รีวิว Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Max

รีวิว Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Max

รีวิว Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Max ให้ประสบการณ์การเล่นเกมระดับ AAA บนสมาร์ทโฟน ที่ได้อารมณ์ทั้งภาพและเสียง

ก่อนหน้านี้เกม Resident Evil Village ได้มีลงในเครื่อง Mac ไปก่อนแล้ว ล่าสุดได้ประกาศลงใน iOS และ iPadOS ถือว่าเป็นเกมระดับคอนโซลที่มาลงในอุปกรณ์พกพา โดยจะเล่นได้ใน iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad รุ่นที่ใช้ชิป M1 ขึ้นไป

ตัวเกมจะเป็นให้ดาวน์โหลดเพื่อเล่นเป็น Demo ในช่วงแรก แล้วมีโปรโมชันช่วงเปิดตัว ลดราคา 60% ถึงวันที่ 20 กันยายนนี้ ตัวเกมหลักเหลือเพียง 510 บาท และมี DLC เสริม บัตรกำนัลเข้าถึงร้านเนื้อหาพิเศษทั้งหมด (60 บาท) และ Winters’ Expansion (319 บาท)

เกมจะมีขนาดประมาณ 8GB สำหรับช่วงเดโม และตัวเกมแบบเต็มประมาณ 16GB เนื้อหามีภาษาไทยให้ทั้งเมนูและซับไตเติลในเกม เล่นได้เข้าใจแน่นอน

กราฟิกในเกมสามารถเลือกปรับแต่งการแสดงผลได้ ที่ทั้งให้เลือกเป็น Preset หรือเลือกปรับเอง สามารถตั้งแต่ความละเอียดที่ปรับได้สูงสุด 2796 x 1290 ปรับเฟรมเรตได้สูงสุด 120Hz และยังปรับแต่งในส่วนแสงเงา รายละเอียดต่างๆ ในภาพ เพื่อให้ได้ภาพที่เหมาะสมกับประสิทธิภาพของเครื่อง คือยิ่งปรับสูงมากก็จะส่งผลต่อการทำงานหนักของเครื่องมากขึ้น แบตเตอรี่ก็จะหมดเร็วขึ้น รวมถึงความร้อนระหว่างการเล่น

การควบคุมเกม ทำได้ 2 รูปแบบคือ อย่างแรกเป็นปุ่มกดบนหน้าจอแบบ Virtual Gamepad ที่มีขนาดใหญ่มาก เรียกว่าแทบจะบังจอมิด จากที่ได้ลองเล่น ส่วนตัวรู้สึกว่าไม่ค่อยถนัดเรียกว่าได้แค่พอใช้

ส่วนอีกแบบที่เราอยากแนะนำก็คือ เล่นด้วยคอนโทรลเลอร์ โดยที่ iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPad ใช้เป็นพอร์ต USB-C คุณสามารถใช้คอนโทรลเลอร์แบบเสียบสาย USB-C ได้เลย หรือจะใช้จอย DualSense ของ PS5, จอย DualShock 4 ของ PS4 หรือ Xbox Controller มาต่อเล่นทั้งแบบเสียบสาย และไร้สายผ่าน Blutooth

ของผมมีลองใช้งานด้วย Backbone One เป็นคอนโทรลเลอร์ที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับสมาร์ทโฟน ที่เสียบให้ตัว iPhone อยู่ตรงกลาง ให้อารมณ์เหมือนเครื่องเล่นเกมแบบพกพา สะดวกและจับถนัดมือดีมากๆ

หลังจากที่ลองเล่น ตัวเกมทำมาลงในอุปกรณ์พกพา โดยที่ยังให้อารมณ์ของเกมตามแบบฉบับที่เป็นคอนโซลได้ครบถ้วนดีมาก กราฟิคของเกมแทบจะไม่ได้ต่างกัน ทั้งความคมชัด รายละเอียด แสงเงา ทุกอย่างทำออกได้ดี การเล่นเกมผมเปิดเฟรมเรตเป็น Auto ถือว่าลื่นไหล แต่ด้วยเกมเป็นแนว Thriller สั่นประสาท หลายๆ ฉากที่เป็นเวลากลางคืนหรือที่มืดๆ ก็ค่อนข้างจะมืดมาก แนะนำให้เปิด HDR จะช่วยได้พอสมควร

เรื่องเสียง ต้องบอกว่าทำได้ดีมาก ๆ เราแนะนำให้คุณสวมหูฟัง AirPods ในการเล่น เพราะเสียงนั้นมีความ Spatial Audio ที่ให้ความสมจริงจากเสียงที่เกิดขึ้นรอบทิศทาง เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้การเล่นเกมมีความเร้าใจ เอาแค่ช่วงแรกของเกมที่เป็นการเอาชีวิตรอดจากหิมะกลางป่าที่มืดมิด ก็บีบหัวใจเรามากๆ

ตัวเกม Resident Evil Village เป็นเกมแอคชั่นมุมมองบุคคลที่ 1 เป็นเนื้อหาภาคที่ 8 ในตระกูลผีชีวะที่มาไกลมากๆ รับประกันได้ในเรื่องของความสนุก กับปริศนา ความลึกลับ การไล่ล่าที่ต้องเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่บีบคั้น และศัตรูที่โดดเด่นในภาคนี้คือ laydy Dimitrescu ที่ตัวสูงใหญ่ยักษ์ และสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์

รีวิว Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Max
รีวิว Resident Evil Village iphone
รีวิว Resident Evil Village iphone
รีวิว Resident Evil Village iphone

สรุป รีวิว Resident Evil Village บน iPhone 15 Pro Max

ตัวเกมได้รับการปรับแต่งมาเพื่อให้เล่นบน iPhone ได้ในระดับที่น่าประทับใจ คือการเล่นที่ยังคงอารมณ์สนุกเหมือนเล่นบนคอนโซล แต่มีขนาดหน้าจอที่เล็กลง แนะนำว่าให้ใช้คอนโทรลเลอร์ในการเล่น ตัวควบคุมบนหน้าจอนั้นนอกจากจะไม่ค่อยถนัดแล้ว เวลากดคือมือบังหน้าจอเกือบหมด (ฮา)

สิ่งที่ต้องแนะนำอีกอย่างคือ เรื่องของความร้อน ต้องยอมรับว่าระหว่างการเล่นเกมนั้นตัวเครื่องทำงานหนักและมีความร้อนค่อนข้างมาก จึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าอยากให้คุณต่อคอนโทรลเลอร์แทนที่จะถือเครื่องตรงๆ

และอีกมีอีกเรื่องที่ต้องคอมเมนต์ก็คือ หน้าจอเมนูที่ปรับขนาดตัวหนังสือไม่ได้ ทำให้อาจจะมองได้ลำบากกับเกมเมอร์สูงวัย ซึ่งพอจะแก้ด้วยการเสียบสายต่อขึ้นจอใหญ่เพื่อเล่นแทน ส่วนการเล่นบน iPad ก็จะได้จอที่ใหญ่ขึ้น ดูได้เต็มตายิ่งกว่าเดิม ซึ่งเราก็แนะนำให้คุณเล่นด้วยคอนโทรลเลอร์เช่นกัน เพราะไม่ง่ายเลยกับการใช้ปุ่มกดบนจอแล้วต้องถือจอ iPad ไปด้วย

รีวิว Resident Evil Village iphone

ความคุ้มค่าของเกม แนะนำว่าซื้อช่วงโปรฯ ตอนเปิดตัวนี้เลยคือคุ้มสุดแล้ว กับเกมระดับ AAA ที่ซื้อทีเดียวเล่นได้ทั้งใน iPhone และ iPad ดาวน์โหลดได้แล้วทาง Apple AppStore

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน