รีวิว realme 12 Pro+ 5G สมาร์ตโฟนออกแบบฝาหลังเป็นหนังวีแกนงานปราณีตสไตล์นาฬิกาสุดหรู หน้าจอแบบโค้ง 120Hz ประสิทธิภาพแรงด้วยชิประดับเรือธง เชื่อมต่อสัญญาณรวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น และพิเศษสุดด้วยกล้องเลนส์ Periscope ครั้งแรกในสมาร์ทโฟนรุ่นกลุ่มราคา Mid-tier ให้การถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟนได้อย่างสวยงาม ทั้งภาพพอร์ตเทรตฟิลเตอร์โทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ออสการ์
realme 12 Pro+ 5G เปิดตัววางขายในไทย รุ่น 8+256GB ราคา 13,999 บาท และ รุ่น 12+512GB ราคา 16,999 บาท
รอบนี้ต้องบอกว่า ทางเรียลมีพัฒนาสมาร์ตโฟนในตระกูล Number Series ในระดับโปรออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เพราะว่าดูดีตั้งแต่ดีไซน์ที่หรูสะดุดตา สเปคที่ดีทั้งการใช้งานทั่วไปและการใช้งานหนักได้อย่างลื่นไหล และที่สำคัญกับกล้องที่มีประสิทธิภาพ ให้คุณเก็บภาพได้สวยงามทุกระดับ พร้อมโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์
ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้ทดสอบลองใช้งาน realme 12 Pro+ 5G เพื่อ รีวิว มาสักพัก ยอมรับเลยว่าทำได้ดีเกินคาดไว้มากๆ เรามาดูกันว่ารุ่นนี้มีดีมีเด็ดอะไรบ้าง
สเปค realme 12 Pro+ 5G
- ขนาด : 161.5 x 74 x 8.75 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก : 196 กรัม
- หน้าจอ
- พาเนล AMOLED แสดงผล 1 พันล้านสี
- ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz
- ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล (FHD+)
- สัดส่วนหน้าจอ 20:9
- อัตราส่วนจอต่อขนาดเครื่อง 90.4%
- ค่าความสว่างสูงสุด 800 nits
- ขอบเขตสี 100% P3 color gamut
- ชิปเซ็ต
- Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 2.4GHz
- ผลิตบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร
- GPU : Adreno 710
- กล้องหน้า : 32MP รูรับแสง f/2.4 ระยะทางโฟกัส 22mm
- กล้องหลัง 3 เลนส์
- กล้อง Periscope : 64MP เซ็นเซอร์ OV64B ขนาด 1/2” รูรับแสง f/2.8, ความยาวโฟกัส 71mm, PDAF, ซูม 3x Optical มีระบบกันสั่น OIS
- กล้องหลัก : 50MP เซ็นเซอร์ SONY IMX890 ขนาด 1/1.56” รูรับแสง f/1.8 ความยาวโฟกัส 24mm, PDAF, มีระบบกันสั่น OIS
- กล้อง Ultra-wide 8MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″ รูรับแสง f/2.2, ความยาวโฟกัส 16mm
- หน่วยความจำ
- RAM 8GB / 12GB เพิ่ม Dynamic RAM ได้อีก 8GB / 12GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล : 256GB / 512GB
- ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี : Submarine Blue และ Navigator Beige
- แบตเตอรี่ 500mAh
- ระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
- รองรับ 2 ซิม, 5G Dual Standby
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
- เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- ระบบปฏิบัติการ realme UI 5.0 บนพื้นฐาน Android 14
แกะกล่อง
แพ็กเกจมาในสีเหลืองสดใสตามสไตล์ของแบรนด์ realme โดยในกล่องนอกจากตัวสมาร์ทโฟนแล้ว จะมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ เริ่มด้วยเอกสารการใช้งานเบื้องต้น, เข็มจิ้มถาดซิม, เคสใสแบบ TPU
ด้านล่างสุดของกล่อง จะมีอุปกรณ์สำหรับชาร์จ ตั้งแต่สาย USB-A to USB-C และ อะแดปเตอร์ชาร์จมาตรฐาน 65W SUPERVOOC ที่พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเติม
realme 12 Pro+ 5G ยกระดับกล้องในสมาร์ตโฟนระดับกลางให้ดียิ่งขึ้น
เรามาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องของกล้อง ที่ชูเป็นจุเด่นสำหรับรุ่นนี้ ก็คือกล้องที่จัดมาให้ดีสุดสำหรับกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับกลาง ที่บอกเลยว่าสเปคกล้องนั้น จัดเต็มมาให้โดยเฉพาะกล้องซูมที่มีความคมชัด
กล้องเลนส์ Periscope Telephoto ที่ดีที่สุดในกลุ่ม
ตัวชูโรงของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ คือกล้องที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เพราะว่าใส่กล้องซูมแบบ Periscope Telephoto ที่โดยปกติแล้ว เราจะเห็นมีให้มาในสมาร์ตโฟนที่เป็นรุ่นเรือธงที่มีราคาเริ่มต้น 3-4 หมื่นบาท
แต่ว่าเรียลมี ยกเอามาให้ใน realme 12 Pro+ 5G ที่ราคาเปิดตัวมาแค่ 13,999-16,999 บาทเท่านั้น ทำให้การใช้งานถ่ายภาพและวิดีโอที่ระยะการซูมได้ดีขึ้น และมีระบบกันสั่น OIS แบบปริซึมที่ปรับเอียงได้ ที่ช่วยให้เวลาการถ่ายภาพในเวลากลางคืน มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้น
โดยตัวกล้อง Periscope จะใช้เซ็นเซอร์ OV64B ความละเอียด 64MP ขนาด 1/2” มาพร้อมเทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซลแบบ 4 in 1 , รูรับแสง f/2.8, ความยาวโฟกัส 71mm ระบบโฟกัสเป็น PDAF
ประสิทธิภาพในการซูมนั้น สามารถซูมแบบออพติคอลได้ 3 เท่า มีระยะความยาวโฟกัสเทียบเท่า 71mm ทำให้ถ่ายภาพหรือวิดีโอที่อยู่ระยะไกล ได้ภาพที่คมชัดโดยไม่สูญเสียคุณภาพ
รวมถึงยังมีและซูมแบบ In-sensor (ISZ) ได้ 6 เท่า ช่วยเพิ่มระยะการซูมให้มากขึ้น และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้ระยะสูงสุด 120X SuperZoom ให้ถ่ายภาพซูมระยะไกลเป็นพิเศษได้อีกด้วย
กล้องหลัก 50MP SONY IMX890
ตัวกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูง SONY IMX890 ขนาดใหญ่ 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซลแบบ 4 in 1, รูรับแสง f/1.8, ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24mm, มีระบบป้องกันการสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) และรองรับการซูมแบบ In-sensor (ISZ) ได้ 2 เท่า
ถือว่าเป็นสเปคของกล้องหลักที่อยู่ในระดับที่ดี ทั้งเรื่องความคมชัด, การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย และเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด
กล้องมุมกว้าง Ultra-wide
กล้องตัวที่ 3 ในเซ็ตอัพกล้องหลังของ realme 12 Pro+ 5G ความละเอียด 8MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″ รูรับแสง f/2.2, ความยาวโฟกัส 16mm สำหรับเก็บภาพในระยะมุมกว้าง 0.6x
ระบบ Omnifocal ที่ปรับทางยาวโฟกัสได้ 5 ระดับ
ด้วยกล้องทั้ง 3 ตัวของ realme 12 Pro+ 5G เมื่อรวมกันแล้ว ทำให้เหมือนคุณมีเลนส์กล้องถึง 5 ระยะแบบกล้องโปร รวมอยู่ในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว โดยสามารถเลือกปรับระยะความยาวโฟกัสตั้งแต 16mm ถึง 71mm (0.6X, 1X, 2X, 3X, 6X)
ถ่ายภาพพอร์ตเทรตสไตล์ภาพยนตร์
เรียลมีบรรจงสร้างความพิเศษให้กับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงามมากขึ้น เริ่มด้วยการถ่ายบุคคลที่ระยะ 3X ด้วยอัลกอริธึมสร้างโบเก้แบบภาพยนตร์ ที่ให้ภาพออกมามีระยะชัดตื้นที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลให้มีความโดดเด่นจากฉากหลัง โดยการปรับให้เบลอและสร้างเอฟเฟกต์โบเก้แบบภาพยนตร์ โดยเลือกปรับแสงและเบลอในบริเวณต่างๆ โดยรักษาความสวยงามของผิว จึงได้ภาพถ่ายออกมาดูเป็นมืออาชีพ
และในการถ่ายภาพบุคคล ยังสามารถดูเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้แบบเรียลไทม์ก่อนจะกดชัตเตอร์ ทำให้เราเลือกปรับระยะความเบลอของฉากหลังได้อย่างละเอียดมากขึ้น
ฟิลเตอร์พอร์ตเทรต ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ออสการ์
เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทางเรียลมี ที่ได้ Claudio Miranda ช่างภาพที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม มาสร้างฟิลเตอร์ 3 แบบให้กับ realme 12 Pro+ 5G โดยเฉพาะ
- Journey Filter – แรงบันดาลใจ “Life of Pi” ที่สวยงามตระการตา ที่จะปรับเพิ่มสีให้มีคอนทราสต์สูงและเน้นโทนสีเหลือง สร้างบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในความฝันและมีชีวิตชีวา
- Memory Filter – แรงบันดาลใจจาก “The Curious Case of Benjamin Button“ ให้สีโทนเย็น ให้บรรยกาศของภาพที่มีความเงียบสงบ
- Maverick Filter – แรงบันดาลใจจาก “Top Gun: Maverick” ปรับภาพโดยจะเน้นโทนสีเหลืองเขียว และเพิ่มคอนทราสต์ ภาพที่ถ่ายจะได้อารมณ์แบบย้อนไปยุคคลาสสิก ถ่ายภาพด้วยฟิล์ม 35มม.
Master Shot Algorithm สำหรับการถ่าย RAW
เพิ่มความทรงพลังให้กับการถ่ายภาพที่ประมวลผลไฟล์แบบ RAW ที่มีคุณภาพสูง ตั้งแต่ Ultra HDR Engine ช่วยขยายไดนามิกของภาพเพื่อเก็บรายละเอียดในการถ่าย RAW ในส่วนที่สว่างและมืดได้ดีขึ้น Ultra Clarity Engine ปรับภาพให้สดใสและมีความชัดเจน และช่วยลด noise ในภาพให้น้อยลง NightEye Engine ปรับภาพกลางคืนให้มีความสมดุลทั้งในส่วนไฮไลท์และเงามืด DIS Engine ช่วยประมวลผลภาพดิจิทัลที่ลดการสั่นไหวในการถ่ายภาพ ให้ได้ภาพที่คมชัด ไม่เบลอ
ถ่ายภาพในโหมด RAW ช่วยให้เก็บรายละเอียดของภาพที่คม ตัวอย่างนี้ลองถ่ายแมวโดยใช้เลนส์ Periscope ซูมเข้าไป จะเห็นว่ารายละเอียดของเส้นขนต่างๆ ยังคงความคมชัดดีมาก
โหมด Street ถ่ายภาพได้สนุก
ของดีสำหรับการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนของ realme 12 Pro+ 5G ที่มีลูกเล่นในการถ่ายภาพที่ปรับเลือกมุมการถ่ายภาพที่สะดวก รวดเร็ว และสร้างไอเดียในการถ่ายภาพที่แตกต่าง อย่างเช่น ระบบซูมอัตโนมัติ ที่เวลาถ่ายภาพมุมปกติ เพียงแค่แตะที่ตำแหน่งที่น่าสนใจในภาพ กล้องจะซูมครอปไปที่ตำแหน่งนั้น และเลือกองค์ประกอบของภาพที่เหมาะสมให้ทันที รวมถึงฟิลเตอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกถ่ายภาพได้อย่างสร้างสรรค์
หรือจะเป็นการถ่ายในเวลากลางคืน ก็ได้ภาพที่สวยงาม เปลี่ยนได้ตามฟิลเตอร์ที่มีให้ ก็จะได้ภาพสตรีทที่สื่ออารมณ์ได้น่าสนใจกว่าเดิม
กล้องหน้าเซลฟี่
ขาดไม่ได้กับการเซลฟี่ ตัวกล้องหน้านั้น ให้มาที่ความละเอียด 32MP รูรับแสงกว้าง f/2.4 และมีระยะความยาวโฟกัสที่ 22mm ถือว่าเป็นระยะที่ถือถ่ายภาพตัวเองได้ดี ภาพที่ถ่ายมีการปรับให้ไม่มีความโค้งนูนจากเลนส์ที่มีระยะกว้าง รวมถึงการใช้งานทั้งในโหมดถ่ายภาพ, Portrait ส่วนการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าจะถ่ายได้สูงสุด 1080p 30fps
รวมถึงการปรับระยะชัดลึกชัดตื้น, สร้างโบเก้ที่ฉากหลัง ในการถ่ายพอร์ตเทรตด้วยกล้องหน้า ก็ทำได้ดีไม่แพ้กล้องหลังเช่นกัน
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme 12 Pro+ 5G
ทางเรียลมี บอกกับทีมงานล้ำหน้าว่า เนื่องจาก realme 12 Pro+ 5G ได้ร่วมมือช่างภาพรางวัลออสการ์ เลยอยากให้เราทดสอบกล้องถ่ายภาพในธีมของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับความหรูหราแต่ก็มีความสนุกสนานในการถ่ายภาพในทุกอารมณ์ เราจึงมาในธีมของ “Harley Quinn” จากเรื่อง Suicide Squad จะแสบขนาดไหน ไปดูกันเลย
ในเซ็ตนี้ การถ่ายนั้นสนุกมาก ด้วยกล้องที่มีระยะเลนส์เก็บได้ตั้งแต่ Ultra-wide ไปจนถึงซูมแบบ Periscope ทำให้เก็บภาพในมุมมองที่แปลกตา และการถ่ายพอร์ตเทรตที่ซูมเข้าหา ทำให้ฉากหลังมีความเบลอที่มีมิติมากขึ้น
รวมถึงการใช้ร่วมกับฟิลเตอร์พิเศษที่มีมาให้ ก็ปรับอารมณ์ของภาพที่เป็นช็อตเดียวกัน แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน การถ่ายคุณจึงมีโอกาสนำเอาฟีเจอร์ต่างๆ ของกล้องมาประยุกต์ใช้ และเก็บภาพที่สวยงามอย่างที่ต้องการ
ดีไซน์สวย งานปราณีตสไตล์นาฬิกาหรู
realme 12 Pro+ 5G ยกระดับการออกแบบให้มีความสวยหรูแบบสะดุดตา โดยได้ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชื่อดังของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกาสวิสชื่อดังอย่าง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quinting
แรงบันดาลใจในการออกแบบ realme 12 Pro+ 5G ได้หยิบจุดเด่นและกลิ่นอายของนาฬิกาหรู มารวมกับสมาร์ทโฟน โดยมีให้เลือกทั้ง 2 สีด้วยกันคือ
- Submarine Blue เป็นสีน้ำเงิน ตัดด้วยสีทอง ให้ความรู้สึกที่สง่างามและเงียบสงบ
- Navigator Beige เป็นโทนสีเบจที่สว่าง นุ่มนวล ตัดด้วยเส้นสายสีทอง สวยงามปราณีต
งานประกอบของ realme 12 Pro+ 5G มีความบางเป็นพิเศษ เพียงแค่ 8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 196 กรัม ขอบด้านข้างมีความโค้งทั้งฝาหลังและหน้าจอ ทำให้การถือจับได้กระชับและไม่หนักมือ
ที่ฝาหลังคือสวยแบบตะโกน ตั้งแต่ตัวฝาหลังที่หุ้มด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ผลิตจากวัสดุซิลิโคนคุณภาพสูง ทนทานต่อสิ่งสกปรกและสัมผัสที่นุ่มนวล รวมถึงลวดลายบนพื้นผิวหนังที่ให้ภาพลักษณ์หรูหรา
ตรงกลางของฝาหลัง มีเส้น 3D Jubilee Bracelet เดินเป็นเส้นผ่ากลาง ผสมผสานเทคนิคการออกแบบ 3D พิเศษ ผสมผสานรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน นูนตรงกลาง และมีความเงางามเป็นสีทองแบบเมทัลลิก
ตัวโมดูลกล้อง ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ม ตั้งแต่ตัวขอบรอบที่เป็น Golden Fluted Bezel สร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยเครื่องตัด CNC ขึ้นเป็นเส้นโลหะอย่างแม่นยำ 300 เส้น ทำให้ได้พื้นผิวที่มีความแม่นยำระดับเดียวกับการผลิตนาฬิกาหรูแบบ 360 องศา และบนหน้าปัด Sunburst ขัดเงา สร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสง พร้อมเคลือบออปติคอล ทำให้เกิดแสงเงาที่สวยสะดุดตา มีชีวิตชีวา
ด้านข้างของเครื่อง จะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่มเปิดปิดหน้าจอ
ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีช่องถาดซิม ที่ใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 ซิม (ใส่เพิ่ม microSD ไม่ได้) และมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB-C และช่องลำโพง
หน้าจอโค้ง 120Hz ให้ประสบการณ์รับชมที่ดี
realme 12 Pro+ 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบโค้งแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2412 x 1080 FHD+, 1.07 พันล้านสี, ขอบเขตสี P3 100%, รีเฟรชเรต 120Hz อัตรา Touch Samling Rate 240Hz ค่าความสว่างสูงสุด 800 nits
ตัวหน้าจอให้ประสบการณ์รับชมที่ดี ด้วยระบบปรับแต่งภาพ Pro-XDR ที่จะปรับเอฟเฟ็ต์ภาพให้แสดงบนหน้าจอในช่วงความสว่างและไดนามิกที่ครบถ้วน จึงทำให้ภาพที่ดูบนหน้าจอมีความสวยและชัดเจนมากขึ้น และต้องบอกว่าฟีเจอร์นี้ส่วนใหญ่จะมีให้เฉพาะในสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงเท่านั้น แต่เรียลมีก็จัดมาให้ใน realme 12 Pro+ 5G ด้วย
พร้อมกันนี้ ตัวหน้าจอยังผ่านมาตรฐานการรับรอง TÜV Rheinland Strobe-free Certification ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการกระพริบของหน้าจอ และ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification ลดการปล่อยแสงสีฟ้าโดยที่ยังแสดงผลของสีได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ
ประสิทธิภาพการใช้งาน
สเปคภายในใช้ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 ผลิตบนกระบวนการระดับ 4 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 8 คอร์ 64 บิต ประกอบด้วย ARM Cortex-A78 4 คอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.4 GHz และ ARM Cortex-A55 คอร์ 4 คอร์ที่ 1.95 GHz ส่วนด้านกราฟฟิกใช้ GPU Adreno 710 ทำงานที่ความเร็ว 940MHz
realme 12 Pro+ 5G มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น คือ 8+256GB และ 12+512GB โดยที่ตัว RAM นั้น จะรองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM ที่ดึงเอาพื้นที่ว่างบน ROM มาสร้างเป็น RAM เสมือนเพื่อให้การใช้งานพร้อมกันหลายๆ แอปมีความลื่นไหลมากขึ้น
สำหรับสเปคนี้ การใช้งานต่างๆ ถือว่าไม่มีปัญหา ทั้งการทำงานทั่วไป เล่นโซเชียล หรือจะดูหนัง Netflix ดู YouTube หรือเล่นเกมต่างๆ ก็ยังใช้งานได้สบาย
เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ รองรับ 5G Dual Standby และยังมีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 2 ช่องทาง เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วและความเสถียรของการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G
แบตเตอรี่และระบบการชาร์จ
ใช้งานได้แบบหายห่วงเพราะให้แบตเตอรี่มาขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องทั้งวันได้สบายๆ หรือถ่าเล่นเกมแบบหนักๆ ก็สามารถเล่นต่อเนื่องได้ 3-5 ชั่วโมง
และยังให้ระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ภายใน 19 นาที และชาร์จเต็ม 100% เสร็จได้ภายในเวลาเพียง 48 นาทีเท่านั้น โดยระบบการชาร์จเป็นแบบปั้มชาร์จคู่ 5:1 แปลงกระแสสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วแยกออกเป็นกระแสเล็กลง ทำให้ประสิทธิภาพการแปลงสูงถึง 98% ช่วยให้ลดความต้านทานของเส้นทางชาร์จ มีการสะสมความร้อนที่ต่ำ และชาร์จได้อย่างเสถียร์มากขึ้น
สรุป รีวิว realme 12 Pro+ 5G หลังลองใช้ ดีแค่ไหน คุ้มที่จะซื้อหรือไม่?
บอกเลยอย่างแรกว่า “เครื่องสวยมากกกกกกก” กับดีไซน์แบบนาฬิกาหรู โดยเฉพาะสีน้ำเงิน Submarine Blue ตัวหนังวีแกนตัดกับเส้นสายและโมดูลกล้องสีทอง ดูแล้วออร่าความสว่างเริ่ดหรูแบบสุดติ่งจริงๆ ตัวหนังวีแกนนั้นใช้เป็นเกรดดี มีความนุ่มนวลในการจับถือ
การออกแบบมีความโค้งมนจากด้านหลังไปยังกระจกด้านหน้าที่เป็นขอบโค้ง ยิ่งให้ความสวยงามและจับกระชับรับอุ้งมือ ขนาดของเครื่องรวมกับน้ำหนักที่เบา ยิ่งช่วยให้การถือใช้งานในระหว่างวันถนัดและคล่องตัว
การได้กล้องซูมแบบ Periscope เพิ่มเข้ามา เป็นเหมือนการปลดล็อคในการถ่ายภาพทั้งแบบพอร์ตเทรตและสตรีท ให้มีระยะที่ไกลมากขึ้น คือเราไม่ได้จะซูมเพื่อไปดึงวัตถุที่ไกลโพ้นมาอยู่ใกล้ๆ แต่เราสามารถใช้ระยะการซูมที่ 3x และ 6x ที่อยู่ในช่วงห่างประมาณ 2-4 เมตร สำหรับการถ่ายภาพบุคคลให้เข้ามาใกล้แล้วระยะ Focal ด้านหลังถูกถึงเข้ามาใกล้กับแบบ รวมกับการทำเอฟเฟกต์โบเก้ ยิ่งทำให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน มีความใกล้เคียงกับกล้องระดับโปรมากขึ้น
หลายๆ โอกาส สามารถหยิบ realme 12 Pro+ 5G ขึ้นมาเป็นกล้องถ่ายได้ทันที ในเวลาที่ต้องการอย่างระหว่างวัน การเดินทาง ท่องเที่ยว ที่บางที่ก็ไม่ได้พกกล้องใหญ่มาด้วย หรืออยู่ที่ๆ ไม่สะดวกใช้กล้องถ่ายรูป เราก็ยังสามารถเก็บภาพที่สวยงามคมชัดได้
ประสิทธิภาพของกล้อง นอกจากการซูมแล้ว การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือเวลากลางคืนก็ทำได้ดี เก็บแสงสีรายละเอียดคมชัด และการใช้งานร่วมกับระยะเลนส์ต่างๆ ก็ทำให้เก็บภาพได้สนุกมากขึ้น
ส่วนตัวแล้วผมเป็นแฟนของโหมด Street ในสมาร์ตโฟน realme ที่มีการออกแบบ UI ให้ใช้งานถ่ายภาพได้อารมณ์เหมือนถ่ายด้วยกล้องคอมแพ็ค ที่เลือกปรับระยะซูมได้รวดเร็ว ปรับโทนสีฟิลเตอร์ได้หลากหลาย ช่วยให้เก็บ snap ภาพในแต่ละวันได้อย่างสร้างสรรค์และถ่ายได้สนุกมากๆ
ประสิทธิภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นระดับกลาง ที่อาจจะไม่ได้แรงจัดแต่ก็อยู่ในระดับที่ใช้งานระหว่างวัน แอปโซเชียล ดูคอนเทนต์บันเทิง หรือเล่นเกมกราฟฟิกขั้นสูงก็ยังพอได้ และการได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมชาร์จไว จึงหายห่วงสบายใจได้ว่าใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่สะดุดหรือขาดตอน
ราคา และการวางจำหน่าย realme 12 Pro+ 5G
realme 12Pro+ 5G มีให้เลือกทั้งสี Submarine Blue และสี Navigator Beige โดยรุ่นความจุ 12/512GB ราคา 16,999 บาท และ รุ่นความจุ 8/256GB ราคา 13,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตามช่องทางดังนี้
ช่องทางเครือข่าย AIS, TRUE และ DTAC ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 มีนาคม รุ่นความจุ 8/256 ราคาเริ่มต้นเพียง 8,699 บาทและรุ่นความจุ 12/512GB ราคาเริ่มต้น 11,699 บาท พร้อมรับส่วนลดวันรับเครื่องสูงสุด 1,500 บาทและของแถมอีกมากมาย
ช่องทาง COM7, IT City, TG, Jaymart, Stamp และ Maxlink ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม รุ่นความจุ 12/512GB รับส่วนลด 1,000 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB รับส่วนลด 500 บาท
ช่องทางอีคอมเมิร์ช ตั้งแต่วันที่ 21-26 มีนาคม พิเศษ! กับ Shopee Exclusive (เฉพาะรุ่นความจุ 12/512GB เท่านั้น) ในราคาเพียง 15,999 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Lazada สำหรับรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Tiktok Shop ในรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท พร้อมรับของแถมอีกมากมายในทุกแพลตฟอร์ม
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (12/512GB) Shopee Exclusive
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Shopee
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Lazada
- ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Tiktok
- ช่องทาง realme Brand Shop ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม วันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท พร้อมของแถมอีกมากมาย และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ผ่านช่องทางดังกล่าวรวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ
realme 12 Pro+ 5G
“สมาร์ทโฟนงบหมื่นนิด ดีไซน์สวย กล้องดีเกินคาด
realme 12 Pro+ 5G เปิดตัวมามีเรื่องให้ชมเยอะมาก ตั้งแต่การออกแบบที่ดูพรีเมียม ไม่ก๊อกแก๊ก ถือจับแล้วให้ความรู้สึกละมุนมือ กล้องหลังเพิ่มแบบ Periscope ทำให้การซูมระยะไกลคมชัดขึ้น ถ่ายพอร์ตเทรตได้มิติและมุมมองที่แตกต่าง