รุ่นความจุ 2TB ราคา 4,390 บาท
สำหรับราคาถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่แพงมากนัก ใครที่ใช้ External HDD แบบจานหมุนแล้วรู้สึกว่าใหญ่เกินกว่าจะพกพาไปทำงานนอกบ้าน แถมความเร็วก็ช้า ลองมาใช้เป็น External SSD กันดู บอกเลยว่าชีวิตการทำงานคุณจะดีขึ้นอีกเยอะ
สามารถหาซื้อผ่าน ร้านค้าทางการบนช่องทางออนไลน์ของ Lazada และ Shopee รวมถึงตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการและร้านไอทีชั้นนำทั่วประเทศ
ข้อมูล รีวิว ด้านเทคนิคของ Kingston XS1000 External SSD
- อินเทอร์เฟซ : USB 3.2 Gen 2
- ความเร็ว : อ่านสูงสุด 1,050MB/s
- เขียนสูงสุด : 1,000MB/s
- ความจุ : 1TB, 2TB
- ขนาด : 69.54 x 32.58 x 13.5 มม.
- น้ำหนัก : 28.7 ก.
- วัสดุสำหรับเคส : โลหะ + พลาสติก
- อุณหภูมิการทำงาน : 0°C~40°C
- อุณหภูมิในการจัดเก็บ : -20°C~85°C