Nothing แนะนำหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ Nothing Ear และ Ear (a) ออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์เสียงคุณภาพดี พร้อมเพิ่มฟีเจอร์สุดล้ำ กับหูฟังรุ่นแรกที่ทำงานร่วมกับ ChatGPT
Nothing Ear

ถูกออกแบบมาเพื่อนักฟังเพลงที่แสวงหาคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด มาพร้อมชิปขับเคลื่อนแบบไดนามิกขนาด 11 มม.จากวัสดุเซรามิกเกรดพรีเมียม ให้เสียงแท้จริงชัดเจน ไดอะแฟรมที่ให้เสียงเบสลึกและเสียงแหลมที่คมชัดยิ่งขึ้น รวมถึงการออกแบบห้องเสียง 2 ชั้นที่ปรับปรุงขึ้นเพิ่มช่องระบายอากาศให้เสียงมีมิติมากขึ้น Ear ยังรองรับ LHDC 5.0 และ LDAC codec เพื่อสตรีมเสียงคุณภาพสูงผ่านบลูทูธ โดยให้อัตราบิตสูงสุดถึง 1 Mbps ที่ 24 บิต/192kHz ด้วย LHDC 5.0 และสูงสุด 990 kbps 24 บิต/96kHz ด้วย LDAC สามารถปรับแต่งอีควอไลเซอร์ได้อย่างละเอียดผ่านแอป Nothing X เพื่อให้เหมาะกับแนวเพลงที่ชื่นชอบ
Nothing Ear มาพร้อมระบบลดเสียงรบกวน ANC ที่ทรงพลังและชาญฉลาดที่สุดของ Nothing ด้วย Smart ANC algorithm ใหม่ตรวจสอบการรั่วไหลของเสียงและปรับการตัดเสียงโดยอัตโนมัติ พร้อม Adaptive ANC ที่ปรับระดับการตัดเสียงได้ถึง 3 ระดับอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ที่ระดับสูงสุด 45 เดซิเบลจะมีประสิทธิภาพเกือบเท่า Ear (2) ด้วยช่วงความถี่ถึง 5000Hz สามารถตัดเสียงรบกวนซับซ้อนได้ดีขึ้น ส่วนด้านประสิทธิภาพ Ear มีแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานขึ้น 25% เล่นเพลงต่อเนื่องได้สูงสุด 8.5 ชั่วโมง หรือรวม 40.5 ชั่วโมงเมื่อใช้พร้อมกับซองชาร์จ สามารถชาร์จไร้สายที่ 2.5W หรือชาร์จเร็ว 10 นาทีเพื่อเล่นเพลงได้ถึง 10 ชั่วโมง Ear ยังมีเทคโนโลยี Clear Voice ที่พัฒนาขึ้น ออกแบบช่องไมค์ใหม่ให้ลดเสียงรบกวนขณะคุยลงถึง 60% เทียบกับ Ear (2)
Nothing Ear (a)

ออกแบบมาให้เป็นเพื่อนคู่ใจในชีวิตประจำวันสำหรับคนรักเสียงเพลงทั่วไป มาในรูปลักษณ์ใหม่สีเหลืองสดใสแต่ยังคงความโปร่งใสตามสไตล์ของแบรนด์ ขนาดกะทัดรัดสวมใส่สบายทั้งในกระเป๋าและในมือ ด้านเสียงมากับไดร์เวอร์รุ่นใหม่ที่ให้กำลังขับเสียงเบสสูงขึ้นถึง 2.5 เท่า แต่ยังรักษารายละเอียดระดับ Hi-Res ด้วยการรองรับการสตรีมผ่านบลูทูธได้สูงสุด 990 kbps ที่ 24 บิต/96kHz รวมถึงใช้งานร่วมกับ LDAC codec เพื่อเสียงคุณภาพสูง
Nothing Ear (a) มาพร้อม Smart ANC และ Adaptive ANC เช่นเดียวกับรุ่น Ear ลดเสียงรบกวนได้สูงสุดถึง 45 เดซิเบล ส่วนแบตเตอรี่ 500 mAh ในซองชาร์จและ 46 mAh ในตัวหูฟังแต่ละข้างนั้นช่วยให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 42.5 ชั่วโมง โดยชาร์จเพียง 10 นาทีก็เล่นต่อได้ถึง 10 ชั่วโมงด้วยพลังจากซองชาร์จ นอกจากนี้ Ear (a) ยังเชื่อมต่อได้พร้อมกันกับอุปกรณ์ 2 เครื่อง โหมด Low Lag ช่วยลดความหน่วงของเสียงเพื่อการเล่นเกมที่ราบรื่น
Nothing Ear และ Ear (a) มีไฮไลท์สำคัญคือการผสานรวม ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึง AI ระดับแนวหน้าได้โดยตรงจากหูฟังผ่านฟังก์ชัน pinch-to-speak ส่วนบนสมาร์ทโฟนที่ใช้ Nothing OS เวอร์ชันล่าสุดและติดตั้ง ChatGPT ก็จะสามารถเข้าถึง AI ได้โดยตรงผ่านวิดเจ็ตและการแชร์หน้าจออีกด้วย
หูฟัง Nothing Ear และ Ear (a วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วในราคา 5,599 บาท และ 3,799 บาท ตามลำดับ โดยเริ่มวางจำหน่ายจำนวนจำกัดทาง Carnival ในวันที่ 26 เมษายนนี้ และเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการทั่วประเทศในวันที่ 4 พฤษภาคม ทั้งทางออนไลน์ทาง Nothing Shopee Official Store และเว็บไซต์ Dotlife รวมถึงร้านค้าปลีกชั้นนำอย่าง Dotlife, Power Mall และ Jaymart