นายเดวิด หลี่ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หัวเว่ย ได้เปิดตัว เทคโนโลยีฐานข้อมูลรุ่นล่าสุด GaussDB ในไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลงทุนและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย โดยหัวเว่ยเชื่อว่า GaussDB จะเป็นเทคโนโลยีฐานข้อมูลที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยและช่วยปลดล็อคคุณค่าสูงสุดทางด้านข้อมูลในยุค Big Data และ AI
GaussDB เป็นผลจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 20 ปี และผ่านการทดสอบใช้งานจริงในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในจีนมาแล้ว จนมั่นใจว่าสามารถส่งมอบประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนที่จะขยายมาเปิดตัวในไทย ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศนำร่องที่สำคัญของหัวเว่ย โดยจุดเด่นของ GaussDB คือการรองรับภาระงานทั้งบนคลาวด์สาธารณะและคลาวด์ส่วนบุคคล สามารถขยายขนาดได้อย่างไร้ขีดจำกัด และมีความยืดหยุ่นสูง ทั้งยังให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าแม้ในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างครอบคลุม เพื่อรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ปัจจุบันประเทศไทยมีจุดแข็งด้านผู้ใช้งานดิจิทัลจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนบุคลากรด้านดิจิทัลที่จะมาช่วยสร้างโซลูชันและระบบนิเวศในประเทศ ซึ่งหัวเว่ยได้เล็งเห็นถึงความท้าทายนี้ จึงมีเป้าหมายที่จะเข้ามาช่วยบ่มเพาะทักษะดิจิทัลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย ด้วยการลงทุนและดำเนินกิจกรรมผ่านศูนย์ข้อมูลทั้ง 3 แห่งที่หัวเว่ยได้ลงทุนในไทยไปก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ หัวเว่ยเข้ามาดำเนินธุรกิจในไทยต่อเนื่องมากว่า 24 ปี ภายใต้พันธกิจ “เติบโตในประเทศไทย สนับสนุนประเทศไทย” โดยมุ่งมั่นที่จะส่งมอบเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลให้กับทุกภาคส่วนของไทย ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคการขนส่ง ภาคธนาคาร ไปจนถึงภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ภายใต้เจตนารมย์ “นำทุกฝ่ายก้าวไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง”
นายเดวิด หลี่ กล่าวทิ้งท้ายว่า GaussDB จะเป็นเทคโนโลยีฐานข้อมูลชั้นแนวหน้าของ หัวเว่ย ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบต่างๆแล้ว ยังสามารถบูรณาการเข้ากับเทคโนโลยี AI, Cloud และ Big Data ได้อย่างลงตัว เพื่อปลดล็อคคุณค่าสูงสุดและพาประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของอาเซียนอย่างเต็มภาคภูมิต่อไป