รีวิว realme C65 สมาร์ทโฟนสุดคุ้มแบบ Essential Plus ใช้งานราบรื่น ทนทาน ราคาเพียง 6,499 บาท

รีวิว realme C65 สมาร์ทโฟนรุ่นสุดคุ้ม ตอบโจทย์สำหรับวัยรุ่น ที่ต้องการคุณภาพและความสนุกสนาน ดีไซน์สวย ใช้งานได้ทนทาน เปิดตัว ราคา 6,499 บาท

realme C65 ถือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในตระกูล C Series ภายใต้ตำแหน่งใหม่ที่ชื่อว่า “Essential Plus” ที่ออกแบบมาการใช้งานที่ราบรื่นไม่มีสะดุด ทนทาน ตัวเครื่องออกแบบสวยงามสะดุดตา โดยเน้นคุณภาพที่น่าพึงพอใจ ใช้งานง่าย เจาะกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่น โดยให้ประสบการณ์ครบครันมากกว่าสมาร์ทโฟนอื่น ๆ ในกลุ่มราคาเดียวกัน

สเปค realme C65

  • ขนาด 165.7 x 76.1 x 7.64 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 185 กรัม
  • หน้าจอ 6.67 นิ้ว HD+ (720 x 1600) รีเฟรชเรต 90Hz (Touch Sampling Rate 180Hz) สัดส่วน 20:9 ค่าความสว่างสูงสุด 625nits
  • ชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 (12nm) ซีพียู Octa-core ความเร็วสูงสุด 2GHz
  • GPU ARM Mali-G52
  • RAM 8GB LPDDR4X
  • ROM 256GB รองรับ microSD สูงสุด 2TB
  • กล้องหน้า 8MP รูรับแสง f/2.05
  • กล้องหลัง 50MP f/1.8
  • แบตเตอรี่ 5000mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC
  • ระบบปลดล็อคเครื่อง สแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง / สแกนใบหน้า (2D)
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, หูฟัง 3.5mm
  • เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 2.4GHz, 5GHz
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 5.0 บนพื้นฐาน Android 14
  • มีให้เลือก 2 สี Starlight Purple และ Starlight Black

Open Box แกะกล่องดูดีไซน์

แพ็กเกจสมาร์ทโฟนของเรียลมี จะมาพร้อมกับกล่องสีเหลีองสดอันเป็นสีของแบรนด์ที่ดูสดใสน่าตื่นเต้น ในกล่องก็จะมีเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น, เข็มสำหรับจิ้มกดถาดซิม, เคสใสแบบ TPU สำหรับป้องกันรอยขีดข่วนตัวเครื่อง

ด้านล่างสุดของกล่อง จะเป็นอุปกรณ์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ที่ให้มาครบทั้งสาย USB-A to USB-C ความยาวประมาณ 1.2 เมตร และอะแดปเตอร์ชาร์จที่รองรับมาตรฐานชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC พร้อมให้ใช้ตั้งแต่แกะกล่อง

ตัวเครื่องของ realme C65 จะมีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ สีม่วง Starlight Purple และ สีดำ Starlight Black ซึ่งเป็นสีที่ทาง TechOffside เราได้มาทดสอบ รีวิว ในครั้งนี้

รีวิว realme C65

การออกแบบฝาหลังเป็นพื้นผิวแบบคู่ ที่มีความละเอียดและปราณีตในการสร้างเอฟเฟกต์บนพื้นผิวระดับอนุภาคจำนวนมากให้เกิดเป็นประกายระยิบระยับ ซึ่งเป็นเทคนิคระดับสูงในการพัฒนาและการผลิต ทำให้เวลาที่มีแสงส่งกระทบที่แตกต่างกัน ก็จะมีเกล็ดประกายที่สวยงาม และเหลือบสีของเครื่องที่แตกต่างกัน

รีวิว realme C65

อย่าง สีดำ Starlight Black นั้น ไม่ได้เป็นสีดำเรียบๆ แต่เมื่อถูกแสงสะท้อนจะมีความเหลือบสีน้ำเงินที่ทำให้เป็นสีดำที่ไม่ดูทึบๆ รวมถึงผิวสัมผัสของฝาหลังยังเป็นแบบด้านที่มีความละมุนนิ้วเมื่อสัมผัส และมีรอยนิ้วมือติดที่ผิวของฝาหลังน้อยมาก

รีวิว realme C65

ช่วงของโมดูลกล้องหลัง ดีไซน์ในสไตล์แบบรุ่นระดับเรือธง มีการเล่นลูกเล่นของพื้นผิวให้เป็นสีเงาแวววาว นูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย และวางเรียงตัวเลนส์กล้องเป็นแนวสวยงาม

รีวิว realme C65

ความบางของตัวเครื่อง อยู่ที่ 7.64 มิลลิเมตร ถือว่าบางมากกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน ดีไซน์เป็นขอบแบบแบนเรียบ สีเป็นโทนเดียวกับฝาหลังเข้ากันอย่างลงตัว

ที่ฝั่งขวาของตัวเครื่องจะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่ม Power โดยมีความพิเศษที่รวมเอาเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้ด้วยกัน ทำให้เวลากดปุ่ม Power เพื่อเปิดหน้าจอ ก็จะปลดล็อคเครื่องได้ทันที และเซ็นเซอร์นี้ยังสามารถสแกนได้แม้ว่ามือของคุณจะเปียกน้ำอยู่ก็ตาม

รีวิว realme C65

ส่วนทางซ้ายของเครื่องจะเป็นช่องของถาดใส่ซิม ที่เป็นแบบ Triple slot สามารถใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 เบอร์ และช่องใส่ microSD ที่รองรับในการเพิ่มความจุในเครื่องได้มากสุดถึง 2TB

รีวิว realme C65

ด้านล่างของตัวเครื่องมีพอร์ต 3.5มม. สำหรับเสียบหูฟัง และพอร์ต USB-C สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่และถ่ายโอนข้อมูล

รีวิว realme C65

หน้าจอเป็นแบบ Eye Comfort Display ให้มาขนาดใหญ่ 6.67 นิ้ว ความละเอียด HD+ (1604 x 720) แสดงสี 16.7 ล้านสี มีค่ารีเฟรชเรตสูงสุดที่ 90Hz (Touch Sampling Rate 180Hz) ค่าความสว่างสูงสุด 625nits ปรับสว่างได้น้อยสุด 1nit

ด้วยหน้าจอมีคุณสมบัติช่วยปกป้องดวงตาจากแสงสีฟ้า ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก TÜV Rheinland Low Blue Light Certificate ทำให้ในการใช้งานรับชมวิดีโอหรือเล่นเกมต่อเนื่องเป็นเวลานาน ก็ทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าน้อยลง ช่วยถนอมสุขภาพของดวงตาจากการใช้งานในสภาพแสงน้อยได้เป็นอย่างดี

ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหล

รีวิว realme C65

realme C65 ใช้ชิปเซ็ตเป็น MediaTek Helio G85 (12nm) ซีพียู Octa-core ความเร็วสูงสุด 2GHz ที่พร้อมใช้งานได้หลากหลาย โดยมีพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่องให้มาถึง 256GB ที่ยังสามารถขยายพื้นที่ด้วย microSD เพิ่มได้สูงสุดถึง 2TB ทำให้สามารถเก็บข้อมูลไฟล์ภาพ, วิดีโอ และติดตั้งแอปได้มากอย่างที่ต้องการ

รีวิว realme C65

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Dynamic RAM ที่ขยายพื้นที่หน่วยความจำจากที่ปกติมีให้มา 8GB แล้วแปลงเอาพื้นที่ ROM จัดเก็บข้อมูลมาเป็น RAM แบบเสมือนเพิ่มขึ้นได้สูงสุดอีก 8GB รวมเป็น 16GB ช่วยให้สามารถทำงานเปิดแอปพลิเคชันเบื้องหลังไว้หลายๆ แอปได้โดยยังใช้งานได้ลื่นไหล ได้ประสบการณ์ราบรื่นใกล้เคียงกับการใช้ RAM 16GB แบบปกติจริงๆ

รีวิว realme C65

ระบบเสียงตัวลำโพงเป็นแบบ Ultra-Linear ที่มีระบบการเพิ่มเสียง UltraBoom 200% เร่งเสียงจากลำโพงให้ดังขึ้นกว่าปกติได้ถึง 2 เท่า โดยยังให้ประสิทธิภาพความชัดของเสียงที่ดี เหมาะสำหรับในสถานการณ์ที่ต้องใช้ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรอบข้างรบกวนเป็นจำนวนมาก

รีวิว realme C65

ในด้านของพลังงาน ในเครื่องใส่แบตเตอรี่มาให้ความจุมากถึง 5000mAh ที่เพียงพอสำหรับการใช้งานตลอดทั้งว้นตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นได้อย่างสบายๆ และยังมีระบบชาร์จเร็ว 45W SUPERVOOC มาให้ด้วย ช่วยให้คุณชาร์จเพียงแค่ 30 นาทีก็ได้แบตเตอรี่เพิ่มขึ้นถึง 50% ถือว่าเป็นระบบการชาร์จที่เร็วและปลอดภัยที่สุดเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน

ฟีเจอร์อัจฉริยะ ใช้งานไม่มีสะดุด

รีวิว realme C65

และเพื่อความ “Essential Plus” ใน realme C65 จัดเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่าง AI Boost มาให้ เพื่อช่วยประเมินและวิเคราะห์การทำงานของระบบ ผ่าน AI ที่จะมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรให้พร้อมทำงานในการเปิดแอพพลิเคชันต่างๆ ตั้งแต่เริ่มต้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพล่วงหน้าสำหรับการใช้งานแอพพลิเคชันหรือเกมที่ต้องการทรัพยากรเพื่อการทำงานหนักๆ ได้อย่างเต็มที่

AI Boost จะเข้ามาช่วยให้ระบบทำงานเปิดแอพต่างๆ ได้เร็วขึ้นถึง 5% ให้ความราบรื่นในการเลื่อนแอพกลุ่ม Top 10 ดีขึ้น 5% ส่วนเวลาที่เล่นเกม ยังช่วยลดเวลาหน่วงลงได้ 5% พร้อมเพิ่มความเสถียรของเฟรมเรตได้นิ่งขึ้นได้ถึง 10%

รีวิว realme C65

ในส่วนของฟีเจอร์การใช้งาน มี Air Gesture ที่เป็นการใช้ท่าทางของมือในการควบคุมสมาร์ทโฟนผ่านกล้องหน้าและเซ็นเซอร์ ให้คุณสามารถใช้งานในบางสถานการณ์อย่างเช่น มือเลอะหรือกำลังรับประทานอาหาร แล้วไม่สะดวกที่จะแตะสั่งงานที่หน้าจอ ก็สามารถใช้มือปัดเป็นท่าทางเพื่อสั่งงานได้ ทั้งการรับสายวางสายโทรเข้า, หรือเปลี่ยนคลิปวิดีโอที่กำลังเล่นอยู่

รีวิว realme C65

และที่น่าทึ่งสำหรับ realme C65 ที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับราคาประหยัด แต่มีฟีเจอร์อย่าง Rainwater Smart Touch ที่แม้ว่ามือของผู้ใช้จะเปียกน้ำ หรือหน้าจอมีหยดน้ำ ก็ยังสามารถแตะสัมผัสเพื่อสั่งงานได้อย่างไม่ผิดพลาด ให้คุณใช้งานในบางสถานการณ์อย่างตอนที่มีฝนพร่ำ หรือเครื่องเปียก ก็ยังใช้งานได้ รวมไปถึงตัวเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่มด้านข้าง ก็สามารถสแกนได้ในตอนที่นิ้วเปียกน้ำได้ด้วยเช่นกัน

อีกลูกเล่นที่ใส่มาให้และมีประโยชน์ก็คือ Dynamic Button ที่ให้เราตั้งค่าคำสั่งการกดปุ่ม power ให้สามารถสั่งการได้หลากหลายมากกว่าแค่เปิดปิดหน้าจอ โดยเลือกเพิ่มคำสั่งเมื่อสัมผัส, กด 2 ครั้ง ฯลฯ เพื่อสั่งคำสั่งที่ใช้งานบ่อยๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์อย่าง Mini Capsule ที่จะมีการแสดงผลการทำงานเบื้องหลังแบบย่อส่วนที่ด้านข้างของกล้องหน้า ทั้งการแจ้งจำนวนก้าวเดิน, พยากรณ์อากาศ, การจับเวลา หรือข้อมูลระหว่างทำการชาร์จแบตเตอรี่

คุณภาพคุ้มราคา ประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้

นอกจากราคาที่เข้าถึงได้ง่าย เรียลมีให้ความสำคัญในการเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานสมาร์ทโฟนมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การผลิตที่มีมาตรฐานการทดสอบอย่างเข็มงวด มากวก่า 320 ครั้งในห้องปฏิบัติการของ realme ที่สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัดได้ ผ่านการทดสอบการกดปุ่มเปิด/ปิด 500,000 ครั้ง, การทดสอบเสียบสาย USB เข้าออก 20,000 ครั้ง และผ่านการทดสอบการบีบด้วยแรงกด 20 กิโลกรัมถึง 1,000 ครั้ง ให้คุณมั่นใจว่าเครื่องนั้นมีความทนทานที่จะให้คุณใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา

รวมถึงตัวเครื่องผ่านมาตรฐานการกันน้ำกันฝุ่นที่ IP54 ที่สามารถป้องกันของเหลวหกใส่ ฝนตก รวมถึงฝุ่นละออง ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ

คุณภาพของแบตเตอรี่ มีการพัฒนาทั้งระบบบริหารจัดการพลังงานและการชาร์จที่เหมาะสม ช่วยให้อายุรอบการใช้งานแบตเตอรี่มีความยาวนาน ในระดับที่ผ่านการใช้งานครบ 1,600 รอบ ยังคงรักษาสุขภาพของแบตเตอรี่ไว้ได้มากกว่า 80% เท่ากับว่าถ้าคำนวนการใช้งานชาร์จวันละ 1 ครั้ง คุณก็ยังสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้อย่างสบายใจไปได้นานถึง 4 ปี

สำหรับการชาร์จ มั่นใจได้ด้วยระบบ Smart Charging และการป้องกันความปลอดภัยถึง 38 รายการ ที่ช่วยตรวจเช็คและป้องกันให้ระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่มีอุณหภูมิที่เหมาะสม ไม่สูงจนเกินไป และพร้อมตัดระบบไม่ให้เกิดความเสียหายจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดหรือความบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นได้

และสิ่งที่สำคัญที่สุด realme C65 นั้นผ่านมาตรฐานการรับรองของ TÜV SÜD Fluency ที่รับประกันว่าผู้ใช้งานจะได้ประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่นตลอดการใช้งาน 48 เดือน หรือ 4 ปี ทั้งด้านของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เรียกได้ว่าถึงแม้จะเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น คุณก็ไม่ต้องกลัวเมื่อใช้ไปนานๆ หลายปีแล้วเครื่องจะอืด

กล้องหลัง AI 50MP ถ่ายสนุก ลูกเล่นเพียบ

เรื่องถ่ายรูป realme C65 ทำได้น่าประทับใจเลยไม่ใช่น้อย ด้วยกล้องหลังที่ให้มาความละเอียดสูงถึง 50MP มาพร้อมกับระบบ AI ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในโหมดต่างๆ ทำออกมาได้ดี

ตัวกล้องมีให้มาครบกับโหมดถ่ายภาพที่เลือกปรับระยะแบบ In-sensor ในระยะ 2 เท่าก็ยังไม่สูญเสียความคมชัด ทำให้คุณปรับระยะการถ่ายได้มากขึ้น

การถ่ายภาพต่างๆ ในสภาพแสงน้อย หรือย้อนแสง ระบบ HDR ทำได้ดีที่จะช่วยดึงภาพในส่วนสว่างจ้าให้มีรายละเอียด และส่วนที่เป็นเงามืดก็ไม่ได้มืดสนิท ยังมีให้เห็นรายละเอียดได้อยู่

ในส่วนการถ่ายภาพบุคคล Portrait มีให้เลือกปรับค่ารูรับแสงเพื่อให้ฉากหลังเบลอสวยอย่างเป็นธรรมชาติ รวมถึงระบบ AI ช่วยจัดการปรับความสวยงามของใบหน้าได้สวยเนียนอย่างที่ต้องการ พร้อมกับระยะเลนส์ที่เลือกได้ทั้ง 26mm และ 52mm

โหมดที่เป็นเอกลักษณ์ของ realme อย่างโหมด Street ก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน ที่ช่วยให้คุณเลือกปรับระยะเลนส์ในการถ่ายภาพ ทั้งในระยะ 26mm ที่เก็บในมุมกว้างสุด และ 52mm ที่เหมาะสำหรับเจาะระยะบุคคล

โหมดกลางคืนก็มีมาให้ด้วยเช่นกัน สามารถเก็บความสว่างในภาพได้อย่างคมชัด ไม่มีการสว่างพร่ามัว และมองเห็นรายละเอียดในภาพได้เป็นอย่างดี

กล้องหน้าเซลฟี่ที่ความละเอียด 8MP ถือว่าความละเอียดยังไม่ได้มากเท่าไรนัก แต่ก็ยังเก็บภาพออกมาได้ดี และรูรับแสงที่ค่อนข้างกว้างทำให้เก็บแสงสว่างและมี noise ในภาพที่ไม่มากนัก

สรุปรีวิว realme C65 คุ้มค่าแค่ไหนกับราคา x,xxx บาท

เรียลมีมุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาสมาร์ทโฟนโดยเน้นเรื่องความคุ้มค่า ได้ฟีเจอร์และประสบการณ์ใช้งานที่ครบครื่องที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มราคาเดียวกัน realme C65 ถือว่าตีโจทย์นี้แตกและทำได้น่าพอใจ

ดีไซน์ตัวเครื่องทำออกมาสวยตั้งแต่การออกแบบตัวเครื่องที่ถือจับได้เข้ามือ สีสันที่ไม่ได้เรียบยังมีมิติและลูกเล่นเอฟเฟกต์ที่สวยงามยามมีแสงกระทบที่แตกต่างกัน ขนาดหน้าจอให้มาใหญ่เต็มตาถูกใจทั้งคนชอบดูหนังดูซีรีย์และเล่นเกม

ด้านของประสิทธิภาพ กับ RAM 8GB ที่เพิ่ม Dynamic RAM ได้อีกเป็น 16GB ทำงานกับชิปเซ็ต MediaTek Helio G85 ถือว่าใช้งานได้ไหลลื่นกับแอปปกติทั่วไปที่ใช้เป็นประจำ เปิดหลายๆ แอปค้างไว้ก็ยังทำงานได้ดีอยู่

ส่วนของการเล่นเกม สำหรับเกมทั่วๆ ไปเล่นได้ไม่มีปัญหา ส่วนเกมหนักๆ อย่าง RoV จากที่ทดสอบลองเล่นนั้น ปรับกราฟิคระดับเริ่มต้น ยังพอเล่นในเฟรมเรตที่ 45fps แบบนิ่งๆ ได้อยู่ ถือว่าทำได้สมน้ำสมเนื้อกับสเปคและราคาค่าตัวระดับนี้

ในเรื่องของกล้องถึงแม้กล้องหลังจะมีเป็นกล้องหลัก 50MP แต่ด้วย AI และซอฟต์แวร์ของ realme ทำให้การถ่ายภาพมายังได้คุณภาพที่สวยงาม คมชัด เก็บภาพสวยๆ ไว้โชว์ไว้แชร์ลงโซเชียลได้ไม่อายใคร แต่อาจจะมีจำกัดบ้างอย่างในระยะมุมกว้าง Ultra-wide ที่ไม่มีมาให้ ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ 8MP ถือว่าทำได้ในระดับที่ดีพอใช้

โดยรวมแล้ว realme C65 เป็นสมาร์ทโฟนในกลุ่มเริ่มต้น ที่เน้นในเรื่องความคุ้มค่าในการใช้งานระยะยาว กับมาตรฐานต่างๆ ที่ให้คุณใช้งานต่อเนื่องหลายปีได้โดยเครื่องไม่อืด การออกแบบที่ทนทานต่อการใช้งานในแต่ละวัน กันน้ำกันฝุ่นได้ รวมถึงแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพใช้งานโดยที่อายุการที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนานหลายปี

ถามว่าเหมาะกับใคร ต้องบอกว่า realme C65 สร้างมาให้สำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนระดับราคาเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก แต่ยังคงได้ประสิทธิภาพในการใช้งานพื้นฐานต่างๆ ที่ดี ได้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล ระบบเครื่องที่ใช้งานง่ายที่ได้ฟีเจอร์อัจฉริยะมาอำนวยความสะดวกในหลากหลายได้

ราคาและการวางจำหน่าย realme C65

realme C65 8GB+256GB ราคา 6,499 บาท พร้อมวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม เป็นต้นไปผ่านช่องทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ Tiktok Shop

และเป็นเจ้าของได้พร้อมกันตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคมเป็นต้นไป ผ่านช่องทางโอเปอร์เรเตอร์ AIS, True และ Dtac ในราคาเริ่มต้นเพียง 3,799 บาท ช่องทาง realme Brand Shop และศูนย์จำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศ พร้อมรับของแถมในแต่ละช่องทาง

realme Buds T110 review

รีวิว realme Buds T110

อีกผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวพร้อมกับ realme C65 ที่เราได้มา รีวิว พร้อมกันนี่คือ realme Buds T110 หูฟังไร้สายแบบ True Wireless ที่โดดเด่นตั้งแต่การออกแบบดีไซน์แบบ Two Tone ที่ดูเท่ทันสมัย และคุณภาพเสียงเบสสะใจ

รีวิว realme Buds T110

realme Buds T110 ตัวแพ็กเกจมาจะมีตัวหูฟังอยู่ในเคสชาร์จ พร้อมกับคู่มือการใช้งาน, สายชาร์จ USB และตัวจุกยางซิลิโคนให้เลือกเปลี่ยนได้ถึง 3 ขนาดคือ เล็ก กลาง และใหญ่ เพื่อให้คุณเลือกสวมใส่ได้อย่างกระชับกับขนาดหูของคุณ เพื่อได้เสียงที่ดีที่สุด

รีวิว realme Buds T110

สีของ realme Buds T110 อย่างที่บอกไปว่าดีไซน์จะเป็นแบบ Two Tone 2 สี โดยจะมี 2 สไตล์ให้เลือกกับ Punk Black ที่ตัวเคสจะเป็นสีดำ ภายในเป็นสีเหลืองแบบเรียลมี และอีกแบบคือ Country Green ตัวเคสเป็นสีเขียวอ่อนพาสเทล ส่วนภายในเป็นสีเทา

สำหรับ realme Buds T110 ที่ทางทีมงาน TechOffside เราได้มาทดสอบ รีวิว นี้เป็นสี Punk Black ที่ส่วนตัวผมชอบมาก ด้วยคู่สีที่ตัดกันแล้วดุดันดูทันสมัย

รีวิว realme Buds T110

ตัวเคสชาร์จที่ด้านหน้าจะมีไฟ LED สำหรับแสดงสถานะการทำงานระหว่างที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่

โดยที่การชาร์จจะเป็นการชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่อยู่ด้านล่างของเคส ในการใช้งานสามารถชาร์จตัวเคสเต็มจาก 0-100% ได้ภายใน 90 นาที ส่วนตัวหูฟัง มีระบบชาร์จเร็วที่เก็บหูฟังไว้ในเคสเพียง 10 นาที สามารถชาร์จแบตเตอรี่เพื่อฟังเพลงได้นานถึง 2 ชั่วโมง

ถ้านับรวมการใช้งานทั้งหมด ตัวหูฟังจะใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 38 ชั่วโมง โดยตัวหูฟังใช้งานแบตเตอรี่เต็ม 1 รอบจะอยู่ได้นานสุดถึง 7 ชั่วโมง และใช้สำหรับการสนทนาต่อเนื่องได้ถึง 4.5 ชั่วโมง

รีวิว realme Buds T110

มาดูที่ตัวหูฟังกันบ้าง ดีไซน์มาเป็นแบบ In-ear ที่ต้องอุดไว้ในรูหู โดยจะมีก้านของตัวไมค์สำหรับสนทนา การสั่งคำสั่งจะเป็นการแตะที่ด้านหลังของตัวหูฟัง ที่จะมีให้กด 3 รูปแบบด้วยกันคือ

  • แตะ 2 ครั้ง เป็นการสั่งเล่น/หยุดเพลง และ รับสาย/วางสาย
  • แตะ 3 ครั้ง เป็นการข้ามเปลี่ยนเล่นเพลงต่อไป
  • แตะค้างไว้ สำหรับตัดสายโทรเข้า
  • แตะค้างไว้ ข้างซ้าย ปรับลดเสียง / แตะค้างไว้ ข้างขวา ปรับเพิ่มเสียง

โครงสร้างภายในของตัวหูฟัง realme Buds T110 มาพร้อมไดนามิกไดรเวอร์ขนาด 10mm ให้คุณภาพเสียงที่มีความยืดหยุ่น และโทนเสียงเบสที่เสถียร หนักแน่น โดยมี PEEK+TPU Composite Diaphragm โดย PEEK จะให้ความแข็งแรง ความทนทานต่อการใช้งานและ TPU จะช่วยให้เบสที่คุณได้ยินนุ่มลึกมากยิ่งขึ้น

ในด้านของคุณภาพเสียง realme Buds T110 รองรับ AAC ที่เป็นการเข้ารหัสที่มีอัตราส่วนการบีบอัดสูงและมีความเที่ยงตรง โดยการเชื่อมต่อจะรองรับมาตรฐาน Bluetooth 5.4 ที่มีความหน่วงของเสียงเพียง 88ms ทำให้เวลาที่ใช้เล่นเกมหรือดูวิดีโอ ภาพกับเสียงจะตรงพร้อมกันไม่มีการดีเลย์ รวมถึงยังมีการรบกวนของสัญญาณที่ตำ ทำให้เชื่อมต่อได้อย่างเสถียร ไม่หลุดบ่อย และยังประหยัดพลังงานอีกด้วย

เวลาสนทนา ตัวหูฟังมีระบบ AI ENC noise Cancellation ที่ตัวไมโครโฟน ทำให้เสียงของเราเวลาสนทนามีความคมชัดมากขึ้น ด้วยการตัดเสียงรบกวนที่ดังอยู่รอบข้างให้น้อยลง ทำให้ปลายสายที่เราพูดคุยได้ยินเสียงของเราได้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าเราจะเดินอยู่ริมท้องถนนที่มีรถวิ่งเสียงดัง หรือในรถไฟฟ้า

รีวิว realme Buds T110

การใช้งานกับสมาร์ทโฟนของ realme เมื่อเปิดฝาเคสใกล้ๆ กับมือถือของเรา จะมี Pop Up ให้ทำการเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว

เราแนะนำให้คุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน realme Link สำหรับจัดการและปรับแต่งค่าการใช้งานตัว realme Buds T110 ได้มากขึ้น ทั้งการปรับ EQ ให้ได้คาแรคเตอร์เสียงแบบที่ต้องการ, ปรับการควบคุม และยังเลือกปรับโหมดการใช้งานที่มีให้เลือก 3 แบบด้วยกันคือ

  • สว่าง (Bright) เน้นเสียงที่ชัดเจนมากขึ้น
  • สมดุล (Balanced) เสียงกลาง เสียงเบส และเสียงแหลม จะมีความสมดุลมากขึ้น
  • Bass Boost+ สำหรับคนที่ชอบจังหวะหนักๆ เบสแน่นๆ

ทดสอบลองใช้ realme Buds T110

ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายขนาดเล็ก ดีไซน์สวมใส่ได้ค่อนข้างสบาย ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป ตัวเคสส่วนตัวชอบในความสี Two Tone ที่ดูเท่ แบตเตอรี่ถือว่าใช้งานต่อเนื่องได้นาน มีชาร์จไวที่ให้ใช้ต่อเนื่องแบบไม่ทิ้งช่วง

ในเรื่องของเสียงถ้าชอบฟังเพลงแบบเน้นจังหวะและเสียงร้อง ถือว่าทำออกมาได้ดีสมกับหูฟังในราคาระดับนี้ เบสที่ค่อนข้างชัดแต่อาจจะไม่ได้คมมาก และเสียงร้องที่ชัดเจนดี

ส่วนในการใช้คุยสายสนทนา ช่วยตัดเสียงรอบข้างได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว คุยกลางเสียงดังริมถนนอีกฝั่งยังฟังเราได้รู้เรื่อง และการใช้งานผ่าน Bluetooth 5.4 สัญญาณรบกวนเกิดขึ้นน้อยและแทบไม่เจอสัญญาณหลุดเลย

โดยรวมแล้ว realme Buds T110 ถือว่าคุ้มกับราคาไม่ถึงพันบาทสำหรับหูฟังไร้สายขนาดกำลังดี กับดีไซน์และสีสันที่สวยโดนใจ

realme Buds T110 ราคา 899 บาท พร้อมวางจำหน่ายที่ realme Brand Shop และศูนย์จำหน่ายชั้นนำทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคมเป็นต้นไป โปรโมชั่นพิเศษ! เมื่อซื้อสมาร์ตโฟนทุกรุ่น สามารถแลกซื้อ realme Buds T110 ในราคาเพียง 799 บาท เฉพาะวันที่ 20-31 พฤษภาคม 2567 เท่านั้น

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน