รีวิว OPPO Find X7 Ultra สมาร์ตโฟนเรือธง “ที่สุดของการถ่ายภาพ” มาพร้อมกล้อง 50MP ทั้ง 4 ตัว ล้ำด้วย AIGC แต่งภาพด้วย AI

รีวิว OPPO Find X7 Ultra สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการถ่ายภาพกับกล้องหลัก 4 เลนส์ ความละเอียด 50MP มาพร้อมกล้องซูม 2 เลนส์ กับ Hasselblad ที่สุดของการถ่ายภาพ และฟีเจอร์ล้ำๆ อย่าง AIGC เครื่องมือแต่งภาพ ลบวัตถุในภาพด้วย AI ส่วนของมีดีไซน์คือสวยงาม พร้อมกับวัสดุหนังที่จะมอบความหรูหราให้กับตัวเครื่อง

แม้ว่าในปีนี้ OPPO Find X7 Ultra จะไม่ได้ออกมาวางจำหน่ายแบบ Global โดยจะมีวางขายเฉพาะในประเทศจีนเท่านั้น ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เราได้มีโอกาสได้เครื่องมาทดสอบ

ดังนั้นมาเริ่มกันที่สรุปข้อมูลของ สเปค ทั้งหมดกันก่อนเลยครับ

กล้องหลัง Hasselblad ความละเอียด 50MP ทั้ง 4 เลนส์

หล้องหลัง OPPO Find X7 Ultra ไม่เพียงแค่เลนส์หลักที่มีความละเอียด 50MP เท่านั้น แต่ได้ใช้งานความละเอียด 50MP ทั้ง 4 เลนส์ด้วยกัน ถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ตโฟนที่มีความละเอียดสูงทั้ง 4 เลนส์เข้ากับการถ่ายภาพด้วยการประมวลผลที่ก้าวไปอีกขั้นของ OPPO เพื่อสร้างระบบกล้อง HyperTone Image Engine ออกมา และการซูมด้วยเซ็นเซอร์ตั้งแต่ 0.6x ไปจนถึง 12x ซึ่งประกอบด้วย 

• เลนส์หลัก Wide ความละเอียด 50MP รูรับแสงกว้าง f/1.8 ระยะทางยาวโฟกัส 23mm ลดการสั่นไหว OIS 
• เลนส์ Ultra-Wide ความละเอีนด 50MP รูรับแสงกว้าง f/2.0 ระยะทางยาวโฟกัส 14mm
• เลนส์ซูม 3x Periscope Telephoto ความละเอียด 50MP รูรับแสงกว้าง f/2.6 ระยะทางยาวโฟกัส 65mm ลดการสั่นไหว Prism OIS 
• เลนส์ซูม 6x Periscope Telephoto ความละเอียด 50MP รูรับแสงกว้าง f/4.3 ระยะทางยาวโฟกัส 135mm ลดการสั่นไหว Prism OIS 

การปรับใช้งานเลนส์ทั้ง 4 ให้มีความละเอียดสูง 50MP นี้จะเป็นการรวมในเรื่องของประสิทธิภาพการซูม, การถ่ายภาพด้วยการประมวลผล, การถ่ายภาพแบบพอร์ตเทรต และการถ่ายแบบในระดับมืออาชีพ โดยยังคงร่วมมือกับทาง Hasselblad ในเรื่องของโทนสีและ Master Mode ที่จะมอบประสบการณ์การใช้งานการถ่ายภาพอยู่เช่นเคย

ถ่ายภาพคมชัดสวยงามด้วย HyperTone Image Engine

ด้วยระบบกล้อง HyperTone Image Engine จะเข้ามาช่วยประมวลผลภาพถ่ายให้ดูเป็นธรรมชาติสมจริงมากขึ้น ไฮไลท์ควรเป็นไฮไลต์ ส่วนเงาคงไว้เป็นเงา ไม่เปิดรับแสงน้อยเกินไปหรือ เปิดรับแสงมากเกินไป และจากการทดลองถ่ายภาพก็เป็นการประมวลภาพถ่ายที่ได้ออกมาเป็นธรรมชาติสมจริง การถ่ายย้อนแสงก็ไม่เร่งใบหน้าให้สว่างเกินจริง ดูเป็นธรรมชาติ และยังคมชัด

ด้วยการเลนส์ซูมความละเอียด 50MP ถึง 2 เลนส์ ทำให้ Find X7 Ultra มีการซูมที่มีคุณภาพตั้งแต่การซูม Ultra-wide 14 มม. (0.6x) ไปจนถึง 270 มม. (12x) ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างทางยาวโฟกัสแบบออฟติคอลและ AI ขั้นสูง ทำให้การซูมเพื่อถ่ายภาพได้อย่างคมชัดและสมบูรณ์แบบ ลดช่องว่างที่สมาร์ตโฟนรุ่นอื่นไม่สามารถทำได้ รวมถึงการมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ทำให้ได้ภาพที่คมชัดทั้งกลางวันและกลางคืนอีกด้วย

ในการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ก็ยังคงมีฟีเจอร์ Hasselblad Portrait ที่จะเข้ามาสร้างโบเก้แบบภาพยนตร์ที่ชัดเจน ความรู้สึกที่น่าดึงดูดของมิติ และยังสร้างมิติที่ดูเป็นธรรมชาติทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังของฉาก และไม่ทำให้รายละเอียดของเส้นผมเสียไป

ความสามารถนี้ เป็นการทำงานควบคู่ระหว่างระบบกล้อง HyperTone Image Engine ช่วยระบุรายละเอียดและคงไว้ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังมีการจับโทนสีผิวเพื่อปรับให้ดูธรรมชาติ และยังรองรับการถ่ายภาพระยะไกลได้ถึง 9 เมตร เป็นการถ่ายภาพพอร์ตเทรตได้ไกลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนบนสมาร์ตโฟน

ตัวอย่างภาพถ่ายพอร์ตเทรตที่ได้ระบบกล้อง HyperTone Image Engine ช่วยปรับภาพให้คมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ ลด noise ให้ภาพเนียนชัด รวมถึงปรับความสว่างของ HDR ที่เหมือนจริง

ถ่ายได้อย่างโปรด้วย Master Mode

สำหรับใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบแมนนวล ก็ยังคงมีฟีเจอร์ Master Mode ซึ่งใน Find X7 Ultra ได้มีการปรับแต่งพิเศษ เทียบกับกล้อง Hasselblad X2D 100C ทำให้ได้ภาพและโทนสีออกมาเหมือนกัน

Master Mode ให้เราถ่ายภาพโดยปรับตั้งค่าโทนสีได้ค่อนข้างอิสระ และได้สไตล์ภาพออกมาที่นุ่มละมุน ที่ใช้ถ่ายได้ทั้งภาพบุคคลหรือภาพแนวสตรีท

การถ่ายเลือกได้ทั้งแบบ Auto และโหมด Pro ที่เลือกปรับค่าได้เหมือนกล้องโปร ซึ่งบันทึกไฟล์ภาพได้ทั้ง JPG รวมถึง RAW ที่สามารถนำไปทำ Post Production ในการแต่งสีภาพขั้นสูงอย่าง Lightroom ได้

หรือจะใช้ถ่ายดาวในโหมดกลางคืน ก็สามารถถ่ายแล้วนำไฟล์ไปดึงความสว่าง ให้เห็นดาวบนท้องฟ้าที่ชัดเจนมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

AIGC เครื่องมือแต่งภาพด้วย AI

และในการถ่ายภาพ บางครั้งก็เกินที่จะควบคุมวัตถุที่เราไม่อยากให้เข้ามาในภาพอย่างเช่นรถยนต์ที่หลุดเข้ามาในเฟรม แต่ใน Find X7 Ultra มาพร้อมกับฟีเจอร์ GenAI Object Removal (Beta) ที่เป็น AIGC มีคุณสมบัติเข้าใจฉากที่ซับซ้อน สามารถทำการลบวัตถุและแทนที่ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อเพิ่มความสวยงามตามธรรมชาติของภาพถ่าย ซึ่งทำให้การแก้ไขภาพถ่ายทำได้อย่างง่ายดาย

AIGC เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ที่จะช่วยให้เราลบวัตถุ, บุคคล ฯลฯ ออกไป ช่วยให้องค์ประกอบของภาพดูลงตัวขึ้น และลดการกวนสายตาจาก Subject หลักในภาพที่ต้องการนำเสนอ

อย่างตัวอย่างภาพที่ถ่ายมา นางแบบอยู่ที่ด้านหน้า แต่เห็นว่ามีคนนั่งอยู่ตรงบันไดด้านหลัง ซึ่งพอเราลบออกก็ทำให้ภาพดูสวยขึ้น

สำหรับ 2 ภาพนี้ ตอนแรกมีคนเดินอยู่ในภาพ รู้สึกว่าถ้าตรงนั้นโล่งๆ จะดูไม่กวนสายตา ก็สามารถใช้ AIGC แตะลบคนออกไปได้อย่างแนบเนียน

และในส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ จัดมาให้ที่ความละเอียด 32MP รูรับแสงกว้าง f/2.4 ที่ระยะทางยาวโฟกัส 21mm สามารถถ่ายเซลฟี่ที่เก็บมุมกว้างได้ 2 ระดับ และการใข้งานทั้งการถ่ายภาพที่คมชัด รวมถึงการถ่ายวิดีโอก็ได้ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดต่างๆ ด้วยกล้องของ OPPO Find X7 Ultra

โหมด Portrait

ระบบของกลังจัดการเรื่องความชัดลึกชัดตื้นของภาพได้ดีเยี่ยม ทำให้การถ่ายภาพบุคคลออกมา เป็นตัวแบบชัดฉากหลังเบลอ หรือจะให้มี Subject บางอย่างเบลออยู่ด้านหน้า และตัวแบบมีความชัดเจน ก็ให้มิติมุมมองที่สวยงาม

การปรับแต่งความสวยงามของใบหน้า คือสิ่งที่ขึ้นชื่อและไม่มีผิดหวังสำหรับทุกคน ด้วยการปรับแต่งที่สวยงามเป็นธรรมชาติ เหมาะกับแต่ละบุคคลที่มีความต่างกันทั้งเพศ, เชื้อชาติ, สีผิว และความฉลาดในการปรับแต่งที่ยังคงเอกลักษณ์ของแต่ละคนเอาไว้ได้อย่างเหมาะสม

การจัดการเรื่องของโบเก้ที่ฉากหลัง ทำได้ดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา และยังสามารถนำภาพที่ถ่ายแล้ว มาปรับระยะรูรับแสง เพื่อเปลี่ยนการเบลอของฉากหลังได้อีกด้วย

การตัดขอบของแบบ ทำได้ดี ดูเนียนและคมชัด และไม่ได้ขอบแข็งจนผิดธรรมชาติ โดยเฉพาะบริเวณของเส้นผม สามารถสร้างโบเก้ที่บริเวณเกลียวผมได้โดยที่เส้นผมยังคงคมชัด

การถ่ายซูม

ระบบการซูมของ OPPO Find X7 Ultra ใช้กล้องเลนส์ซูมแบบ Periscope 2 ตัว ที่ระยะ 3x และ 6x ทำให้สามารถซูมได้ระยะทางยาวโฟกัสแบบออปติคัลได้ที่ 135mm และเมื่อรวมการซูมแบบดิจิทัลจะได้สูงสุดถึง 2689mm หรือ 120x

ภาพตัวอย่างการถ่ายภาพในทุกระยะของกล้อง ตั้งแต่ 0.6x ถึง 120x

ในระยะการซูมแบบออปติคัล ภาพนั้นคมชัด เพราะตัวกล้องซูมทั้ง 3 ตัวมี OIS ที่ช่วยให้ถ่ายภาพได้นิ่งขึ้น และเมื่อซูมในระยะไกล ก็ยังมีอัลกอริธึมมาช่วยปรับให้มีความคมชัดได้เป็นอย่างดี

ถ่าย Portrait แบบซูม ในโหมด Hasselblad Portrait

การมีกล้องเลนส์ซูมแบบออพติคัล ที่มีความละเอียดสูงถึง 50MP เมื่อนำมาใช้ในการถ่ายพอร์ตเทรต ก็จะได้อารมณ์ของภาพที่เหมือนกับการถ่ายด้วยเลนส์จากกล้องโปร

ในการถ่ายโหมด Hasselblad Portrait สามารถเลือกถ่ายที่ 1x เพื่อเข้าถึงรูปลักษณ์ของเลนส์ XCD 3,5/30 ของ Hasselblad อัตราซูม 2 เท่าจับคู่กับ XCD 2,8/65 ในขณะที่อัตราซูม 3 เท่าจับคู่กับ XCD 1,9/80 และอัตราซูม 6 เท่าสะท้อนรูปลักษณ์ของ XCD 2,8/135 ของ Hasselblad

ถ่ายภาพแบบ Snap

สำหรับสายถ่ายสตรีท ที่ต้องการสแนปภาพให้มีความนิ่งในภาพ ตัวกล้องสามารถเก็บภาพในความเร็วชัตเตอร์ที่สูงได้ ทำให้ภาพที่ตัวแบบกำลังเดินอยู่ เรากดถ่ายค้างหรือถ่ายรัวๆ เพื่อเก็บภาพที่เคลื่อนไหวเดินเป็นธรรมชาติ โดยที่ใบหน้าจะโฟกัสชัดเจน

หรือถ้าถ่ายภาพแล้วมีการเคลื่อนไหวรวดเร็ว ก็มีการเบลอของภาพที่สวยงาม อย่างภาพตัวอย่างนี้ คนที่กำลังเดินนั้นหยุดนิ่ง ส่วนด้านหน้าที่เป็นมอเตอร์ไซค์วิ่ง ก็เบลอแบบสปีดที่สวยงาม

ภาพถ่ายกลางคืน

การถ่ายในสภาพแสงน้อย และการถ่ายเวลากลางคืน OPPO Find X7 Ultra ทำได้ดีทั้งเรื่องความสว่างและเก็บรายละเอียดในภาพทั้งในส่วนแสงสว่างและเงามืด โทนสี

ส่วนการถ่ายภาพพอร์ตเทรต ใบหน้ายังคงได้สกินโทนที่ดี แม้ว่าจะมีแสงสีของไฟที่ผิดเพี้ยน รวมถึงความคมชัดของภาพที่ดูสวยงามและมีมิติ

โหมด X-Pan

โหมดการถ่ายภาพในสัดส่วนพิเศษ ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Hasselblad ที่จะมีความยาวเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกมุมมองที่กว้าง ให้คุณถ่ายภาพแนวสตรีท หรือเก็บภาพที่แตกต่าง และการถ่ายยังมีโทนสีที่ละมุน โดยเลือกปรับได้เฉพาะความสว่าง รวมถึงเลือกถ่ายในโทนขาวดำได้ด้วย

ดีไซน์สวย ใช้วัสดุหนังวีแกน เพิ่มความหรูหรา มีสไตล์ล้ำสมัย

OPPO Find X7 Ultra มาในดีไซน์ที่ดูดี สวยงาม และมีความหรูหรา ล้ำสมัยด้วยการใช้วัสดุหนังวีแกนที่โค้งมนเข้ากับโลหะด้านข้างตัวเครื่อง ทำให้ง่ายต่อการหยิบจับใช้งานและยังมอบความรู้สึกที่ดีในการสัมผัส รู้สึกได้ถึงความพรีเมียมของตัวเครื่อง โดยมาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีฟ้า Ocean Blue, สีน้ำตาล Sepia Brown และ สีดำ Tailored Black 

โดยสีที่ทางทีมงานได้มาทดสอบนี้ เป็นสีน้ำตาล Sepia Brown เป็นสไตล์ที่เปิดตัวใน OPPO Find X6 Pro โดยใช้หนังวีแกนสีน้ำตาลที่ตัดเข้ากับโลหะขัดมันเงา มีความทูโทนและความหรูหราจากวัสดุหนัง

ด้านหลังของตัวเครื่องมีการออกแบบระบบกล้องที่เรียกว่า Cosmos Ring โดยจะเป็นดีไซน์วงกลม พร้อมด้วย Starlight Track ที่นูนและโค้งมนได้อย่างสวยงามและลงตัว 

นอกจากความสวยงามแล้ว ยังมีการออกแบบให้มีความทนทานระดับ IP68 พร้อมที่จะใช้งานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ต้องกังวลเรื่องฝนตก หรือน้ำหกใส่ 

ด้านข้างของตัวเครื่องมาพร้อมกับ ปุ่ม Silent และเข้าสู่โหมด VIP ด้วยปุ่มเลื่อนปรับได้ 3 ระดับที่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง

ส่วนปุ่มล็อค/ปลดล็อคตัวเครื่องปุ่มปรับระดับเพิ่ม-ลดเสียงจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง

ด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องลำโพงสปีกเกอร์ของตัวเครื่อง, พอร์ต USB-C สำหรับการเสียบชาร์จและโอนถ่ายข้อมูล และมีช่องไมโครโฟนเสียงสนทนา 

ด้านบนของเครื่อง มีช่องของลำโพงขนาดใหญ่ และช่องไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวน ทำให้เสียงสนทนามีความคัด แม้ว่าจะมีเสียงรบกวนรอบข้างที่เสียงดัง

หน้าจอ QHD+ ที่สว่างที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนทุกรุ่น

หน้าจอขนาด 6.82 นิ้ว ด้วยดีไซน์หน้าจอ Quad-Curve ที่มีความโค้ง พร้อมเว้นช่องกล้องหน้าแบบ Punch-hole ช่วยให้มีพื้นที่สำหรับการแสดงผลที่มากขึ้น และยังทำให้ดูมีความพรีเมียมอีกด้วย

หน้าจอของ Find X7 Ultra ถือเป็นหน้าจอความละเอียด QHD+ ที่มีความสว่างที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟน ด้วยความสว่างสูงสุด 1600 nits เมื่อถูกแสงแดดส่อง และสูงถึง 4,500 nits เมื่อรับชมเนื้อหา HDR 

หน้าจอเป็นแบบ 10-bit แสดงสีสันได้มากกว่า 1.07 พันล้านสี รองรับการปรับรีเฟรชเรตอัตโนมัติ 1-120Hz รองรับเทคโนโลยี ProXDR รวมถึง รองรับ Dolby Vision, HDR10+, HDR10, HLG, HDR Vivid เวลารับชมเนื้อหาที่มีความละเอียดสูงหรือจากสตรีมมิ่งชั้นนำ มีความสว่างที่ชัดเจนและสร้างช่วงไดนามิกที่สูงขึ้น ก็จะมอบความรู้สึกสมจริงที่มากขึ้น และยังรองรับมาตรฐาน Ultra HDR ของ Google ในอนาคต 

และหน้าจอของ Find X7 Ultra ได้ผ่านการรับรอง TÜV Rheinland Eye Comfort สามารถรับชมเนื้อหาต่างๆ ผ่านหน้าจอได้โดยไม่ทำร้ายดวงตา อีกทั้งยังสามารถทัชหน้าจอแม้ตอนเปียกน้ำได้อีกด้วย

ประสิทธิภาพการใช้งาน

ขุมพลังของ Find 7 Ultra ได้ใช้งานชิปเซ็ต ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 รุ่นล่าสุด พร้อม RAM 16GB LPDDR5X  พื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ UFS 4.0 ความจุ  512GB ระบบปฏิบัติการ ColorOS 14 บนพื้นฐาน Android 14 ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกม ก็ทำงานได้อย่างรวดเร็ว ลื่นไหล

โหมด VIP ความเป็นส่วนตัว

OPPO Find X7 Ultra จะมาพร้อมโหมด VIP ที่สามารถปิดกล้อง, การเข้าถึงตำแหน่ง, ไมโครโฟน เพื่อความเป็นส่วนตัวในการใช้งานต่างๆ บนสมาร์ตโฟน และการเปิดโหมด VIP ก็ไม่ยุ่งยากด้วยการเลื่อนสไลด์ปุ่มด้านข้างซ้ายของตัวเครื่องขึ้นมาบนสุด

แบตเตอรี่และระบบชาร์จที่ดีที่สุด

ด้านการใช้งานแบตเตอรี่ความจุ 5000mAh ถือว่าประทับใจมากๆ ใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดวัน และยังรองรับระบบชาร์จเร็ว 100W SUPERVOOC ที่ชาร์จกลับเต็มภายในครึ่งชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องรอชาร์จนาน กลับมาใช้งานได้เร็วขึ้น

สรุป รีวิว OPPO Find X7 Ultra ความก้าวล้ำของสมาร์ตโฟนที่น่าประทับใจ

หลังจากที่ได้ทดสอบลองใช้งาน OPPO Find X7 Ultra แล้วต้องบอกเลยว่าสมกับเป็นสมาร์ตโฟนระดับเรือธงที่ปรับมาได้อย่างดีมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของดีไซน์ความสวยงามที่โดดเด่น วัสดุหนังที่ดูดีพรีเมียม จับถือแล้วดูโดดเด่น หน้าจอที่คมชัด รับชมเนื้อหาแล้วสบายตา

กล้องหลักที่ใช้งานเลนส์ความละเอียด 50MP ถึง 4 เลนส์ ก็มอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ดี ด้วยฟีเจอร์ที่จัดเต็มกับ Hasselblad และการซูมที่สมบูรณ์แบบกับเลนส์ซูม 2 เลนส์ ผสมผสานกับระบบกล้อง HyperTone Image Engine ที่มอบความคมชัดและซูมได้ไกล รวมถึงการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ยังคงเป็นจุดเด่นของออปโป้ มีความสวยงามและดูธรรมชาติ รวมถึงฟีเจอร์ GenAI Object Removal (Beta) ที่จะเข้ามาช่วยลบวัตถุที่ไม่ต้องการออกได้อย่างเป็นธรรมชาติ มอบความสวยงามของภาพถ่ายได้มากขึ้น

ในเรื่องของประสิทธิภาพก็ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธง มอบความลื่นไหลในการใช้งานและเล่นเกม แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ใช้งานได้เต็มวัน และยังมีชาร์จเร็วที่ทำให้ชาร์จแบตกลับมาเต็มในเวลาที่รวดเร็ว

มาถึงตรงนี้ เราก็แอบเสียดายอยู่ไม่น้อยที่ OPPO Find X7 Ultra ไม่ได้มาวางจำหน่ายในประเทศไทย แต่ก็เห็นได้เลยว่า OPPO ยังคงเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมไปได้สุดกว่าที่เคยทำได้อย่างน่าทึ่งในทุกด้าน

เชื่อว่าในปีหน้า ตามกระแสข่าวที่คาดกันว่า ทาง OPPO จะกลับมาทำตลาด Find X8 Series ในตลาด Global จากนี้อีกเกือบ 1 ปี เราน่าจะได้เห็นวิวัฒนาการของสมาร์ตโฟนเรือธงจากแบรนด์ OPPO ที่ยกระดับขึ้นไปได้อีก ทั้งเรื่องดีไซน์, กล้อง และประสบการณ์ใช้งานที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เราก็ต้องมาติดตามและอดใจรอกันอีกนิด