Apple Vision Pro เตรียมบุกตลาดนอกสหรัฐฯ พร้อมอัปเดต visionOS 2 เพิ่มฟีเจอร์การทำงานแบบ Spatial และรองรับแอปมากขึ้น
Apple ประกาศข่าวใหญ่สำหรับผู้ที่รอคอย Vision Pro ที่ตอนนี้พร้อมสำหรับการขยายตลาดไปยังประเทศนอกสหรัฐอเมริกา เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์คอมพิวเตอร์เชิงมิติพื้นที่อันล้ำสมัย โดยประเทศแรกๆ ที่จะได้ใช้ Vision Pro ประกอบด้วยจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร
สำหรับลูกค้าที่อยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ จะสามารถสั่งจอง Vision Pro ล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายจริงในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ส่วนลูกค้าในออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหราชอาณาจักร ต้องรอสั่งจองล่วงหน้าในวันที่ 28 มิถุนายน โดยจะได้รับสินค้าตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม
Apple Vision Pro เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เชิงมิติพื้นที่ที่ผสมผสานโลกเสมือนเข้ากับโลกแห่งความเป็นจริง สร้างประสบการณ์การใช้งานเหนือชั้นด้วยระบบปฏิบัติการ visionOS ที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบส่งข้อมูลเข้าที่ใช้งานง่ายผ่านดวงตา มือ และเสียง, ฟีเจอร์ผืนผ้าใบไร้ขอบเขต ที่ปลดปล่อยการใช้งานแอปพลิเคชันจากกรอบของจอแบบเดิมๆ ให้ผสานไปกับพื้นที่จริงได้อย่างลงตัว รวมถึงการรองรับแอปภายใต้ visionOS มากกว่า 2,000 รายการ และยังสามารถใช้งานแอป iOS, iPadOS และ Mac ได้อีกหลายล้านรายการ ไม่ว่าจะเป็นแอปธุรกิจ สื่อบันเทิง และเกมที่น่าตื่นเต้นมากมาย โดยบริษัทและนักพัฒนาแอปชั้นนำต่างต่างเฝ้าจับตา เพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใครบน Vision Pro
อัปเดต visionOS 2
ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างก็คือ การอัปเดต visionOS 2 ที่จะปล่อยให้ผู้ใช้ทุกคนได้อัปเดตฟรีภายในช่วงปลายปี 2024 นี้ ซึ่งจะมาพร้อมกับคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จะช่วยเพิ่มการโต้ตอบและใช้ประโยชน์จากระบบเชิงมิติพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ เช่น การใช้จอภาพเสมือน Mac เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน, โหมดเดินทางที่เหมาะกับผู้ใช้งานนอกสถานที่ และการใช้งานในฐานะผู้ใช้ทั่วไปที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
นอกจากประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยมแล้ว Apple ยังให้ความใส่ใจกับรายละเอียดในทุกด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว การอำนวยความสะดวก และสิ่งแวดล้อม ด้วยเทคโนโลยี Optic ID ที่ใช้การวิเคราะห์ม่านตาเพื่อปลดล็อกอุปกรณ์, ระบบปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่ไม่มีการแชร์ข้อมูลการมองของผู้ใช้ไปยังแอปหรือเว็บไซต์ภายนอก รวมถึงคุณสมบัติด้านการช่วยเหลือการเข้าถึงสำหรับผู้มีความบกพร่องทางสายตา การได้ยิน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์จาก Vision Pro อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ Apple ยังออกแบบ Vision Pro ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้โลหะรีไซเคิล เลี่ยงการใช้สารอันตรายหลายชนิด และบรรจุภัณฑ์ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้
สำหรับราคา Apple Vision Pro พร้อมวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น $3,499 โดยมีความจุให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 256GB, 512GB และ 1TB ผู้ซื้อยังสามารถเพิ่มอุปกรณ์เสริมอย่าง ZEISS Optical Inserts เลนส์สายตาเฉพาะบุคคล ($99-$149), กระเป๋าใส่ Vision Pro สำหรับพกพา ($199) รวมถึงบริการ AppleCare+ ($499) ได้อีกด้วย โดย Apple จะเปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อได้ทั้งทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแอป Apple Store หรือที่หน้าร้าน Apple ในประเทศที่เปิดให้บริการ
ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นและการตอบรับที่ยอดเยี่ยม ชาวเน็ตหลายคนเริ่มจับตาข่าวข้อมูลของ Apple Vision Pro อย่างใกล้ชิด คาดการณ์กันว่านี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีเชิงมิติพื้นที่สู่ผู้ใช้ในวงกว้าง และปฏิวัติวิธีการทำงาน ความบันเทิง และการปฏิสัมพันธ์ในชีวิตประจำวันไปตลอดกาล ซึ่งคงต้องจับตากันต่อไปว่าเมื่อถึงเวลาวางจำหน่ายจริงในแต่ละประเทศแล้ว Vision Pro จะได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรงเพียงใด ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/apple-vision-pro