บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ผู้นำด้านพลังงานและโครงสร้างพื้นฐาน, บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (AIS) ผู้ให้บริการโครงข่ายดิจิทัลชั้นนำ และ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (สวพส.) ร่วมผนึกกำลังเปิดตัวโครงการ “Green Energy Green Network for THAIs พลังงานสะอาดเชื่อมเครือข่ายเพื่อคนไทย” โดยมุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในพื้นที่ห่างไกลให้เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น
“Green Energy Green Network for THAIs”
โครงการนำร่องเริ่มต้นที่ชุมชนบ้านดอกไม้สด และชุมชนมอโก้โพคี ต.แม่อุสุ อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดย GULF และ AIS จะส่งมอบพลังงานไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ให้ชุมชน พร้อมติดตั้งสถานีฐานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเชื่อมต่อเครือข่ายสัญญาณดิจิทัล ทั้งนี้ ทั้ง 3 องค์กรตั้งเป้าขยายผลโครงการต่อเนื่องในพื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนสาธารณูปโภคด้านพลังงานไฟฟ้าและระบบสื่อสาร โทรคมนาคม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้ทั้งชุมชนและเศรษฐกิจ
AIS มองว่าการเข้ามามีส่วนในโครงการนี้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนขององค์กร นอกจากจะช่วยขยายโครงข่ายดิจิทัลด้วยเทคโนโลยีและพลังงานทดแทนแล้ว ยังเปิดโอกาสให้คนในพื้นที่ห่างไกลได้เข้าถึงข้อมูล ความรู้ และบริการต่างๆ มากขึ้น ก่อเกิดประโยชน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข ตลอดจนคุณภาพชีวิต
ขณะที่ทาง GULF เล่าถึงจุดเริ่มต้นของโครงการว่าได้เข้าไปติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ในพื้นที่ห่างไกลหลายแห่งมาตั้งแต่ปี 2566 โดยเฉพาะที่ชุมชนมอโก้โพคีซึ่งเดิมประชาชนปลูกข้าวโพดและมีปัญหาการทำลายป่า GULF จึงได้เข้าไปสนับสนุนการปรับเปลี่ยนมาปลูกกาแฟแทน พร้อมสร้างโรงเรือนและติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ เพื่อใช้พลังงานสะอาดในการแปรรูปเมล็ดกาแฟให้มีคุณภาพ ถือเป็นการสร้างรายได้และอาชีพให้ชุมชนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ป่าไม้
ด้าน สวพส. ในฐานะหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาพื้นที่สูง ระบุว่าโครงการนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะช่วยให้ชุมชนเข้าถึงบริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน และยังสามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาในมิติอื่นๆ ทั้งด้านสาธารณสุข การศึกษา การพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและชุมชนอย่างยั่งยืน
นับเป็นความร่วมมือที่น่าชื่นชมของทั้ง 3 หน่วยงาน โดยเฉพาะการนำจุดแข็งขององค์กรมาช่วยแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม เพิ่มโอกาสให้ผู้คนในชุมชนห่างไกลได้เข้าถึงองค์ความรู้และบริการพื้นฐาน ซึ่งจะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โครงการนี้จึงนับเป็นต้นแบบที่ดีของการร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการสร้างประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเพื่อนร่วมสังคมในทุกพื้นที่ของประเทศให้ดีขึ้นอย่างทั่วถึง