ซีเกท เปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ Seagate Exos X24 ใหม่ ด้วยดิสก์ 10 แผ่น แต่ละแผ่นมีขนาด 2.4TB ทำให้ Exos X24 เป็นฮาร์ดไดรฟ์ที่มีความหนาแน่นสูงสุดของซีเกท โดยมีต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) ระดับแนวหน้าของวงการเพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการที่เก็บข้อมูลระดับไฮเปอร์สเกลและองค์กรที่ต้องการขยายเพิ่มความจุของศูนย์ข้อมูล
Exos X24 ใช้การบันทึกด้วยสนามแม่เหล็กแบบการเขียนข้อมูลตามโครงสร้างบรรทัด (CMR) ขนาด 24TB มอบความจุในการเก็บข้อมูลระดับชั้นนำของตลาด เต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ และมีความเสถียรในการใช้งานในระดับองค์กร ซีเกทยังได้นำเสนอไดรฟ์ทางเลือกที่ใช้การบันทึกด้วยสนามแม่เหล็กแบบการเชียนซ้อนช่องว่างระหว่างบรรทัด (SMR) ให้กับลูกค้าที่ให้บริการระบบคลาวด์บางราย โดยจะสามารถทำให้เนื้อที่ความจุของไดรฟ์เพิ่มไปได้สูงสุดที่ 28TB
Exos X24 รุ่นใหม่ล่าสุดถูกออกแบบมาเพื่อมอบความจุในการจัดเก็บข้อมูลสูงสุดและเสริมประสิทธิภาพพื้นที่ชั้นวางสูงสุด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าระดับไฮเปอร์สเกลพร้อมประสิทธิภาพอันทรงพลังและเทคโนโลยีอันก้าวล้ำ ไดรฟ์ตัวใหม่นี้ ใช้ก๊าซฮีเลียมในบรรจุแทนอากาศปกติ มีขนาดจานหมุน 3.5 นิ้ว รอบการหมุนที่ 7200 รอบต่อนาที มีทั้งอินเทอร์เฟซแบบ SATA และ SAS และมอบระบบการใช้งานแคชที่ปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น สามารถทำงานได้ดีกว่าโซลูชันการจัดเก็บข้อมูลที่ใช้แคชในการอ่านหรือเขียนอย่างเดียวถึงสามเท่า
Exos X24 ยังมอบอัตรารับส่งข้อมูลต่อเนื่อง (SDR) สูงสุดที่ 285 MB/s มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพในขณะที่ยังรักษาอัตราการรับส่งขอมูลเข้าและออก (IOPs) ต่อกำลังไฟที่ใช้ (วัตต์) ไว้ได้ และมีระยะเวลาใช้งานเฉลี่ยก่อนการเสียหาย (MTBF) ถึง 2.5 ล้านชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีการเข้ารหัส Seagate Secure™ ที่ช่วยปกป้องข้อมูลอันล้ำค่าด้วยไดรฟ์ที่เข้ารหัสด้วยตนเองแบบมาตรฐานปกติ (SED) และ แบบมาตรฐาน SED-FIPS ที่ได้การรับรองระดับมาตรฐานของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เสริมความอุ่นใจด้วยเทคโนโลยีการลบข้อมูลอย่างปลอดภัยทันที (ISE) พร้อมการรับประกันคุณภาพสินค้านาน 5 ปี
ขณะนี้ไดรฟ์ Exos X24 ที่ผลิตขึ้นตามคุณสมบัติเฉพาะขององค์กรได้จัดส่งให้กับลูกค้ารายสำคัญแล้ว และจะพร้อมจำหน่ายโดยทั่วไปในเดือนธันวาคมปีนี้ สำหรับประเทศไทย จะเป็นการจำหน่ายโดยผ่านการพรีออเดอร์ตามคำสั่งซื้อขั้นต่ำ ลูกค้าองค์กรที่สนใจสามารถทำการสั่งซื้อผ่านฝ่ายขายของซีเกทประเทศไทย พร้อมกันนี้ ซีเกทได้เตรียมพัฒนาฮาร์ดไดรฟ์ขนาด 30TB ที่ใข้แพลตฟอร์มเทคโนโลยีพื้นฐานเดียวกันนี้ เสริมด้วยเทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ซึ่งจะเริ่มการผลิตในต้นปี พ.ศ. 2567