ล้ำหน้าฯ แนะนำแอป พร้อมวิธี ป้องกันเด็กพลัดหลง ในวันที่ครอบครัวออกไปท่องเที่ยว หรือไปกิจกรรมนอกบ้าน อย่างเที่ยววันเด็ก หรือแม้แต่การไปซื้อของ เดินห้าง ฯลฯ เพื่อเป็นเตรียมพร้อมและป้องกันเอาไว้ก่อน
เมื่อครอบครัวออกเดินทางท่องเที่ยว หรือไปทำกิจกรรมกันนอกบ้าง หนึ่งในความกังวลหลักของคุณพ่อคุณแม่ คือ ความปลอดภัยของเด็ก ๆ
การพลัดหลงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากเจอ แต่ก็สามารถเตรียมตัวเอาไว้ก่อนได้ และยิ่งในยุคนี้มีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเหลือกในการ ป้องกันเด็กพลัดหลง หรือติดตามตัวเด็กๆ ได้สะดวกมากขึ้น
แต่ก่อนจะแนะนำแอปพลิเคชันหรือเทคโนโลยีที่จะมาช่วย เราขอแนะนำวิธีแบบอนาล็อกที่พ่อแม่ควรทำกันก่อน
- สอนให้เด็กๆ จำข้อมูลสำคัญ การสอนให้เด็กๆ จำชื่อ, ชื่อผู้ปกครอง, หมายเลขโทรศัพท์, และที่อยู่ในขณะเดินทาง จะช่วยให้ลูกๆ ติดต่อกลับมาได้ง่ายขึ้นหากพลัดหลง
- เครื่องแต่งกายที่โดดเด่น ใส่เสื้อผ้าที่มีสีสันสดใสและโดดเด่นให้เด็กๆ เพื่อทำให้ง่ายต่อการสังเกตเห็นในฝูงชน
- จุดนัดพบกรณีพลัดหลง กำหนดจุดนัดพบที่ชัดเจน อย่างเช่น ที่จุดข้อมูลหรือจุดประชุมที่เด่นชัด เป็นสิ่งที่ควรทำ
- ใช้สายรัดข้อมือหรือป้ายชื่อ การให้เด็กสวมใส่สายรัดข้อมือหรือป้ายชื่อที่มีข้อมูลติดต่อของผู้ปกครองเป็นวิธีง่ายๆ ที่ใช้ได้ผลดีมากในการช่วยให้คนอื่นติดต่อกลับมาได้
- กฎการเดินทางร่วมกัน ในการไปนอกบ้าน ผู้ปกครองควรกำหนดกฎเกณฑ์ในการเดินทางกับเด็ก ๆ ให้ชัดเจน อาทิ เดินตามกลุ่ม, ไม่วิ่งหนีหรือห่างจากผู้ปกครอง, และห้ามติดต่อกับคนแปลกหน้า
เอาล่ะ เราเตรียมพร้อมเบื้องต้นกันแล้ว มาลองดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้างในยุคนี้ ที่นอกจากจะช่วย ป้องกันเด็กพลัดหลง เพราะไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีสมาร์ทโฟนหรือมือถือให้กับเด็กถือติดตัวได้ทุกคน
และไม่ใช่แค่เอาไว้กันเด็กหาย แต่แอปและเทคนิคเหล่านี้ ยังช่วยในการติดตามคนในครอบครัวทุกคนได้ง่ายขึ้น ในเวลาไปเที่ยวแล้วเดินหลุดกลุ่มหรือแยกกันแบบไม่รู้ตัว
1.ใช้สมาร์ทวอทช์สำหรับเด็ก หรือ Apple Watch
ในยุคนี้มีอุปกรณ์สื่อสารที่เป็นนาฬิกาสมาร์ทวอทช์ ที่ใส่ซิมได้เหมือนโทรศัพท์มือถือ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พ่อแม่สามารถโทรหาหรือเปิดแอปของสมาร์ทวอทช์นั้นๆ เพื่อหาพิกัดได้ง่าย สำหรับในไทย เราแนะนำ iMOO เป็นแบรนด์ที่มุ่งเน้นในการพัฒนาสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็กโดยเฉพาะ
และถ้าผู้ปกครองเป็นสายแอปเปิล คุณสามารถเอานาฬิกา Apple Watch รุ่นเก่าที่คุณพ่อคุณพ่อไม่ใช้แล้วเปลี่ยนเป็นรุ่นใหม่ เอามาให้ลูกๆ ใช้ได้ แต่ต้องเป็น Apple Watch Series 4 หรือใหม่กว่ารุ่นเซลลูลาร์ หรือ Apple Watch SE รุ่นเซลลูลาร์ และใช้ watchOS 7 หรือใหม่กว่า
ผู้ปกครองจะสามารถติดต่อกับเด็กๆ ผ่าน Apple Watch ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับ iPhone จึงเหมาะเอาไว้ได้ทั้งการติดตามตัวเมื่อพลัดหลง หรือโทรหาได้ทันที
2.ใช้ Smarttag หรือ AirTag
อีกอุปกรณ์ที่เอามาใช้ป้องกันเด็กๆ พลัดหลงได้ หลักการใช้งานคือ ให้เด็กๆ พก Smarttag หรือ AirTag เอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เด็กเดินหลงหรือแยกจากกลุ่ม ระบบก็จะมีการแจ้งเตือนที่สมาร์ทโฟนหรือ iPhone ของผู้ปกครองทันที ทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้ตัวแล้วรีบตามหาเด็กก่อนที่จะหลงห่างกันไกล
3.แอป Life360
เป็นแอปสำหรับสมาร์ทโฟน อันนี้เป็นกรณีที่มีสมาร์ทโฟนให้เด็กพกด้วย แอปนี้จะช่วยให้สามารถหาตำแหน่งของทุกคนในครอบครัวได้ โดยมีการแสดงประวัติเส้นทางการเดินบนแผนที่ของแต่ละคน จึงเหมาะมากที่ทุกคนในครอบครัวควรโหลดเอาไว้ เวลาที่จะออกไปเที่ยวหรือทริปเดินทาง
4.แอป Find My Kids
แอปนี้ทำงานได้ทั้งบนสมาร์ทโฟนและนาฬิกา GPS สำหรับเด็ก ช่วยให้คุณติดตามที่ตั้งของลูกได้ตลอดเวลา และยังมีฟังก์ชันส่งข้อความเสียงหรือแจ้งเตือนถึงการเปลี่ยนแปลงในพื้นที่หรือการใช้งานแบตเตอรี่
5.แอป Gympse
เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการแบ่งปันที่ตั้งแบบเรียลไทม์กับผู้อื่น โดยไม่ต้องมีการลงทะเบียนหรือสร้างบัญชีผู้ใช้งาน สามารถใช้เพื่อติดตามที่ตั้งของเด็กๆ ในขณะที่พวกเขาเดินทางไปยังจุดหมาย ตัวแอปออกแบบหน้าตาการใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน ทำให้ใช้ได้ทุกวัย
ดาวน์โหลด Android
6.แอป Geozilla
แอปนี้ให้คุณติดตามที่ตั้งของสมาชิกในครอบครัวและตั้งค่าแจ้งเตือนตามพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันแชทและแบ่งปันที่ตั้งแบบเรียลไทม์ แล้วยังมีฟังก์ชันการแชทภายในแอป เพื่อให้ติดต่อสื่อสารกันผ่านในแอป และมีฟีเจอร์เพิ่มเติมอย่าง SOS เพื่อให้เด็กๆ เอาไว้กดเพื่อแจ้งผู้ปกครองเวลาที่มีเหตุฉุกเฉิน
7.แอป FamiSafe
แอปนี้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ปกครอง เพราะนอกจากเอาไว้ติดตามที่ตั้งของเด็กๆ แล้ว ยังใช้ควบคุมการใช้งานโทรศัพท์ของเด็ก รวมถึงการตั้งค่าข้อจำกัดเวลาใช้งาน, และการตรวจสอบกิจกรรมออนไลน์
และนี่คือวิธีที่เราแนะนำให้คุณเตรียมพร้อม เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในครอบครัว ที่จะได้ออกไปเที่ยวกันอย่างสนุก ไม่ว่าจะไปงานวันเด็ก ไปเที่ยวต่างจังหวัด หรือต่างประเทศได้อย่างสบายใจ