ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว การใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการประมวลผล AI กลายเป็นประเด็นสำคัญที่หลายองค์กรให้ความสนใจ ล่าสุด Amazon Web Services (AWS) ผู้นำด้านบริการคลาวด์ระดับโลก ได้เปิดเผยผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้บริการคลาวด์ของ AWS สามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการประมวลผล AI ได้ถึง 99% เมื่อเทียบกับการใช้งานบนศูนย์ข้อมูลภายในองค์กร
ผลการศึกษาแสดงประสิทธิภาพที่เหนือกว่า
จากรายงานการศึกษาที่จัดทำร่วมกับบริษัท Accenture พบว่าโครงสร้างพื้นฐานของ AWS มีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบที่ติดตั้งอยู่ภายในองค์กรถึง 4.1 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับงานประมวลผลที่ต้องใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์สูง เช่น การทำงานด้าน AI และ Machine Learning ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากถึง 99% ในหลายภูมิภาคทั่วโลก การศึกษานี้ใช้มาตรฐาน International Organization for Standardization (ISO) Software Carbon Intensity (SCI) ในการวิเคราะห์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของงานประมวลผลต่างๆ
นวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
AWS ได้พัฒนานวัตกรรมหลายด้านเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดการปล่อยคาร์บอนจากงานประมวลผล AI ดังนี้
- การออกแบบโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล: AWS ได้ออกแบบศูนย์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้พลังงาน ตั้งแต่ระบบการกระจายไฟฟ้าไปจนถึงเทคนิคการระบายความร้อน
- การพัฒนาระบบระบายความร้อน: AWS ใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนที่ทันสมัย รวมถึงการนำอากาศเย็นจากธรรมชาติมาใช้ และการใช้ระบบระบายความร้อนแบบผสมผสานระหว่างอากาศและของเหลวสำหรับชิป AI ประสิทธิภาพสูง
- การใช้พลังงานหมุนเวียน: AWS มุ่งมั่นที่จะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ในการดำเนินงาน โดยปัจจุบันมี AWS Region 19 แห่งที่ใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดแล้ว
- การออกแบบชิปประมวลผลเฉพาะทาง: AWS ได้พัฒนาชิป เช่น AWS Trainium และ AWS Inferentia ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานด้าน AI โดยเฉพาะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน
- การจัดเก็บและสำรองข้อมูลอย่างชาญฉลาด: AWS ให้เครื่องมือและแนวทางในการจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการใช้พลังงานและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและแนวโน้มในอนาคต
การศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริการคลาวด์ในการช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เทคโนโลยี AI ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายองค์กรกำลังให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในยุคที่การใช้งาน AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซานเจย์ พอดเดอร์ Global lead for Technology Sustainability Innovation ของ Accenture กล่าวว่า “ในขณะที่ความต้องการใช้ AI ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความยั่งยืนผ่านทางเทคโนโลยีจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมกับขับเคลื่อนนวัตกรรมไปพร้อมกัน”
ความมุ่งมั่นของ AWS ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
AWS ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนสำหรับลูกค้าและโลกที่เราอาศัยอยู่ร่วมกัน โดยตั้งเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ในการดำเนินงานทั้งหมดภายในปี 2583
คริส วอล์คเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนของ AWS กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นที่จะหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในสถานประกอบการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงการออกแบบศูนย์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้น รวมถึงการลงทุนในชิปที่ออกแบบมาโดยเฉพาะและนวัตกรรมในการระบายความร้อน”
การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการใช้บริการคลาวด์ของ AWS ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการใช้เทคโนโลยี AI อีกด้วย ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาระบบ AI อย่างยั่งยืนในอนาคต
ข้อมูลจาก AWS