คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐอเมริกา (FTC) สั่งฟ้องบริษัท Adobe ในข้อหาปกปิดค่าธรรมเนียมการยกเลิกสมาชิกก่อนครบกำหนด และพยายามควบคุมผู้บริโภคไว้ในระบบสมาชิกแพ็คเกจราคาแพง ด้วยการสร้างระบบการยกเลิกบริการที่ยุ่งยากวุ่นวาย
ตามคำฟ้องที่ยื่นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา FTC ระบุว่า Adobe “ได้สร้างความเสียหายให้แก่ผู้บริโภค โดยการลงทะเบียนให้พวกเขาเข้าสู่แผนการสมัครสมาชิกที่ทำกำไรได้มากที่สุดโดยปริยาย โดยไม่ได้เปิดเผยข้อกำหนดที่สำคัญของแผนอย่างชัดเจน”
คำฟ้องระบุว่า Adobe ได้ “ซ่อน” เงื่อนไขของแผนสมัครสมาชิกรายปีที่ต้องจ่ายรายเดือนไว้ใน “ตัวอักษรขนาดเล็กและอยู่หลังช่องข้อความและลิงก์ที่เลือกได้” ซึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถเปิดเผยค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนดที่เกิดขึ้นเมื่อยกเลิกการสมัคร “ซึ่งอาจมีมูลค่าหลายร้อยดอลลาร์” ตามที่ระบุในคำร้อง
เมื่อลูกค้าพยายามยกเลิกสมาชิก FTC กล่าวหาว่า Adobe กำหนดให้ลูกค้าต้องผ่านขั้นตอนการยกเลิกที่ “ยุ่งยากและซับซ้อน” ซึ่งต้องเลื่อนดูหลายหน้าเว็บและมีหน้าต่างป๊อปอัป รวมถึงยังมีการวางกับดักเอาไว้ด้วยค่าธรรมเนียมการยกเลิกก่อนกำหนด ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่อยากยกเลิกสมาชิก
นอกจากนี้ ลูกค้ายังต้องเผชิญกับอุปสรรคที่คล้ายคลึงกัน เมื่อพยายามยกเลิกการสมัครผ่านทางโทรศัพท์หรือผ่านแชทสด ตามที่ FTC กล่าวอ้าง คำร้องระบุว่า “ลูกค้าที่โทรศัพท์หรือแชทเพื่อยกเลิกบริการ มักถูกตัดการเชื่อมต่อ และเมื่อเชื่อมต่อกลับเข้ามา ก็ต้องอธิบายเหตุผลทั้งหมดใหม่อีกครั้ง”
คำฟ้องอ้างว่าการปฏิบัติเหล่านี้ละเมิดกฎหมายของรัฐบาลกลางที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้บริโภค
คดีนี้ยังมุ่งเป้าไปที่ผู้บริหารของ Adobe อย่าง Maninder Sawhney รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดและการขายดิจิทัล รวมถึง David Wadhwani ประธานธุรกิจสื่อดิจิทัลของบริษัท คำร้องระบุว่าผู้บริหารทั้งสองคน “กำกับ ควบคุม มีอำนาจในการควบคุม หรือมีส่วนร่วมในการกระทำและแนวปฏิบัติของ Adobe”
ในเบื้องต้นทาง Adobe ยังไม่ได้ตอบกลับหรือชี้แจงต่อคำร้องนี้ในทันที
ข้อมูลจาก The Verge