เปิด ราคา NEW MG MAXUS 7 เริ่มต้น 1.769 ล้านบาท กับรถยนต์ไฟฟ้า e-MPV ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นล่าสุด ในตระกูล MG MAXUS ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของครอบครัวยุคใหม่ได้อย่างลงตัวในราคาที่เป็นมิตร พร้อมเริ่มส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
NEW MG MAXUS 7
มาพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัยแต่แฝงด้วยความหรูหราน่าประทับใจ อาทิ กระจังหน้าที่ถูกออกแบบให้เป็นกระจังไร้ช่องแบบ Grille-less Design, ประตูสไลด์ด้านข้างที่สามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าควบคู่มากับมือจับประตูแบบซ่อนในตัวรถ (Hidden Door Handle), ฝากระโปรงท้ายที่เปิดและปิดได้ด้วยระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ พร้อมด้วยหลังคาพาโนรามิกซันรูฟแบบ One Touch ที่สามารถเปิดและปิดได้ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว
ในส่วนของห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้มีความกว้างขวางเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายและตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว โดยโดดเด่นด้วยคอนโซลด้านหน้าแบบ Double Layer ที่มีที่วางแก้วและจุดชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless Charger) ในขณะที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้าจะได้สัมผัสประสบการณ์การนั่งที่สบายด้วยเบาะนั่งปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางและ 4 ทิศทางตามลำดับ โดยในแถวที่สองนั้นมาในแบบ Captain Seat ที่ปรับได้ด้วยระบบแมนนวลและถูกออกแบบให้โอบรับสรีระของผู้นั่งได้อย่างกระชับและผ่อนคลาย อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม ทั้งจอแสดงผลขนาดใหญ่ 12.3 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Apple CarPlay และ Android Auto, พอร์ต USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์, ระบบเครื่องเสียง 8 ลำโพงคุณภาพเยี่ยม, ระบบควบคุมอุณหภูมิแบบอัตโนมัติที่ตั้งค่าได้แยกโซนด้านหน้าและหลัง รวมไปถึงระบบฟอกอากาศที่สามารถกรองอนุภาคฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย
ในแง่ของสมรรถนะการขับขี่ NEW MG MAXUS 7 มาพร้อมกับขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous ที่สามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ 245 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร โดยรถรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาดความจุ 90 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งให้ระยะการขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสูงสุดถึง 570 กิโลเมตรตามมาตรฐาน NEDC
ทั้งนี้แบตเตอรี่ของ NEW MG MAXUS 7 ยังได้รับการจัดวางเซลล์ในรูปแบบ Cell-To-Pack และมีมาตรฐานความปลอดภัย IP67 ที่ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าสู่แผงวงจรไฟฟ้า รวมถึงสามารถรองรับการชาร์จด่วนได้สูงสุด 120 kWh ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 30% ไปถึง 80% ได้ภายในเวลาเพียง 30 นาที ในขณะที่การชาร์จไฟจากเต้ารับธรรมดาที่รองรับกำลังไฟสูงสุด 11 kWh จะใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่งในการชาร์จจาก 5% ไปถึง 100%
นอกจากนั้น NEW MG MAXUS 7 ยังสามารถทำหน้าที่เสมือนแหล่งจ่ายไฟเคลื่อนที่ (Mobile Power Station) ได้ด้วยเทคโนโลยี Vehicle-to-Load (V2L) ที่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้ากำลังสูงถึง 6.6 กิโลวัตต์ไปยังอุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ นอกตัวรถ หรือใช้ในการชาร์จไฟให้แก่รถยนต์ไฟฟ้าคันอื่นๆ ได้อีกด้วย พร้อมมอบความอุ่นใจตลอดการเดินทางด้วยชุดอุปกรณ์ความปลอดภัยขั้นสูงมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ที่มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะหรือ ADAS มากถึง 25 รายการ ซึ่งได้รับการรับรองในระดับความปลอดภัยสูงสุด 5 ดาวจากองค์กรประเมินความปลอดภัยชั้นนำระดับโลกอย่าง Euro NCAP และ ANCAP
ความโดดเด่นของ NEW MG MAXUS 7 จะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นด้วยตัวเลือกสีตัวถังถึง 4 สี ได้แก่ สีขาวมุก (Pearl White), สีดำไนท์ (Black Night), สีเขียวมรกต (Emerald Green) และสีเทาพิเศษประกบคู่สีดำที่หลังคา (Grey/Black) ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก 20,000 บาท โดยทั้งสีขาวและดำจะมาพร้อมกับโทนสีดำและน้ำตาลที่ภายใน ขณะที่สีเขียวมรกตนั้นจะใช้โทนสีขาวในห้องโดยสาร
ราคา จำหน่ายของ NEW MG MAXUS 7 อยู่ที่ 1,769,000 บาท พร้อมเอ็กซ์คลูซีฟแคมเปญที่มีมูลค่าสะสมกว่า 120,000 บาท ประกอบด้วย สถานีชาร์จ MG HOME CHARGER 1 ชุด พร้อมบริการติดตั้ง, อุปกรณ์จ่ายกระแสไฟ V2L อีก 1 ชุด, ประกันภัยชั้น 1 และภาษี พ.ร.บ. ที่ให้ความคุ้มครองตลอด 1 ปี นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปีหรือระยะทาง 200,000 กิโลเมตร รวมถึงการรับประกันคุณภาพตัวรถที่ขยายเป็น 5 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร พร้อมสิทธิพิเศษด้านการให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงและบริการรถลีมูซีนสำหรับกรณีรถเสียโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตลอดระยะเวลา 5 ปีเต็ม
นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้วางเป้าหมายในการจัดส่ง NEW MG MAXUS 7 ถึงมือลูกค้าจำนวน 1,500 คันภายในปีนี้ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นครอบครัวรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เวลาที่มีคุณภาพกับคนที่รักและผู้ที่อยู่ในความดูแล
นอกจากความพร้อมด้านตัวรถแล้ว เอ็มจียังตั้งใจที่จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าในไทยด้วยการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จ MG SUPER CHARGE STATION ที่ให้บริการชาร์จไฟด่วนแบบไม่มีค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมกว่า 147 จุด ควบคู่ไปกับการเพิ่มศูนย์บริการมาตรฐานรองรับการดูแลรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ใช้เอ็มจีให้ได้ถึง 150 แห่งทั่วประเทศ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ผู้ใช้รถอีวีสามารถใช้รถได้อย่างไร้กังวลตลอดการเดินทางในทุกพื้นที่
จากการตอบรับที่ดีเยี่ยมล่วงหน้าจากการเปิดตัว NEW MG MAXUS 7 ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่มียอดจองรถรุ่นนี้สะสมกว่า 300 คัน ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การขยายตลาดและสร้างทางเลือกที่ลงตัวให้กับผู้บริโภคชาวไทย