รีวิว OPPO A18 สมาร์ตโฟนน้องเล็ก สเปคคุ้มค่า ได้ครบทั้งดีไซน์สวย หน้าจอ AMOLED 90Hz ใช้งานลื่นไหล มี ROM 128GB RAM Expansion 4GB+4GB ให้คุณใช้งานเต็มประสิทธิภาพนาน 36 เดือน
สวัสดีครับ วันนี้ล้ำหน้าโชว์ฯ เรามีสมาร์ตโฟนรุ่นระดับเริ่มต้น สำหรับใครที่กำลังมองหามือถือ ราคาไม่เกิน 5,000 บาท กับ OPPO A18 ที่เปิดราคามาเพียง 4,499 บาท เท่านั้น ก่อนอื่นมาดูสเปคคร่าว ๆ ของรุ่นนี้กันก่อน
สเปค OPPO A18
- หน้าจอ
- AMOLED ขนาด 6.56 นิ้ว HD+ (1612 x 720)
- รีเฟรชเรต 90Hz
- พื้นที่จอต่อขนาดเครื่อง 89.8%
- Color Saturation 96% NTSC
- Color Gamut 96%
- ค่าความสว่างสูงสุด 720 nits
- ตัวเครื่องหนา 8.16 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 188 กรัม
- ชิปเซต MediaTek Helio G85
- ROM 128GB
- RAM 4GB รองรับ RAM Expansionได้อีก 4GB รวมเป็นสูงสุด 8GB
- กล้องหน้า 5MP
- กล้องหลังคู่ : กล้องหลัก 8MP, กล้องโบเก้ 2MP
- แบตเตอรี่ 5000mAh
- สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง
- ระบบเสียง มี Ultra Volume เร่งเสียงเพิ่มได้สูงสุด 300%
- ระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.1 บนพื้นฐาน Android 13
- มีให้เลือก 2 สี : Glowing Blue และ Glowing Black
Unbox OPPO A18
แพ็กเกจมาในกล่องกระดาษสีขาว ไม่มีการเคลือบมัน และในบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดไม่มีวัสดุที่เป็นพลาสติก ในกล่องจะมีตัวเครื่องที่ห่อซีลด้วยกระดาษไข ทำให้สามารถนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ง่าย โดยที่ภายในกล่องจะมี
- ตัวเครื่อง OPPO A18
- เคสใสวัสดุ TPU
- เข็มสำหรับจิ้มถาดซิม
- เอกสารคู่มือการใช้งานเริ่มต้น และการรับประกัน
- สาย USB-A to USB-C
- อะแดปเตอร์ชาร์จ
ประสิทธิภาพ
ชิปเซ็ตใน OPPO A18 ใช้ MediaTek Helio G85 ผลิตบนกระบวนการระดับ 12nm ให้ประสิทธิภาพในการทำงานและประหยัดพลังงานที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อน ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูล ตัว ROM ติดตั้งภายในเครื่องขนาด 128GB พร้อมรองรับเพิ่ม microSD ได้สูงสุดถึง 1TB
หน่วยความจำให้มา 4GB ให้คุณใช้งานหลายแอปพร้อมกันได้ลื่นไหลมากขึ้นด้วย RAM Expansion ที่จะเปลี่ยนพื้นที่ ROM ที่วางอยู่มาใช้งานเป็น RAM แบบเสมือน ที่เลือกปรับได้ตั้งแต่ 1GB, 2GB และ 4GB
จอสวย ไม่กลัวแดด สู้แสง Sunlight Display
OPPO A18 หน้าจอขนาด 6.56 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1612 x 720) ถือว่าค่อนข้างใหญ่เลยทีเดียว ถูกใจคนชอบดูหนังดูซีรีย์ ที่ด้านบนจะมีเว้นช่องแบบหยดน้ำ สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 5MP
OPPO ให้หน้าจอในรุ่นนี้มาเป็น Sunlight Display ที่มีค่าความสว่างสูงสุดถึง 720nits ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแสงกลางแจ้งแดดจ้า ก็ยังมองเห็นได้ชัด และยังแสดงผลช่วงสี 96% NTSC สีสันจึงอยู่ในระดับที่สดใส
การใช้งานต่างๆ ให้ภาพที่ไหลลื่น กับหน้าจอที่มีรีเฟรตเรตสูง 90Hz เวลาเลื่อนอ่านหน้าฟีด ให้ความลื่นไหลมากขึ้น เพิ่มด้วยระบบ All-Day AI Eye Comfort ช่วยปรับหน้าจอให้สามารถมองได้สบายตาตลอดทั้งวัน
ด้านข้างตัวเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง ที่รุ่นนี้สามารถปรับเพิ่มเสียงในโหมด Ultra Volume ได้สูงสุดถึง 300% โดยที่คุณภาพเสียงไม่ลดลง เหมาะสำหรับเวลาที่อยู่นอกสถานที่ หรือบนท้องถนนแล้วมีเสียงรบกวนมากๆ ก็ยังสามารถได้ยินเสียงจากลำโพงตัวเครื่องได้
36 Month FluencyProtection
OPPO A18 ผ่านการทดสอบจากในห้องแล็ป ด้วยมาตรฐานที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแม้ว่าจะใช้งานเครื่องไปนานๆ ประสิทธิภาพของตัวเครื่องจะยังอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน จากการทดสอบพบว่า หลังจากการใช้งานทุกวันเป็นเวลา 3 ปี อัตราการเสื่อมสภาพของฮาร์ดแวร์และแบตเตอรี่มีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 10% เลยทีเดียว
และให้การใช้งานแอปต่างๆ บนสมาร์ตโฟนลื่นไหล ยังมีระบบ Dynamic Computing Engine ที่เข้ามาพัฒนาประสิทธิภาพด้านการประมวลผล จัดสรรทรัพยากรทั้งพื้นที่ RAM และ ROM ให้สามารถเรียกใช้งานแอปที่ต้องการโหลดหนักๆ ได้อย่างไม่มีปัญหา พร้อมควบคุมเรื่องอุณหภูมิระหว่างทำงานไม่ให้สูงเกินไป เพื่อรักษาความเสถียรในการทำงาน และยังช่วยจัดการทำงานแอปที่อยู่เบื้องหลัง ให้สลับขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
แบตเตอรี่ 5000mAh อยู่ข้ามวันได้สบาย
ถูกใจคนที่อยากได้มือถือที่ชาร์จเต็มแล้วใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เพราะ OPPO A18 ให้แบตเตอรี่มามากถึง 5000mAh ตามสเปคทางออปโป้บอกว่า ใช้งานไปแล้ว 12 ชั่วโมง ยังมีแบตเหลืออีกมากกว่า 20%
ยังมีระบบ All-day Charging Protection ใช้ AI เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของผู้ใช้และกำหนดเวลาการชาร์จอย่างชาญฉลาด เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของอุปกรณ์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างการชาร์จข้ามคืนหรือเป็นระยะเวลานาน และ All-day AI Power Saving ในกรณีที่แบตเตอรี่เหลือน้อย ตัวเครื่องจะสามารถปรับให้สแตนด์บายเพื่อรอรับสายได้นานถึง 25 ชั่วโมง แม้ว่าแบตเตอรี่จะเหลือเพียงแค่ 5%
ดีไซน์สวย บาง ทนทาน จับกระชับ
OPPO A18 ตัวเครื่องใช้ดีไซน์แบบขอบเหลี่ยมสุดคลาสิก ที่ใช้ตัวเฟรมเครื่องแบบแบนและขอบเรียบ ทำให้ตัวเครื่องดูสวยงามมีสไตล์ และมีความหนาเพียง 8.16 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 188 กรัม ส่วนตัวผมชอบกับดีไซน์นี้ของออปโป้ เพราะว่ามันถือจับได้เข้ามือดีมาก รวมถึงตัวเครื่องมาขนาดและน้ำหนักกำลังดี ยิ่งทำให้ถือใช้งานได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว
ด้านหลังดีไซน์พื้นผิวแบบ OPPO Glow อันเป็นเอกลักษณ์ ที่ให้ความสวยงามแบบมีมิติ นุ่มนวลและละเอียดอ่อน โดยจะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือ
สีฟ้า Glowing Blue ใช้ดีไซน์พิเศษของ OPPO Glow เกิดเป็นเอฟเฟกต์คล้ายเพชที่ด้านหลังเครื่อง ตัวสีที่เป็นเอกลักษณ์มีลักษณะคล้ายผืนทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ และเมื่อมีแสงกระทบในมุมที่แตกต่าง ก็จะเปิดสีสันที่เปลี่ยนไปในแต่ละมุมมอง
สีดำ Glowing Black ด้วยกระบวนการ OPPO Glow ทำให้เกิดสีดำที่ดูยิ่งใหญ่ น่าค้นหา ด้วยพื้นผิวสัมผัสที่เป็นแบบด้าน
ลูกเล่นที่ฝาหลัง จะมีเอฟเฟ็กต์สีที่แตกต่างกันระหว่างฝาหลังที่เป็นสัมผัสแบบด้าน และกรอบบริเวณโมดูลกล้องที่มีความมันวาว ทำให้มีความซ้อนเหลือบที่จะมองเห็นเวลาที่แสงตกกระทบ
โดยที่ตัวโมดูลกล้องจะเป็นจะวางอยู่บนฐานสีดำขอบเงิน ภายในจะแบ่งเป็นวงกลม 2 วง แยกตัวกล้องหลัก 8MP กับ กล้องโบเก้ 2MP+ไฟแฟลช ที่มีเก็บรายละเอียดรอบวงที่ดูมีมิติสวยงาม
พร้อมกันนี้ที่ปุ่ม Power ด้านเครื่อง จะมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สำหรับใช้ปลดล็อคเครื่องได้อย่างรวดเร็วทันทีที่กดปุ่มเปิดหน้าจอ
ช่องถาดสำหรับใส่ซิม เป็นแบบ 3 ช่อง ที่รองรับใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และใส่ microSD เพื่อเพิ่มความจุของเครื่องได้สูงสุดอีก 1TB
ด้านล่างตัวเครื่องมีพอร์ตเสียบหูฟังขนาด 3.5mm , ช่องไมโครโฟนสนทนา, พอร์ต USB-C และช่องลำโพงเสียงของเครื่อง
กล้องและการถ่ายภาพ
ขึ้นชื่อว่าออปโป้ เรื่องของการถ่ายพอร์ตเทรตก็จัดมาให้ด้วยในรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ตัวกล้องหลังประกอบด้วยกล้องหลัก 8MP กับกล้องโบเก้ 2MP มีโหมดถ่ายพอร์ตเทรตที่เลือกเบลอฉากหลัง ให้ตัวบุคคลด้านหน้าชัดเจนโดดเด่นมากขึ้น ที่เราสามารถเลือกปรับระดับเปอร์เซ็นต์ของความเบลอได้มากน้อยตามที่ต้องการ
เพิ่มความสวยงามให้กับใบหน้าเวลาถ่ายภาพบุคคล ด้วย Portrait Retouching ที่จะใช้ AI ในการปรับแต่งรีทัชใบหน้าของแบบให้ โดยเลือกปรับระดับการปรับแต่งได้ตามที่เราต้องการ ช่วยให้ภาพที่ถ่ายมามีความสวยเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา และเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
นอกจากนี้ ความสามารถด้านการถ่าย HDR ก็มีมาให้ด้วย ช่วยเวลาที่ถ่ายภาพย้อนแสง ตัวแบบก็สว่างและฉากหลังหรือท้องฟ้าก็ไม่ขาวโพลน มองเห็นรายละเอียดได้ครบทั้งภาพ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ OPPO A18
สรุป รีวิว OPPO A18 คุ้มมั้ยกับ ราคา 4,499 บาท
สำหรับรุ่นนี้แล้ว ถือว่าเป็นน้องเล็กที่มีให้มาครบทุกอย่าง สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่มีงบระดับ 5,000 บาท อย่างแรกเลยก็คือแบตเตอรี่ที่อยู่ได้เต็มวัน สามารถใช้งานตั้งแต่เช้าถึงเย็น แบบไม่ต้องห่วงว่าจะเจอปัญหาแบตเตอรี่จะหมดก่อนถึงบ้าน
ส่วนที่ดีเกิดคาดมากๆ ก็คือได้หน้าจอ AMOLED ที่เป็นแบบ Sunlight Display ที่มีความสว่างสูงสุดมากถึง 720nits มากกว่าสมาร์ตโฟนเรตราคาเดียวกัน ที่ส่วนใหญ่ให้เต็มที่ก็สว่างสุดแค่ 350nits จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีไลฟ์สไตล์ต้องทำงานอยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ สามารถใช้งานมองเห็นหน้าจอได้คมชัดอย่างไม่มีปัญหา แถมยังได้รีเฟรชเรตที่ 90Hz ก็ช่วยให้เวลาใช้งานเปลี่ยนไปมาได้อย่างลื่นไหล
คนที่กำลังเลือกหามือถือแบบใช้ยาวๆ ไม่ได้เปลี่ยนเครื่องบ่อย OPPO A18 นั้นถือว่าน่าสนใจ ด้วยระบบภายในที่มีการจัดการตั้งแต่เรื่องของฮาร์ดแวร์ให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ แม้ว่าจะใช้งานมานานกว่า 3 ปี หรือว่า 36 เดือน ทั้งส่วนของซอฟต์แวร์ที่จะมีความเสถียร ไม่อืดหรือช้าลงแม้ว่าจะใช้มานาน รวมถึงการดูแลการชาร์จที่รักษาอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วจนเกินไป
จะมีข้อจำกัดที่ต้องรู้อยู่บ้างสำหรับ OPPO A18 ก็คือ น้องหนูเป็นรุ่นระดับเริ่มต้น ในส่วนของประสิทธิภาพนั้น อาจจะไม่ได้เร็วแรงปรู้ดปร้าดมาก การเล่นเกมถ้าเป็นเกมทั่วไปก็ไม่มีปัญหา แต่กราฟิกหนักๆ นั้นอาจจะรับมือไม่ค่อยไหว รวมถึงตัวระบบชาร์จที่ไม่ได้มีระบบชาร์จไวมาให้ เวลาชาร์จถ้าแบตหมดเกลี้ยงก็อาจจะต้องใช้เวลานานเกือบๆ ชั่วโมงครึ่งถึงจะชาร์จเต็ม
OPPO A18 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีฟ้า Glowing Blue และ สีดำ Glowing Black พร้อมวางจำหน่ายแล้ว ราคา 4,499 บาท สามารถหาซื้อและลองสัมผัสเครื่องจริงได้ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ